ก่อนแสงแรกเดินทางมาถึง ท้องฟ้าเริ่มระบายเฉดสีมาแต่ไกล หมอกบางๆ ล่องลอยอยู่ในแสงไฟหน้ารถ เส้นทางเพชรเกษมจากสงขลาสู่พัทลุงมากหลุมบ่อ สองข้างทางผู้คนเริ่มออกมาวิ่งออกกำลังกาย เป้าหมายของข้าพเจ้าคือ “ชัยบุรีโมเดล ไข่ไก่อารมณ์ดี-แฮปปี้ฟาร์ม” พื้นที่ตำบลชัยบุรี อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง ภายใต้โครงการวิจัยและนวัตกรรมแก้ไขปัญหาความยากจนแบบเบ็ดเสร็จและแม่นยำ จังหวัดพัทลุง
การเดินทางเร็วกว่าที่คิด เรามีเข็มทิศและ GPS ที่แม่นยำพอ ข้าพเจ้าถือโอกาสเดินสำรวจฟาร์มไก่อารมณ์ดีในโรงเรือนสร้างใหม่ ไก่ 400 ตัว เดินไปสวนมา ส่งเสียงร้องประชันขันแข่งกับเสียงรถไถที่ไม่ต้องเดินตามเหมือนในอดีต ในนาด้านหลังฟาร์มรถไถทำเทือกรอการหว่านดำเริ่มต้นฤดูกาลไว้แล้ว แดดเช้ากำลังเดินทางมาถึง นกยางเปีย ทอดน่องจิกเหยื่อในผืนนาโดยไม่มีท่าทีเกรงกลัวผู้คน
ข้าพเจ้าเดินไปยังเวทีที่เตรียมการไว้ด้านข้าง ประดับตกแต่งด้วยฟางข้าวและไข่ไก่รุ่นแรกในตะกร้า/ชะลอมแขวนไว้ดูแปลกจากที่คุ้นเคย ก่อนหยิบไข่ไก่มาพินิจ คิดไล่ไปถึงเมื่อครั้งวัยเยาว์ราวปี พ.ศ 2529-2530 พ่อเลี้ยงไก่ไข่ในระบบฟาร์มแบบขังกรง กว่า 1,000 ตัวเป็นอาชีพเสริม ข้าพเจ้ามีหน้าที่เก็บคัดและนำไปขายในตลาดนัดกับแม่ด้วยมอเตอร์ไซค์ ความทรงจำบนถนนขรุขระ ทุลักทุเลนั้นหวนคืนมาอย่างมีความสุข
ชัยบุรีโมเดล ไข่ไก่อารมณ์ดี-แฮปปี้ฟาร์ม เป็นโมเดลปฏิบัติการ ภายใต้โครงการวิจัยและนวัตกรรมแก้ไขปัญหาความยากจนแบบเบ็ดเสร็จและแม่นยำ จังหวัดพัทลุง ที่มหาวิทยาลัยทักษิณ ภายใต้การสนับสนุนของหน่วยบริหารจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) ร่วมกับองค์กรภาคีในระดับพื้นที่-ท้องที่ ท้องถิ่น และหน่วยงานราชการในระดับจังหวัด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัด สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) องค์การบริหารส่วนตำบลและเครือข่ายสวัสดิการชุมชนจังหวัดพัทลุง โดยมีกลุ่มเป้าหมายในโครงการและกิจกรรมคือ ผู้ยากจนและคนจนเปราะบางในพื้นที่
การเลี้ยงไก่อยู่ในวิถีชีวิตของผู้คนมาอย่างยาวนาน จากข้อมูลพบว่า คนไทยบริโภคไข่ไก่เฉลี่ยปีละเกือบ 300 ฟอง ไข่ไก่ให้คุณค่าทางโภชนาการมากมายมหาศาล แต่ไข่ไก่ในท้องตลาดส่วนใหญ่มาจากระบบฟาร์มแบบปิดขนาดใหญ่ในระบบอุตสาหกรรมและเกษตรพันธสัญญา หรือ Contract Farming มีการใช้สารเคมี ยาปฏิชีวนะอย่างเข้มข้นในการกระบวนการเลี้ยง
จากการเก็บข้อมูลและการพูดคุยแลกเปลี่ยนระหว่างนักวิจัย กลุ่มคนจนเป้าหมาย และภาคีสนับสนุน ทำให้เกิดแนวคิดการเลี้ยงแบบธรรมชาติ ให้อิสระกับไก่ ลดการพึ่งพา ใช้วัตถุดิบอาหาร วัตถุดิบความรู้ ภูมิปัญญาท้องถิ่น โดยมีฐานคิดพลังรวมหมู่-รวมกลุ่ม ในการจัดการกระบวนการเลี้ยง มีการจ่ายค่าแรงงานในแต่ละขั้นตอนการผลิตตามที่ตกลงกัน เช่น ค่าแรงปลูกหญ้าเป็นอาหารไก่ การเก็บแยกคัด การบรรจุ การขาย เป็นต้น
กำไรที่ได้นำไปเป็นเงินสมทบกองทุนสวัสดิการชุมชนตำบลชัยบุรีสำหรับสมาชิกในครัวเรือนของคนจนเป้าหมายที่เข้าร่วมโครงการ ให้สามารถเข้าสู่ระบบสวัสดิการชุมชน ของกองทุนสวัสดิการชุมชนตำบลชัยบุรี ที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ ปีพ.ศ. 2554 จนถึงปัจจุบันมีสมาชิก 1,910 คน มีเงินกองทุนฯ สะสมกว่า 1.4 ล้านบาท มีสวัสดิการครอบคลุมตั้งแต่เกิด แก่ เจ็บ ตาย รวมถึงมีทุนการศึกษาให้กับบุตรของสมาชิกอีกด้วย และส่วนที่เหลือก็นำไปเป็นทุนต่อยอด ขยายผลการประกอบการและกิจกรรมทางเศรษฐกิจอื่นๆ
แรกเริ่มเดิมทีก่อนจะมาเป็นการบริหารจัดการแบบรวมหมู่ ได้มีการส่งเสริม สนับสนุนเลี้ยงแบบรายครัวเรือน แต่มีข้อจำกัดในหลายประการทั้งจากเงื่อนไขทางกายภาพ ศักยภาพในเชิงปัจเจก/ครัวเรือน จึงได้ปรับเปลี่ยนมาสู่การเลี้ยงรวมหมู่-รวมกลุ่ม “ไม่มีสูตรสำเร็จในการพัฒนา มีแต่ต้องค้นหาไปจนเจอสิ่งที่ใช่ และใช้สิ่งนั้นเป็นจุด Click ขยับเยื้อน เคลื่อนย้ายการเปลี่ยนแปลง กลไกสำคัญคือกลุ่มและความเชื่อมั่นกันและกันภายใน”
“กลุ่มมีศักยภาพบางอย่างที่ปัจเจกบุคคลไม่มี ช่วยเติมความมั่นใจ เพิ่มโอกาสของความสำเร็จ ทำให้เกิดความภาคภูมิ เชื่อมั่นในตัวเองมากขึ้นเรื่อย ๆ ในทุกกิจกรรมที่ลงมือ”
ด้วยระบบการเลี้ยงแบบเปิด ให้อิสระ ให้สารอาหารทางธรรมชาติที่สามารถผลิต พึ่งพาได้ในท้องถิ่น ทำให้ไข่ไก่จากฟาร์มเริ่มได้รับความสนใจจากผู้บริโภคมากขึ้น นักวิจัยให้ข้อมูลเพิ่มว่าไข่จากแม่ไก่อารมณ์ดีสาร/แร่ธาตุซีลีเนียม (Selenium) ที่มีบทบาทสำคัญในการเผาผลาญร่างการ ต่อต้านอนุมูลอิสระ ชะลอวัย เจริญพันธุ์ และมีระบบสืบพันธุ์ที่ดี เป็นต้น
“ไข่ที่ดีต้องมีสีเหลือง ไม่ใช่สีแดง” นักวิจัยย้ำและเตือนกลาย ๆ ถึงการตกอยู่ในมายาคติไข่แดงด้วยภาษา/คำว่า “ไข่แดง” ที่หมายถึงสีแดง ที่มาจากอาหารสารเคมี-สารเร่งต่าง ๆ
ถึงวันนี้ชัยบุรีโมเดล ไข่ไก่อารมณ์ดี-แฮปฟาร์ม ได้ขยายฐานกลุ่มเป้าหมายไปแล้วกว่า 50 ครัวเรือน มีผู้ได้รับผลประโยชน์จากโครงการในเชิงมูลค่ากว่า 200 คน ในเชิงคุณค่าทำให้เกิดการเกื้อกูลภายในชุมชน โดยกลุ่มกองทุนสวัสดิการชุมชนตำบลชัยบุรี ทำหน้าที่ดูดซับพลังทำให้เกิดการเกื้อกูลภายในชุมชน (Community Inclusive) การอยู่ร่วมกันแบบสมานฉันท์ในชุมชน (Solidarity Community) ที่สำคัญให้ความรู้สึกของความเห็นอกเห็นใจ (Empathy) เห็นในสายใยของการอยู่ร่วมขยายวงออกครอบคลุมกลุ่มอื่น ๆ ในชุมชน
ข้าพเจ้ามองว่าจุดเริ่มต้นของความสำเร็จของชัยบุรีโมเดล ไข่ไก่อารมณ์ดี-แฮปปี้ฟาร์ม มาจากการพัฒนาที่ใช้พื้นที่เป็นตัวตั้งชุมชน/กลุ่มคนจนเป้าหมายมีความรู้สึกเป็นเจ้าของ เป็นพระเอกในเวทีที่สร้างทำกับมือ, ท้องถิ่น-หน่วยงานภายนอกหนุนเสริมภายใต้พันธกิจและทรัพยากรที่เหมาะสม มีกลไก (กองทุนสวัสดิการชุมชน) เป็นทุนทางสังคม ทำหน้าเป็นโครงข่ายนิรภัยรองรับและทิศทางต่อยอดในอนาคตเป็นปัจจัยสำคัญ
เมื่อเราสามารถดึงพลังและมือที่เกื้อกูลเข้ามาหนุน เสริม เติมในบทบาทที่เหมาะสมในห่วงโซ่คุณค่าการพัฒนา ให้เจ้าของปัญหาได้มีเวทีแสดงที่เข้มข้น เต็มค่ามากขึ้น ชัยบุรีจะเป็นอีกพื้นที่เรียนรู้จากวิถีชุมชนสู่ธุรกิจชุมชนเกื้อกูลในอนาคตอันใกล้
หากเชื่ออย่างที่ Paulo Freire กล่าวไว้ จงเรียนรู้การเปลี่ยนแปลงรูปการจิตสำนึกจากสิ่งพูด/คำพูด ข้าพเจ้าประทับใจในคำพูดของจำเริญ แก้วประชุม ประธานกองทุนสวัสดิการชุมชนตำบลชัยบุรี
“ชัยบุรีไม่มีคนจน มีแต่คนที่ต้องเกื้อกูล”
นี่ ! อาจเป็นคำและความหมายใหม่ของคำว่า “ความจน” และ “คนจน” ก็เป็นได้
ยิ่งกว่าประทับใจ จากเสียงใครคนหนึ่งในวงเสวนา
“มหาวิทยาลัยทักษิณ เข้าไปอยู่ในหัวใจของชุมชน อย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน”
ก่อนเดินทางกลับมหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตสงขลา ข้าพเจ้าเดินทักทายบอกลาชาวชุมชนชัยบุรีและทีมงานด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มอย่างมีความสุขอีกครั้ง ในใจคิดแม้เส้นทางจะมากหลุมบ่อแค่ไหนก็คุ้มค่ากับการเดินทาง.
สำนักข่าวบ้านข่าว รายงาน
December 5, 2025
December 4, 2025
December 3, 2025
ชื่อ-สกุล*
อีเมล์*
เว็ปไซต์
แสดงความคิดเห็น
Notify me of follow-up comments by email.
Notify me of new posts by email.
Δ
ชัยบุรีโมเดล : ธุรกิจเกื้อกูลไข่ไก่อารมณ์ดีแฮปปี้ฟาร์ม
ก่อนแสงแรกเดินทางมาถึง ท้องฟ้าเริ่มระบายเฉดสีมาแต่ไกล หมอกบางๆ ล่องลอยอยู่ในแสงไฟหน้ารถ เส้นทางเพชรเกษมจากสงขลาสู่พัทลุงมากหลุมบ่อ สองข้างทางผู้คนเริ่มออกมาวิ่งออกกำลังกาย เป้าหมายของข้าพเจ้าคือ “ชัยบุรีโมเดล ไข่ไก่อารมณ์ดี-แฮปปี้ฟาร์ม” พื้นที่ตำบลชัยบุรี อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง ภายใต้โครงการวิจัยและนวัตกรรมแก้ไขปัญหาความยากจนแบบเบ็ดเสร็จและแม่นยำ จังหวัดพัทลุง
การเดินทางเร็วกว่าที่คิด เรามีเข็มทิศและ GPS ที่แม่นยำพอ ข้าพเจ้าถือโอกาสเดินสำรวจฟาร์มไก่อารมณ์ดีในโรงเรือนสร้างใหม่ ไก่ 400 ตัว เดินไปสวนมา ส่งเสียงร้องประชันขันแข่งกับเสียงรถไถที่ไม่ต้องเดินตามเหมือนในอดีต ในนาด้านหลังฟาร์มรถไถทำเทือกรอการหว่านดำเริ่มต้นฤดูกาลไว้แล้ว แดดเช้ากำลังเดินทางมาถึง นกยางเปีย ทอดน่องจิกเหยื่อในผืนนาโดยไม่มีท่าทีเกรงกลัวผู้คน
ข้าพเจ้าเดินไปยังเวทีที่เตรียมการไว้ด้านข้าง ประดับตกแต่งด้วยฟางข้าวและไข่ไก่รุ่นแรกในตะกร้า/ชะลอมแขวนไว้ดูแปลกจากที่คุ้นเคย ก่อนหยิบไข่ไก่มาพินิจ คิดไล่ไปถึงเมื่อครั้งวัยเยาว์ราวปี พ.ศ 2529-2530 พ่อเลี้ยงไก่ไข่ในระบบฟาร์มแบบขังกรง กว่า 1,000 ตัวเป็นอาชีพเสริม ข้าพเจ้ามีหน้าที่เก็บคัดและนำไปขายในตลาดนัดกับแม่ด้วยมอเตอร์ไซค์ ความทรงจำบนถนนขรุขระ ทุลักทุเลนั้นหวนคืนมาอย่างมีความสุข
ชัยบุรีโมเดล ไข่ไก่อารมณ์ดี-แฮปปี้ฟาร์ม เป็นโมเดลปฏิบัติการ ภายใต้โครงการวิจัยและนวัตกรรมแก้ไขปัญหาความยากจนแบบเบ็ดเสร็จและแม่นยำ จังหวัดพัทลุง ที่มหาวิทยาลัยทักษิณ ภายใต้การสนับสนุนของหน่วยบริหารจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) ร่วมกับองค์กรภาคีในระดับพื้นที่-ท้องที่ ท้องถิ่น และหน่วยงานราชการในระดับจังหวัด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัด สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) องค์การบริหารส่วนตำบลและเครือข่ายสวัสดิการชุมชนจังหวัดพัทลุง โดยมีกลุ่มเป้าหมายในโครงการและกิจกรรมคือ ผู้ยากจนและคนจนเปราะบางในพื้นที่
การเลี้ยงไก่อยู่ในวิถีชีวิตของผู้คนมาอย่างยาวนาน จากข้อมูลพบว่า คนไทยบริโภคไข่ไก่เฉลี่ยปีละเกือบ 300 ฟอง ไข่ไก่ให้คุณค่าทางโภชนาการมากมายมหาศาล แต่ไข่ไก่ในท้องตลาดส่วนใหญ่มาจากระบบฟาร์มแบบปิดขนาดใหญ่ในระบบอุตสาหกรรมและเกษตรพันธสัญญา หรือ Contract Farming มีการใช้สารเคมี ยาปฏิชีวนะอย่างเข้มข้นในการกระบวนการเลี้ยง
จากการเก็บข้อมูลและการพูดคุยแลกเปลี่ยนระหว่างนักวิจัย กลุ่มคนจนเป้าหมาย และภาคีสนับสนุน ทำให้เกิดแนวคิดการเลี้ยงแบบธรรมชาติ ให้อิสระกับไก่ ลดการพึ่งพา ใช้วัตถุดิบอาหาร วัตถุดิบความรู้ ภูมิปัญญาท้องถิ่น โดยมีฐานคิดพลังรวมหมู่-รวมกลุ่ม ในการจัดการกระบวนการเลี้ยง มีการจ่ายค่าแรงงานในแต่ละขั้นตอนการผลิตตามที่ตกลงกัน เช่น ค่าแรงปลูกหญ้าเป็นอาหารไก่ การเก็บแยกคัด การบรรจุ การขาย เป็นต้น
กำไรที่ได้นำไปเป็นเงินสมทบกองทุนสวัสดิการชุมชนตำบลชัยบุรีสำหรับสมาชิกในครัวเรือนของคนจนเป้าหมายที่เข้าร่วมโครงการ ให้สามารถเข้าสู่ระบบสวัสดิการชุมชน ของกองทุนสวัสดิการชุมชนตำบลชัยบุรี ที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ ปีพ.ศ. 2554 จนถึงปัจจุบันมีสมาชิก 1,910 คน มีเงินกองทุนฯ สะสมกว่า 1.4 ล้านบาท มีสวัสดิการครอบคลุมตั้งแต่เกิด แก่ เจ็บ ตาย รวมถึงมีทุนการศึกษาให้กับบุตรของสมาชิกอีกด้วย และส่วนที่เหลือก็นำไปเป็นทุนต่อยอด ขยายผลการประกอบการและกิจกรรมทางเศรษฐกิจอื่นๆ
แรกเริ่มเดิมทีก่อนจะมาเป็นการบริหารจัดการแบบรวมหมู่ ได้มีการส่งเสริม สนับสนุนเลี้ยงแบบรายครัวเรือน แต่มีข้อจำกัดในหลายประการทั้งจากเงื่อนไขทางกายภาพ ศักยภาพในเชิงปัจเจก/ครัวเรือน จึงได้ปรับเปลี่ยนมาสู่การเลี้ยงรวมหมู่-รวมกลุ่ม “ไม่มีสูตรสำเร็จในการพัฒนา มีแต่ต้องค้นหาไปจนเจอสิ่งที่ใช่ และใช้สิ่งนั้นเป็นจุด Click ขยับเยื้อน เคลื่อนย้ายการเปลี่ยนแปลง กลไกสำคัญคือกลุ่มและความเชื่อมั่นกันและกันภายใน”
“กลุ่มมีศักยภาพบางอย่างที่ปัจเจกบุคคลไม่มี ช่วยเติมความมั่นใจ เพิ่มโอกาสของความสำเร็จ ทำให้เกิดความภาคภูมิ เชื่อมั่นในตัวเองมากขึ้นเรื่อย ๆ ในทุกกิจกรรมที่ลงมือ”
ด้วยระบบการเลี้ยงแบบเปิด ให้อิสระ ให้สารอาหารทางธรรมชาติที่สามารถผลิต พึ่งพาได้ในท้องถิ่น ทำให้ไข่ไก่จากฟาร์มเริ่มได้รับความสนใจจากผู้บริโภคมากขึ้น นักวิจัยให้ข้อมูลเพิ่มว่าไข่จากแม่ไก่อารมณ์ดีสาร/แร่ธาตุซีลีเนียม (Selenium) ที่มีบทบาทสำคัญในการเผาผลาญร่างการ ต่อต้านอนุมูลอิสระ ชะลอวัย เจริญพันธุ์ และมีระบบสืบพันธุ์ที่ดี เป็นต้น
“ไข่ที่ดีต้องมีสีเหลือง ไม่ใช่สีแดง” นักวิจัยย้ำและเตือนกลาย ๆ ถึงการตกอยู่ในมายาคติไข่แดงด้วยภาษา/คำว่า “ไข่แดง” ที่หมายถึงสีแดง ที่มาจากอาหารสารเคมี-สารเร่งต่าง ๆ
ถึงวันนี้ชัยบุรีโมเดล ไข่ไก่อารมณ์ดี-แฮปฟาร์ม ได้ขยายฐานกลุ่มเป้าหมายไปแล้วกว่า 50 ครัวเรือน มีผู้ได้รับผลประโยชน์จากโครงการในเชิงมูลค่ากว่า 200 คน ในเชิงคุณค่าทำให้เกิดการเกื้อกูลภายในชุมชน โดยกลุ่มกองทุนสวัสดิการชุมชนตำบลชัยบุรี ทำหน้าที่ดูดซับพลังทำให้เกิดการเกื้อกูลภายในชุมชน (Community Inclusive) การอยู่ร่วมกันแบบสมานฉันท์ในชุมชน (Solidarity Community) ที่สำคัญให้ความรู้สึกของความเห็นอกเห็นใจ (Empathy) เห็นในสายใยของการอยู่ร่วมขยายวงออกครอบคลุมกลุ่มอื่น ๆ ในชุมชน
ข้าพเจ้ามองว่าจุดเริ่มต้นของความสำเร็จของชัยบุรีโมเดล ไข่ไก่อารมณ์ดี-แฮปปี้ฟาร์ม มาจากการพัฒนาที่ใช้พื้นที่เป็นตัวตั้งชุมชน/กลุ่มคนจนเป้าหมายมีความรู้สึกเป็นเจ้าของ เป็นพระเอกในเวทีที่สร้างทำกับมือ, ท้องถิ่น-หน่วยงานภายนอกหนุนเสริมภายใต้พันธกิจและทรัพยากรที่เหมาะสม มีกลไก (กองทุนสวัสดิการชุมชน) เป็นทุนทางสังคม ทำหน้าเป็นโครงข่ายนิรภัยรองรับและทิศทางต่อยอดในอนาคตเป็นปัจจัยสำคัญ
เมื่อเราสามารถดึงพลังและมือที่เกื้อกูลเข้ามาหนุน เสริม เติมในบทบาทที่เหมาะสมในห่วงโซ่คุณค่าการพัฒนา ให้เจ้าของปัญหาได้มีเวทีแสดงที่เข้มข้น เต็มค่ามากขึ้น ชัยบุรีจะเป็นอีกพื้นที่เรียนรู้จากวิถีชุมชนสู่ธุรกิจชุมชนเกื้อกูลในอนาคตอันใกล้
หากเชื่ออย่างที่ Paulo Freire กล่าวไว้ จงเรียนรู้การเปลี่ยนแปลงรูปการจิตสำนึกจากสิ่งพูด/คำพูด ข้าพเจ้าประทับใจในคำพูดของจำเริญ แก้วประชุม ประธานกองทุนสวัสดิการชุมชนตำบลชัยบุรี
“ชัยบุรีไม่มีคนจน มีแต่คนที่ต้องเกื้อกูล”
นี่ ! อาจเป็นคำและความหมายใหม่ของคำว่า “ความจน” และ “คนจน” ก็เป็นได้
ยิ่งกว่าประทับใจ จากเสียงใครคนหนึ่งในวงเสวนา
“มหาวิทยาลัยทักษิณ เข้าไปอยู่ในหัวใจของชุมชน อย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน”
ก่อนเดินทางกลับมหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตสงขลา ข้าพเจ้าเดินทักทายบอกลาชาวชุมชนชัยบุรีและทีมงานด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มอย่างมีความสุขอีกครั้ง ในใจคิดแม้เส้นทางจะมากหลุมบ่อแค่ไหนก็คุ้มค่ากับการเดินทาง.
สำนักข่าวบ้านข่าว รายงาน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
มูลนิธินายช่างไทยฯ ผนึกกำลังจิตอาสา กฟผ. ระดมกำลังเร่งฟื้นฟูระบบไฟฟ้าในพื้นที่ประสบอุทกภัย จ.สงขลา
December 5, 2025
ท่าอากาศยานหาดใหญ่ (ทหญ.) จัดการแสดงดนตรีบรรเลงเพลงพระราชนิพนธ์ เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ...
December 4, 2025
ท่าอากาศยานหาดใหญ่ส่งต่อถุงยังชีพ AOT ให้ชุมชนรอบสนามบิน
December 3, 2025
โรงเรียน นานาชาติ The American School of Bangkok ...
December 3, 2025