วันที่ 13 กันยายน 2560 ที่ห้องประชุมประทุมลาภ โรงแรมทวินโลตัสนครศรีธรรมราช นายดนัย เจียมวิเศษสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นประธานการประชุมเสวนาขับเคลื่อนแผนการอุปถัมภ์คุ้มครองศาสนาต่างๆ ภายใต้คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 49 / 2559 โดยมีผู้นำศาสนาพุทธ คริสต์ และอิสลาม หัวหน้าส่วนราชการ และหน่วยงานต่าง ๆ ที่มีภารกิจสอดคล้องกับแผนการอุปถัมภ์คุ้มครองศาสนาต่าง ๆ เข้าร่วมประชุมเสวนา ซึ่งการประชุมเสวนาขับเคลื่อนแผนการอุปถัมภ์คุ้มครองศาสนาต่างๆ เป็นโครงการที่สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดนครศรีธรรมราช ดำเนินการตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ และรัฐบาลไทย โดย พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ในเรื่องมาตรการอุปถัมภ์และคุ้มครองศาสนาต่าง ๆ ในประเทศไทย เพื่อเป็นมาตรการและกลไกในการส่งเสริมความเข้าใจอันดี และความสมานฉันท์ของศาสนิกชนของทุกศาสนา นำไปสู่การปฏิรูปประเทศ โดยในการเสวนาในวันนี้ได้รับเกียรติจาก ดร.นครินทร์ แก้วโชติรุ่ง นักวิชาการศาสนา กรมศาสนา มาบรรยายให้ความรู้การขับเคลื่อนแผนการอุปถัมภ์คุ้มครองศาสนาต่าง ๆ และการอภิปรายเรื่องแนวทางการขดลดหย่อนภาษีในการบริจาคให้ศาสนสถาน ของสมาคม มูลนิธิที่ดำเนินงานด้านศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรมด้วย
นายดนัย เจียมวิเศษสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า หลักการพื้นฐานเพื่อการบริหารจัดการแผนการอุปถัมภ์คุ้มครองศาสนาต่าง ๆ ภายใต้คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 49/2559 เป็นการขับเคลื่อนการอุปถัมภ์และคุ้มครองศาสนาขั้นต้น สร้างการยอมรับและการมีส่วนร่วมในการอุปถัมภ์และคุ้มครองศาสนาอย่างกว้างขวาง มุ่งให้เกิดกระบวนการบูรณาการเชื่อมโยงยุทธศาสตร์ทั้งฉบับกับทุกภาคส่วนของสังคม พร้อมทั้งผลักดันให้คนไทยทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการส่งเสริมศาสนา โดยยึดตามแผนการอุปถัมภ์คุ้มครองศาสนาต่าง ๆ เป็นกรอบทิศทางในการปฏิบัติ อีกทั้งนำองค์ความรู้และกลไกภาคีเครือข่าย เป็นเครื่องมือในการกระจายการส่งเสริมศาสนาลงสู่ระดับพื้นที่ชุมชนด้วยยุทธศาสตร์ 6 ข้อสำคัญ ได้แก่ ส่งเสริมและสนับสนุนศาสนา ส่งเสริมและสนับสนุนการเผยแพร่หลักธรรมที่ถูกต้อง อุปถัมภ์ศาสนา คุ้มครองป้องกันการบ่อนทำลายศาสนา สร้างความเข้าใจอันดีและความร่วมมือระหว่างศาสนา และสร้างการรับรู้และความเข้าใจในกิจการศาสนา ซึ่งทั้ง 6 ยุทธศาสตร์นี้จะนำไปสู่ผลสำเร็จทำให้ประเทศชาติเกิดความสงบสุข ร่มเย็น ศาสนิกชนทุกศาสนาอยู่ร่วมกันในสังคมได้อย่างสงบสุข มีความปรองดองและสมานฉันท์ ประชาชนมีพฤติกรรที่ถูกต้องดีงาม ไม่มีอคติกับศาสนาอื่น โดยปฏิบัติตามหลักธรรมทางศาสนา น้องนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้ในชีวิต ดำรงรักษาไว้ซึ่งวิถีวัฒนธรรมไทย มีความสุขอย่างมั่นคงและยั่งยืน.
พรรณี กลสามัญ/ภาพ-ข่าว สำนักข่าวบ้านข่าว รายงาน
November 21, 2024
November 20, 2024
November 19, 2024
ชื่อ-สกุล*
อีเมล์*
เว็ปไซต์
แสดงความคิดเห็น
Notify me of follow-up comments by email.
Notify me of new posts by email.
Δ
จังหวัดนครศรีธรรมราชประชุมเสวนาขับเคลื่อนแผนการอุปถัมภ์คุ้มครองศาสนาต่างๆ ภายใต้คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 49 / 2559 เพื่อความสงบสุข ร่มเย็น ของศาสนิกชนทุกศาสนา
วันที่ 13 กันยายน 2560 ที่ห้องประชุมประทุมลาภ โรงแรมทวินโลตัสนครศรีธรรมราช นายดนัย เจียมวิเศษสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นประธานการประชุมเสวนาขับเคลื่อนแผนการอุปถัมภ์คุ้มครองศาสนาต่างๆ ภายใต้คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 49 / 2559 โดยมีผู้นำศาสนาพุทธ คริสต์ และอิสลาม หัวหน้าส่วนราชการ และหน่วยงานต่าง ๆ ที่มีภารกิจสอดคล้องกับแผนการอุปถัมภ์คุ้มครองศาสนาต่าง ๆ เข้าร่วมประชุมเสวนา ซึ่งการประชุมเสวนาขับเคลื่อนแผนการอุปถัมภ์คุ้มครองศาสนาต่างๆ เป็นโครงการที่สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดนครศรีธรรมราช ดำเนินการตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ และรัฐบาลไทย โดย พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ในเรื่องมาตรการอุปถัมภ์และคุ้มครองศาสนาต่าง ๆ ในประเทศไทย เพื่อเป็นมาตรการและกลไกในการส่งเสริมความเข้าใจอันดี และความสมานฉันท์ของศาสนิกชนของทุกศาสนา นำไปสู่การปฏิรูปประเทศ โดยในการเสวนาในวันนี้ได้รับเกียรติจาก ดร.นครินทร์ แก้วโชติรุ่ง นักวิชาการศาสนา กรมศาสนา มาบรรยายให้ความรู้การขับเคลื่อนแผนการอุปถัมภ์คุ้มครองศาสนาต่าง ๆ และการอภิปรายเรื่องแนวทางการขดลดหย่อนภาษีในการบริจาคให้ศาสนสถาน ของสมาคม มูลนิธิที่ดำเนินงานด้านศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรมด้วย
นายดนัย เจียมวิเศษสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า หลักการพื้นฐานเพื่อการบริหารจัดการแผนการอุปถัมภ์คุ้มครองศาสนาต่าง ๆ ภายใต้คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 49/2559 เป็นการขับเคลื่อนการอุปถัมภ์และคุ้มครองศาสนาขั้นต้น สร้างการยอมรับและการมีส่วนร่วมในการอุปถัมภ์และคุ้มครองศาสนาอย่างกว้างขวาง มุ่งให้เกิดกระบวนการบูรณาการเชื่อมโยงยุทธศาสตร์ทั้งฉบับกับทุกภาคส่วนของสังคม พร้อมทั้งผลักดันให้คนไทยทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการส่งเสริมศาสนา โดยยึดตามแผนการอุปถัมภ์คุ้มครองศาสนาต่าง ๆ เป็นกรอบทิศทางในการปฏิบัติ อีกทั้งนำองค์ความรู้และกลไกภาคีเครือข่าย เป็นเครื่องมือในการกระจายการส่งเสริมศาสนาลงสู่ระดับพื้นที่ชุมชนด้วยยุทธศาสตร์ 6 ข้อสำคัญ ได้แก่ ส่งเสริมและสนับสนุนศาสนา ส่งเสริมและสนับสนุนการเผยแพร่หลักธรรมที่ถูกต้อง อุปถัมภ์ศาสนา คุ้มครองป้องกันการบ่อนทำลายศาสนา สร้างความเข้าใจอันดีและความร่วมมือระหว่างศาสนา และสร้างการรับรู้และความเข้าใจในกิจการศาสนา ซึ่งทั้ง 6 ยุทธศาสตร์นี้จะนำไปสู่ผลสำเร็จทำให้ประเทศชาติเกิดความสงบสุข ร่มเย็น ศาสนิกชนทุกศาสนาอยู่ร่วมกันในสังคมได้อย่างสงบสุข มีความปรองดองและสมานฉันท์ ประชาชนมีพฤติกรรที่ถูกต้องดีงาม ไม่มีอคติกับศาสนาอื่น โดยปฏิบัติตามหลักธรรมทางศาสนา น้องนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้ในชีวิต ดำรงรักษาไว้ซึ่งวิถีวัฒนธรรมไทย มีความสุขอย่างมั่นคงและยั่งยืน.
พรรณี กลสามัญ/ภาพ-ข่าว
สำนักข่าวบ้านข่าว รายงาน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
โรงไฟฟ้าขนอม ร่วมสืบสานประเพณีลอยกระทง สร้างความสุขทั่วอำเภอขนอม
November 21, 2024
โรงไฟฟ้าขนอม ร่วมส่งเสริมสุขภาพชุมชน สนับสนุนอบรม อสม.ใหม่/ทดแทน
November 21, 2024
อบจ.สงขลา ร่วมรับรางวัลประกาศเกียรติคุณ “ค่าของแผ่นดิน” ประจำปี 2566 ด้านการพัฒนาสังคมและส่งเสริมคุณภาพชีวิต จากโครงการ ...
November 20, 2024
อโกด้าเผย หาดใหญ่คว้าแชมป์เมืองท่องเที่ยวที่คุ้มค่าที่สุดในไทย ช่วงเทศกาลส่งท้ายปี
November 19, 2024