จังหวัดสุรินทร์ ร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ เทศบาลเมืองสุรินทร์ และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยจัดงานแห่เทียนพรรษาบนหลังช้างและตักบาตรบนหลังช้าง ประจำปี 2560 เพื่อเป็นการสืบทอดวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของชาวไทยและส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดสุรินทร์ โดยมีขบวนช้างเข้าร่วมกว่า 60 เชือก

บ่ายวันที่  7 ก.ค. 2560 ที่บริเวณอนุสาวรีย์พระยาสุรินทร์ภักดีศรีณรงค์จางวาง อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ นายอรรถพร สิงหวิชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เป็นประธานเปิดงาน มหกรรมแห่เทียนพรรษาบนหลังช้างและตักบาตรบนหลังช้าง ประจำปี 2560 เวลา 16.00 น. เป็นต้นไปจัดให้มีขบวนแห่เทียนพรรษาที่ตกแต่งอย่างสวยงามอลังการจาก 12 คุ้มวัดเคลื่อนไปตามถนนในเขตเทศบาลเมืองสุรินทร์ ประกอบด้วย วัดจำปาสุรินทร์ วัดเทพสุรินทร์ วัดพรหมสุรินทร์ วัดโคกบัวราย วัดหนองบัว วัดศาลาลอย (พระอารามหลวง) วัดกลางสุรินทร์ วัดโยธาประสิทธิ์ วัดประทุมเมฆ วัดบูรพาราม (พระอารามหลวงเฉลิมพระเกียรติ) วัดใหม่ศรีมากทอง และวัดจุมพลสุทธาวาส ต่างก็จัดริ้วขบวนฟ้อนรำศิลปวัฒนธรรมของชาวจังหวัดสุรินทร์ มาร่วมขบวนกันอย่างคึกคัก ด้วยการแต่งชุดผ้าไหมพื้นเมืองที่เป็นเอกลักษ์ของจังหวัดสุรินทร์ ผสมผสานกับวัฒนธรรม และขนบธรรมเนียมประเพณี กันอย่างกลมกลืน
และที่เป็นไฮไลท์ของงานในวันนี้นั่นคือ ขบวนแห่เทียนพรรษาบนหลังช้างที่ยิ่งใหญ่แห่งเดียวในโลก ซึ่งเป็นขบวนแห่เทียนที่ยิ่งใหญ่ โดยรังสรรค์ต้นเทียนเพื่อบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับช้างและพระพุทธศาสนา โดยได้อันเชิญองค์พระพิฆเนศที่เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำโครงการโลกของช้าง แหล่งท่องเที่ยวที่ยิ่งใหญ่ของโลก นำแบบมาแกะสลักบนรถเทียนพรรษา และประดับไฟให้มีความสวยงามอย่างน่าตื่นตาตื่นใจ และตามด้วยขบวนช้างประดับไฟที่สื่อให้เห็นถึงการไว้อาลัยต่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รวมทั้งขบวนที่แสดงถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ของพีน้องชาวจังหวัดสุรินทร์ โดยมีช้างที่ประดับไฟ แสง สี เข้าร่วมขบวนจำนวนทั้งสิ้น 66 เชือก เท่ากับพระชนมายุของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ ในหลวงรัชกาลที่ 10 ซึ่งในปีนี้ก็ได้รับความสนใจจากประชาชนชาวจังหวัดสุรินทร์ และนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศเดินทางมาเที่ยวชมกันอย่างเนืองแน่น

และอีกไฮไลท์ที่สำคัญและถือเป็นหนึ่งเดียวในโลกเช่นกัน คือในวันที่ 8 กรกฎาคม 2560 เวลา 07.00 น. เป็นพิธีทำบุญตักบาตรบนหลังช้าง โดยมีเจ้าคณะจังหวัดและพระเถระชั้นผู้ใหญ่ นั่งบนหลังช้างออกรับบิณฑบาตจากพุทธศาสนิกชนชาวจังหวัดสุรินทร์และนักท่องเที่ยวได้ร่วมทำบุญตักบาตรบนหลังช้างซึงเป็นที่เดียวในโลก.

ประนนท์ ไม้หอม /ส.ปชส.สุรินทร์/รายงาน