อาวุธสงครามนานาชนิด เครื่องกระสุนหลายขนาด อุปกรณ์ผลิตวัตถุระเบิด รวมทั้งเครื่องมือสื่อสารที่ ตรวจพบในสวนยางพาราในพื้นที่ ต.บูกิต อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส โดยการชี้พิกัดจุดซุกซ่อนจากผู้ต้องหาในคดีความมั่นคงรายหนึ่งเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 55 ต่อเนื่องมาถึงการปิดล้อมตรวจค้นบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี โดยการแจ้งเบาะแสจากประชาชนในพื้นที่ จนสามารถควบคุมตัวผู้ต้องหาที่มีหมายจับ ป.วิอาญา หลบซ่อนอยู่จำนวน 5 คน เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2556 นับว่าเป็นความร่วมมือจากประขาชนที่เริ่มเบื่อหน่ายกับการก่อเหตุรุนแรง และแสดงถึงความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมของผู้ที่อยู่ในขบวนการที่ต้องการยุติการต่อสู้ และหันมาร่วมมือกับทางราชการเพื่อสร้างความสันติสุขให้เกิดขึ้น

เป็นที่ทราบกันดีจากการบอกเล่าของผู้ที่เป็นสมาชิกขบวนการซึ่งได้ออกมารายงานตัวหลายรายว่า การเข้าร่วมและเป็นสมาชิกของขบวนการนั้นมีกฎในการปฏิบัติซึ่งทุกคนต้องผ่านพิธีปฏิญาณตน หรือซุมเปาะห์ว่าจะไม่ทรยศและแพร่งพรายความลับอีกทั้งกฎข้ออื่นๆ อีกหลายประการ การที่บุคคลในกลุ่มยอมเปิดเผยแหล่งซุกซ่อนอาวุธและยอมฝ่าฝืนกฎดังกล่าวจึงเป็นเรื่องที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง

ก่อนหน้านี้มีผู้ก่อเหตุหลายรายทั้งที่ออกมารายงานตัวและถูกจับกุมได้เปิดเผยว่า การใช้ชีวิตในระหว่างอยู่ในขบวนการทำให้ตนเองและครอบครัวต้องพบกับความสูญเสีย ต้องพลัดพรากละทิ้งจากกัน ภรรยาต้องรับผิดชอบในครอบครัวเพียงลำพัง เพราะตนเองต้องคอยรับคำสั่งจากขบวนการให้กระทำการครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างไม่มีวันจบสิ้น และทุกครั้งต้องกระทำในสิ่งที่ขัดแย้งกับความรู้สึกของตนเองกับอุดมการณ์และศาสนาที่ขบวนการนำมากล่าวอ้าง แต่ต้อง ฝืนใจกระทำเนื่องจากตกอยู่ภายใต้กฎของการซุมเปาะห์ ซึ่งยากต่อการถอนตัวออกมา เพราะจะส่งผลถึงความปลอดภัยต่อตนเองและครอบครัว แม้กระนั้นก็ตามเขายังต้องคอยหลบซ่อนระวังตัวตลอดเวลา ทำให้ชีวิตเสมือนแขวนอยู่บนเส้นด้าย

นายรุสตันฯ ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ตกอยู่ในสภาพดังกล่าว อีกทั้งขณะที่ถูกควบคุมตัวโดยหน่วยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 48 รวมทั้งเจ้าหน้าที่อื่นๆ ทุกฝ่าย ได้ปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมายอย่างถูกต้อง และนายรุสตันฯ ได้รับสิทธิในฐานะเป็นผู้ที่ต้องสงสัยอย่างครบถ้วน รวมทั้งได้รับการปฏิบัติตามหลักสิทธิมนุษยชนอย่างสมบูรณ์เช่นเดียวกับผู้ต้องหาคดีอื่นๆ อีกทั้งนโยบายของรัฐบาลในการยื่นมือให้ความช่วยเหลือด้านคดีความ ทำให้เขาได้รับในสิ่งที่ตรงข้ามกับความคาดคิดถึงสิ่งที่จะเกิดกับตนเองในฐานะผู้ร้ายคนหนึ่ง จนเกิดจิตสำนึกและความเชื่อมั่นต่อกระบวนการยุติธรรม ทำให้เขาเปลี่ยนวิกฤตชีวิตใช้โอกาสจากการถูกจับกุมเข้ามาร่วมมือกับฝ่ายรัฐเช่นเดียวกับคนอื่นๆ ก่อนหน้านี้หลายราย

สิ่งเหล่านี้นับเป็นอีกสัญญาณหนึ่งของความสันติสุขที่กำลังจะเกิดขึ้น เพราะยังมีผู้ที่หลงผิดอีกจำนวนมากซึ่งคอยโอกาสเหล่านั้น ไม่มีคำว่า “สาย” สำหรับผู้ที่รู้ตัวว่ากำลังหลงทางและตกอยู่ภายใต้การครอบงำของกลุ่มคนนอกกฎหมายและต้องการที่จะออกสู่พื้นที่การให้อภัยตามกฎหมายมาตรา ๒๑ แห่งพระราชบัญญัติความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ซึ่งเปรียบเสมือนประตูสู่ความเป็นอิสรภาพและหนทางสู่สันติ ซึ่งทางราชการพร้อมแล้วที่จะให้การต้อนรับและได้จัดผู้ประสานงานให้ความช่วยเหลือในทุกด้าน โดยติดต่อทางโทรศัพท์หมายเลข 1341 และ 1881 หรือ 073 -262680-1 ได้ตลอดเวลา.

จ.ส.อ.อับดุลกอเดร์ สะมานะอะ

ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กอ.รมน.ภาค ๔ สน./เรียบเรียง

ขอขอบคุณภาพจาก  ASTV South.com