นักศึกษาศิลปรรมฯ มรภ.สงขลา นำเสนอผลงานนาฏยรังสรรค์สู่ชุมชน ครั้งที่ 3 จัดเต็ม 4 ชุดการแสดง ชมฟรีโนราทำบทฉลอง 100 ปีราชภัฏ ระบำลั่นกลองทำนองเท่งตุง ระบำอามิสบูชาแห่ผ้าขึ้นเขากุฏิ ราชินีไม้ประดับ สะท้อนเอกลักษณ์ วัฒนธรรมพื้นบ้านภาคใต้
ผศ.ดร.ไชยวุธ โกศล คณบดีคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา (มรภ.สงขลา) เปิดเผยถึงการนำเสนอผลงานของนักศึกษาชั้นปีที่ 4 โปรแกรมวิชานาฏศิลป์และการแสดง ในโครงการนาฏยรังสรรค์สู่ชุมชน ครั้งที่ 3 วันที่ 18 พฤศจิกายน 2561 ณ หับ โห้ หิ้น (โรงสีแดง) ตั้งแต่เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป (ชมฟรี) ว่า ในปีนี้นักศึกษานำการแสดงต่างๆ รวม 4 ชุด ได้แก่ 1. ระบำลั่นกลองทำนองเท่งตุง 2. ระบำอามิสบูชาแห่ผ้าขึ้นเขากุฏิ 3. Queen Of Ornamental plant (ราชินีไม้ประดับ) และ 4. การแสดงโนราทำบทราชภัฏสงขลา เผยแพร่สู่สายตาสาธารณชน ซึ่งการแสดงนาฏยรังสรรค์ถือเป็นผลงานการสร้างสรรค์การแสดงใหม่ๆ ของทางโปรแกรมฯ ที่มีมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน แสดงถึงศักยภาพของบัณฑิตนาฏยรังสรรค์ได้เป็นอย่างดี สร้างชื่อเสียงให้แก่ทางคณะฯ และมหาวิทยาลัยตลอดมา
ด้าน ผศ.ทัศนียา คัญทะชา ประธานโปรแกรมวิชานาฏศิลป์และการแสดง กล่าวว่า การแสดงแต่ละชุดมีความโดดเด่นและน่าสนใจ เริ่มจากโนราทำบทราชภัฏสงขลาที่มีแนวคิดว่าในปี พ.ศ.2562 มรภ.สงขลา จะมีอายุครบ 1 ศตวรรษ นักศึกษาจึงสร้างสรรค์การแสดงโนราชุดนี้ขึ้นมา เพื่อเป็นเอกลักษณ์ของมหาลัยวิทยาลัย รูปแบบของการแสดงช่วงที่ 1 เป็นการรำประสมท่าหรือการรำเพลงโค ซึ่งนำท่ารำมาจากขุนอุปถัมภ์นรากร มาจากบทครูสอน บทสอนรำและบทปฐม มาผสมผสานกันจนทำให้เกิดท่ารำใหม่ ช่วงที่ 2 การรำทำบท 100 ปีราชภัฏสงขลา กล่าวถึงประวัติของมหาวิทยาลัยตั้งแต่ก่อตั้งจนถึงปัจจุบัน และ ช่วงที่ 3 การรำท่าครู ส่วนการแสดงชุดระบำลั่นกลองทำนองเท่งตุง เป็นระบำพื้นบ้านภาคใต้ที่มีแนวคิดในการนำกลองตุ๊ก ซึ่งเป็นเครื่องดนตรีที่มีความสำคัญต่อการแสดงตั้งแต่สมัยโบราณ ได้รับอิทธิพลมาจากประเทศอินเดีย มาเป็นองค์ประกอบในการแสดง ใช้จังหวะที่สนุกสนานเร้าใจ ผสมผสานกับท่าทางการร่ายรำโนราซึ่งเป็นระบำพื้นบ้านภาคใต้
ผศ.ทัศนียา กล่าวอีกว่า สำหรับการแสดงชุดระบำอามิสบูชาแห่ผ้าขึ้นเขากุฏิ มีแนวคิดจากการนำขั้นตอนประเพณีแห่ผ้าขึ้นเขากุฏิมาสร้างสรรค์เป็นชุดการแสดง โดยในรัชสมัยสมเด็จพระเอกาทศรถ สมเด็จเจ้าเกาะยอเดินธุดงค์จากกรุงศรีอยุธยามายังเมืองสงขลา เมื่อเดินทางมาถึง ต.เกาะยอ อำเภอเมืองสงขลา ได้เผยแผ่พระพุทธศาสนาให้กับชาวบ้าน ทำให้ชาวบ้านเกิดความเลื่อมใสศรัทธา จึงสร้างกุฏิให้สมเด็จเจ้าเกาะยอ ตั้งอยู่บนยอดเขาสูงสุดของเกาะยอ ซึ่ง (ปัจจุบันเรียกว่าเขากุฏิ) ภายหลังสมเด็จเจ้าเกาะยอมรณภาพชาวบ้านจึงสร้างองค์พระเจดีย์เพื่อบรรจุอัฐิของสมเด็จเจ้าเกาะยอ และสร้างเทวดาตามมุมองค์พระเจดีย์ไว้ทั้ง 4 ทิศ คือ เทพพนม และท้าวจตุโลกบาล เสมือนเป็นการปกปักษ์รักษาสมเด็จเจ้าเกาะยอ องค์พระเจดีย์นี้เป็นอนุสรณ์สถานไว้ให้กับชาวเกาะยอเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ และถือกำเนิดประเพณีแห่ผ้าในเวลาต่อมา
ในส่วนของการแสดงชุด Queen Of Ornamental plant (ราชินีไม้ประดับ) มีแนวคิดจากการนำดอกเฟื่องฟ้าซึ่งเป็นดอกไม้ประจำ จ.สงขลา มานำเสนอถึงความสวยงามเบ่งบานสะพรั่ง ดอกเฟื่องฟ้ามีคุณประโยชน์มากมาย อดทนต่อทุกสภาพอากาศ คนไทยโบราณมีความเชื่อว่าเป็นไม้มงคล เมื่อดอกเฟื่องฟ้าบานจึงแสดงถึงความเบิกบาน สว่างไสว ความรุ่งเรืองแห่งชีวิต นักศึกษานาฏยรังสรรค์จึงต้องการนำเสนอเอกลักษณ์ของดอกเฟื่องฟ้าที่ผลิดอกเป็นกลุ่มช่อ และทนต่อแดด ลม ฝน วิกฤตการณ์ทางธรรมชาติ แต่ก็สามารถผ่านช่วงวิกฤตการณ์เหล่านั้นมาได้ เช่นเดียวกับการดำรงชีวิตของคนเราที่ต้องเจออุปสรรค แต่ท้ายที่สุดสามารถผ่านพ้นไปได้ด้วยดี.
ภาพ/ข่าว มรภ.สงขลา
สำนักข่าวบ้านข่าว รายงาน
November 21, 2025
November 19, 2025
November 18, 2025
November 17, 2025
ชื่อ-สกุล*
อีเมล์*
เว็ปไซต์
แสดงความคิดเห็น
Notify me of follow-up comments by email.
Notify me of new posts by email.
Δ
มรภ.สงขลา เชิญชมการแสดง “นาฏยรังสรรค์สู่ชุมชน” ครั้งที่ 3
นักศึกษาศิลปรรมฯ มรภ.สงขลา นำเสนอผลงานนาฏยรังสรรค์สู่ชุมชน ครั้งที่ 3 จัดเต็ม 4 ชุดการแสดง ชมฟรีโนราทำบทฉลอง 100 ปีราชภัฏ ระบำลั่นกลองทำนองเท่งตุง ระบำอามิสบูชาแห่ผ้าขึ้นเขากุฏิ ราชินีไม้ประดับ สะท้อนเอกลักษณ์ วัฒนธรรมพื้นบ้านภาคใต้
ผศ.ดร.ไชยวุธ โกศล คณบดีคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา (มรภ.สงขลา) เปิดเผยถึงการนำเสนอผลงานของนักศึกษาชั้นปีที่ 4 โปรแกรมวิชานาฏศิลป์และการแสดง ในโครงการนาฏยรังสรรค์สู่ชุมชน ครั้งที่ 3 วันที่ 18 พฤศจิกายน 2561 ณ หับ โห้ หิ้น (โรงสีแดง) ตั้งแต่เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป (ชมฟรี) ว่า ในปีนี้นักศึกษานำการแสดงต่างๆ รวม 4 ชุด ได้แก่ 1. ระบำลั่นกลองทำนองเท่งตุง 2. ระบำอามิสบูชาแห่ผ้าขึ้นเขากุฏิ 3. Queen Of Ornamental plant (ราชินีไม้ประดับ) และ 4. การแสดงโนราทำบทราชภัฏสงขลา เผยแพร่สู่สายตาสาธารณชน ซึ่งการแสดงนาฏยรังสรรค์ถือเป็นผลงานการสร้างสรรค์การแสดงใหม่ๆ ของทางโปรแกรมฯ ที่มีมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน แสดงถึงศักยภาพของบัณฑิตนาฏยรังสรรค์ได้เป็นอย่างดี สร้างชื่อเสียงให้แก่ทางคณะฯ และมหาวิทยาลัยตลอดมา
ด้าน ผศ.ทัศนียา คัญทะชา ประธานโปรแกรมวิชานาฏศิลป์และการแสดง กล่าวว่า การแสดงแต่ละชุดมีความโดดเด่นและน่าสนใจ เริ่มจากโนราทำบทราชภัฏสงขลาที่มีแนวคิดว่าในปี พ.ศ.2562 มรภ.สงขลา จะมีอายุครบ 1 ศตวรรษ นักศึกษาจึงสร้างสรรค์การแสดงโนราชุดนี้ขึ้นมา เพื่อเป็นเอกลักษณ์ของมหาลัยวิทยาลัย รูปแบบของการแสดงช่วงที่ 1 เป็นการรำประสมท่าหรือการรำเพลงโค ซึ่งนำท่ารำมาจากขุนอุปถัมภ์นรากร มาจากบทครูสอน บทสอนรำและบทปฐม มาผสมผสานกันจนทำให้เกิดท่ารำใหม่ ช่วงที่ 2 การรำทำบท 100 ปีราชภัฏสงขลา กล่าวถึงประวัติของมหาวิทยาลัยตั้งแต่ก่อตั้งจนถึงปัจจุบัน และ ช่วงที่ 3 การรำท่าครู ส่วนการแสดงชุดระบำลั่นกลองทำนองเท่งตุง เป็นระบำพื้นบ้านภาคใต้ที่มีแนวคิดในการนำกลองตุ๊ก ซึ่งเป็นเครื่องดนตรีที่มีความสำคัญต่อการแสดงตั้งแต่สมัยโบราณ ได้รับอิทธิพลมาจากประเทศอินเดีย มาเป็นองค์ประกอบในการแสดง ใช้จังหวะที่สนุกสนานเร้าใจ ผสมผสานกับท่าทางการร่ายรำโนราซึ่งเป็นระบำพื้นบ้านภาคใต้
ผศ.ทัศนียา กล่าวอีกว่า สำหรับการแสดงชุดระบำอามิสบูชาแห่ผ้าขึ้นเขากุฏิ มีแนวคิดจากการนำขั้นตอนประเพณีแห่ผ้าขึ้นเขากุฏิมาสร้างสรรค์เป็นชุดการแสดง โดยในรัชสมัยสมเด็จพระเอกาทศรถ สมเด็จเจ้าเกาะยอเดินธุดงค์จากกรุงศรีอยุธยามายังเมืองสงขลา เมื่อเดินทางมาถึง ต.เกาะยอ อำเภอเมืองสงขลา ได้เผยแผ่พระพุทธศาสนาให้กับชาวบ้าน ทำให้ชาวบ้านเกิดความเลื่อมใสศรัทธา จึงสร้างกุฏิให้สมเด็จเจ้าเกาะยอ ตั้งอยู่บนยอดเขาสูงสุดของเกาะยอ ซึ่ง (ปัจจุบันเรียกว่าเขากุฏิ) ภายหลังสมเด็จเจ้าเกาะยอมรณภาพชาวบ้านจึงสร้างองค์พระเจดีย์เพื่อบรรจุอัฐิของสมเด็จเจ้าเกาะยอ และสร้างเทวดาตามมุมองค์พระเจดีย์ไว้ทั้ง 4 ทิศ คือ เทพพนม และท้าวจตุโลกบาล เสมือนเป็นการปกปักษ์รักษาสมเด็จเจ้าเกาะยอ องค์พระเจดีย์นี้เป็นอนุสรณ์สถานไว้ให้กับชาวเกาะยอเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ และถือกำเนิดประเพณีแห่ผ้าในเวลาต่อมา
ในส่วนของการแสดงชุด Queen Of Ornamental plant (ราชินีไม้ประดับ) มีแนวคิดจากการนำดอกเฟื่องฟ้าซึ่งเป็นดอกไม้ประจำ จ.สงขลา มานำเสนอถึงความสวยงามเบ่งบานสะพรั่ง ดอกเฟื่องฟ้ามีคุณประโยชน์มากมาย อดทนต่อทุกสภาพอากาศ คนไทยโบราณมีความเชื่อว่าเป็นไม้มงคล เมื่อดอกเฟื่องฟ้าบานจึงแสดงถึงความเบิกบาน สว่างไสว ความรุ่งเรืองแห่งชีวิต นักศึกษานาฏยรังสรรค์จึงต้องการนำเสนอเอกลักษณ์ของดอกเฟื่องฟ้าที่ผลิดอกเป็นกลุ่มช่อ และทนต่อแดด ลม ฝน วิกฤตการณ์ทางธรรมชาติ แต่ก็สามารถผ่านช่วงวิกฤตการณ์เหล่านั้นมาได้ เช่นเดียวกับการดำรงชีวิตของคนเราที่ต้องเจออุปสรรค แต่ท้ายที่สุดสามารถผ่านพ้นไปได้ด้วยดี.
สำนักข่าวบ้านข่าว รายงาน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ม.ทักษิณ เปิดสนามประลองไอเดียธุรกิจ TSU Premier Pitch 2025 ดันนิสิตสู่ธุรกิจสตาร์ทอัพ
November 21, 2025
มรภ.สงขลา เยือน มรภ.วไลยอลงกรณ์ฯ จัดอบรมใช้งานระบบ “Big Data” ครั้งที่ ...
November 19, 2025
สกสว. จัดงาน Thailand Talent Summit 2025 รวมพลนักวิจัยไทยกว่า ...
November 18, 2025
มรภ.สงขลา มอบประกาศนียบัตรบัณฑิตพันธุ์ใหม่ หลักสูตรประยุกต์ใช้เทคโนโลยีอัจฉริยะเพื่อพัฒนาสื่อการเรียนการสอนดิจิทัลฯ ยกระดับขีดความสามารถบุคลากรทางการศึกษา พัฒนาผู้เรียนอย่างยั่งยืน
November 17, 2025