2 อาจารย์คณะวิทยาศาสตร์ฯ มรภ.สงขลา แทคทีมคว้ารางวัลนำเสนอผลงานวิจัยภาคโปสเตอร์ระดับดีเด่นและระดับดี เวทีประชุมวิชาการระดับชาติ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ครั้งที่ 1 จากผลงาน“ประสิทธิผลของการแช่เท้าด้วยสมุนไพรรางจืดและย่านาง เพื่อลดสารเคมีกำจัดศัตรูพืชตกค้างฯ” และ ผลงาน “ประสิทธิภาพของสารสกัดชนิดน้ำและผงจากใบกระถินและใบยาสูบในการควบคุมลูกน้ำยุงลาย”
เมื่อเร็วๆ นี้อาจารย์เยาวลักษณ์ เตี้ยนวน อาจารย์ประจำหลักสูตรสาธารณสุขศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาสาธารณสุขชุมชน ได้รับรางวัลการนำเสนอผลงานวิจัยภาคโปสเตอร์ระดับดีเด่น กลุ่มสาขาวิทยาศาสตร์สุขภาพ จากผลงานเรื่อง “ประสิทธิผลของการแช่เท้าด้วยสมุนไพรรางจืดและย่านาง เพื่อลดสารเคมีกำจัดศัตรูพืชตกค้างในเลือดของเกษตรกรกลุ่มเสี่ยง” และ ผศ.หิรัญวดี สุวิบูรณ์ อาจารย์ประจำหลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม ได้รับรางวัลการนำเสนอผลงานวิจัยภาคโปสเตอร์ระดับดี กลุ่มสาขาวิทยาศาสตร์และวิทยาศาสตร์ประยุกต์ จากผลงานเรื่อง “ประสิทธิภาพของสารสกัดชนิดน้ำและผงจากใบกระถินและใบยาสูบในการควบคุมลูกน้ำยุงลาย” ในงานการประชุมวิชาการระดับชาติ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ครั้งที่ 1 “วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม เพื่อการพัฒนาท้องถิ่นอย่างยั่งยืน : 100 ปี มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่” ณ โรงแรมเซ็นทารา ริเวอร์ไซด์ เชียงใหม่
สำหรับงานวิจัยเรื่อง “ประสิทธิผลของการแช่เท้าด้วยสมุนไพรรางจืดและย่านาง เพื่อลดสารเคมีกำจัดศัตรูพืชตกค้างในเลือดของเกษตรกรกลุ่มเสี่ยง” ซึ่งจัดทำโดย อาจารย์เยาวลักษณ์ เตี้ยนวน และผู้ร่วมวิจัย น.ส.โชติกา คงเมือง อาจารย์ ดร.วรพล หนูนุ่น เป็นการวิจัยกึ่งทดลองโดยทำการศึกษาในเกษตรกรชุมชนบ้านชะมวง ต.ชะมวง อ.ควนขนุน จ.พัทลุง ที่มีผลการคัดกรองความเสี่ยงจากการสัมผัสสารเคมีกำจัดศัตรูพืชโดยใช้กระดาษทดสอบโคลีนเอสเตอเรส(Cholinesterase reactive paper) จำนวน 22 คน แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือกลุ่มที่ 1 แช่เท้าด้วยสมุนไพรรางจืด 12 คน กลุ่มที่ 2 แช่เท้าด้วยสมุนไพรใบย่านาง 10 คน เป็นเวลา 15 นาทีติดต่อกัน 7 วัน วัดผลจากการตรวจวัดระดับเอนไซม์โคลีนเอสเตอเรสในเลือดโดยใช้กระดาษทดสอบโคลีนเอสเตอเรส ก่อนและหลังการทดลอง พบว่าการแช่เท้าด้วยสมุนไพรรางจืดและย่านาง ที่ใช้น้ำอุณหภูมิ 40-42 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 15 นาทีติดต่อกัน 7 วัน ส่งผลให้การทำงานของเอมไซม์โคลีนเอสเตอเรสเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ แต่ให้ผลที่ไม่แตกต่างกันระหว่างการแช่เท้าด้วยสมุนไพรรางจืดและย่านาง
ทั้งนี้ ระดับความเปลี่ยนแปลงผลที่ได้อาจขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่ดำเนินการและวิธีการที่ใช้ รวมถึงปัจจัยอื่นร่วมด้วย จึงควรมีการศึกษาวิจัยทางห้องปฏิบัติการและทางคลินิกเพื่อผลเชิงประจักษ์ ซึ่งในมุมมองของศาสตร์การแพทย์ทางเลือกระบุว่า เท้าเป็นศูนย์รวมของระบบการทำงานของร่างกายทั้งระบบประสาท ระบบไหลเวียนเลือดและระบบขับถ่าย การแช่เท้าจึงเป็นกรรมวิธีหนึ่งที่ช่วยกำจัดสารพิษในรางกาย และทำให้การทำงานของระบบร่างกายดีขึ้น แต่ด้วยข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ในปัจจุบันยังมีไม่เพียงพอที่จะสรุปผลว่าการขับสารพิษผ่านทางการแช่เท้าสามารถขับสารพิษได้จริงหรือไม่ จึงควรมีการศึกษาในประเด็นดังกล่าวให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น
ในส่วนของงานวิจัยเรื่อง “ประสิทธิภาพของสารสกัดชนิดน้ำและผงจากใบกระถินและใบยาสูบในการควบคุมลูกน้ำยุงลาย” ซึ่งจัดทำโดย ผศ.หิรัญวดี สุวิบูรณ์ ผลการวิจัยพบว่า สารสกัดชนิดน้ำจากใบยาสูบพันธุ์พื้นเมืองและใบกระถินมีประสิทธิภาพในการกำจัดลูกน้ำยุงลายสูงกว่าสารสกัดชนิดผง ช่วงความเข้มข้นที่เหมาะจะนำสารสกัดไปใช้ประโยชน์แบบชนิดน้ำที่ 3 %v/v และชนิดผงที่ 3 %w/v เนื่องจากมีประสิทธิภาพในการควบคุมลูกน้ำยุงลายได้สูงสุด เมื่อเปรียบเทียบค่า R2 ที่ระยะเวลา 12 และ 24 ชั่วโมง มีแนวโน้มลดลง ถึงแม้สารสกัดชนิดผงมีประสิทธิภาพต่ำกว่าเล็กน้อยสารสกัดชนิดน้ำ แต่สามารถใช้งานได้สะดวกกว่าเนื่องจากเก็บรักษาได้ง่าย แต่ไม่ควรนำสารสกัดจากใบยาสูบ (พันธุ์พื้นเมือง) ชนิดน้ำและชนิดผงในแหล่งน้ำธรรมชาติ เนื่องจากอาจมีผลกับสิ่งมีชีวิตในแหล่งน้ำ.
สำนักข่าวบ้านข่าว รายงาน
November 21, 2025
November 19, 2025
November 18, 2025
November 17, 2025
ชื่อ-สกุล*
อีเมล์*
เว็ปไซต์
แสดงความคิดเห็น
Notify me of follow-up comments by email.
Notify me of new posts by email.
Δ
“ผศ.หิรัญวดี สุวิบูรณ์-อ.เยาวลักษณ์ เตี้ยนวน” คณะวิทยาศาสตร์ฯ มรภ.สงขลา แทคทีมคว้ารางวัลนำเสนอผลงานวิจัย ภาคโปสเตอร์ เวทีประชุมวิชาการระดับชาติ
2 อาจารย์คณะวิทยาศาสตร์ฯ มรภ.สงขลา แทคทีมคว้ารางวัลนำเสนอผลงานวิจัยภาคโปสเตอร์ระดับดีเด่นและระดับดี เวทีประชุมวิชาการระดับชาติ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ครั้งที่ 1 จากผลงาน“ประสิทธิผลของการแช่เท้าด้วยสมุนไพรรางจืดและย่านาง เพื่อลดสารเคมีกำจัดศัตรูพืชตกค้างฯ” และ ผลงาน “ประสิทธิภาพของสารสกัดชนิดน้ำและผงจากใบกระถินและใบยาสูบในการควบคุมลูกน้ำยุงลาย”
เมื่อเร็วๆ นี้อาจารย์เยาวลักษณ์ เตี้ยนวน อาจารย์ประจำหลักสูตรสาธารณสุขศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาสาธารณสุขชุมชน ได้รับรางวัลการนำเสนอผลงานวิจัยภาคโปสเตอร์ระดับดีเด่น กลุ่มสาขาวิทยาศาสตร์สุขภาพ จากผลงานเรื่อง “ประสิทธิผลของการแช่เท้าด้วยสมุนไพรรางจืดและย่านาง เพื่อลดสารเคมีกำจัดศัตรูพืชตกค้างในเลือดของเกษตรกรกลุ่มเสี่ยง” และ ผศ.หิรัญวดี สุวิบูรณ์ อาจารย์ประจำหลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม ได้รับรางวัลการนำเสนอผลงานวิจัยภาคโปสเตอร์ระดับดี กลุ่มสาขาวิทยาศาสตร์และวิทยาศาสตร์ประยุกต์ จากผลงานเรื่อง “ประสิทธิภาพของสารสกัดชนิดน้ำและผงจากใบกระถินและใบยาสูบในการควบคุมลูกน้ำยุงลาย” ในงานการประชุมวิชาการระดับชาติ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ครั้งที่ 1 “วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม เพื่อการพัฒนาท้องถิ่นอย่างยั่งยืน : 100 ปี มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่” ณ โรงแรมเซ็นทารา ริเวอร์ไซด์ เชียงใหม่
สำหรับงานวิจัยเรื่อง “ประสิทธิผลของการแช่เท้าด้วยสมุนไพรรางจืดและย่านาง เพื่อลดสารเคมีกำจัดศัตรูพืชตกค้างในเลือดของเกษตรกรกลุ่มเสี่ยง” ซึ่งจัดทำโดย อาจารย์เยาวลักษณ์ เตี้ยนวน และผู้ร่วมวิจัย น.ส.โชติกา คงเมือง อาจารย์ ดร.วรพล หนูนุ่น เป็นการวิจัยกึ่งทดลองโดยทำการศึกษาในเกษตรกรชุมชนบ้านชะมวง ต.ชะมวง อ.ควนขนุน จ.พัทลุง ที่มีผลการคัดกรองความเสี่ยงจากการสัมผัสสารเคมีกำจัดศัตรูพืชโดยใช้กระดาษทดสอบโคลีนเอสเตอเรส(Cholinesterase reactive paper) จำนวน 22 คน แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือกลุ่มที่ 1 แช่เท้าด้วยสมุนไพรรางจืด 12 คน กลุ่มที่ 2 แช่เท้าด้วยสมุนไพรใบย่านาง 10 คน เป็นเวลา 15 นาทีติดต่อกัน 7 วัน วัดผลจากการตรวจวัดระดับเอนไซม์โคลีนเอสเตอเรสในเลือดโดยใช้กระดาษทดสอบโคลีนเอสเตอเรส ก่อนและหลังการทดลอง พบว่าการแช่เท้าด้วยสมุนไพรรางจืดและย่านาง ที่ใช้น้ำอุณหภูมิ 40-42 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 15 นาทีติดต่อกัน 7 วัน ส่งผลให้การทำงานของเอมไซม์โคลีนเอสเตอเรสเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ แต่ให้ผลที่ไม่แตกต่างกันระหว่างการแช่เท้าด้วยสมุนไพรรางจืดและย่านาง
ทั้งนี้ ระดับความเปลี่ยนแปลงผลที่ได้อาจขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่ดำเนินการและวิธีการที่ใช้ รวมถึงปัจจัยอื่นร่วมด้วย จึงควรมีการศึกษาวิจัยทางห้องปฏิบัติการและทางคลินิกเพื่อผลเชิงประจักษ์ ซึ่งในมุมมองของศาสตร์การแพทย์ทางเลือกระบุว่า เท้าเป็นศูนย์รวมของระบบการทำงานของร่างกายทั้งระบบประสาท ระบบไหลเวียนเลือดและระบบขับถ่าย การแช่เท้าจึงเป็นกรรมวิธีหนึ่งที่ช่วยกำจัดสารพิษในรางกาย และทำให้การทำงานของระบบร่างกายดีขึ้น แต่ด้วยข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ในปัจจุบันยังมีไม่เพียงพอที่จะสรุปผลว่าการขับสารพิษผ่านทางการแช่เท้าสามารถขับสารพิษได้จริงหรือไม่ จึงควรมีการศึกษาในประเด็นดังกล่าวให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น
ในส่วนของงานวิจัยเรื่อง “ประสิทธิภาพของสารสกัดชนิดน้ำและผงจากใบกระถินและใบยาสูบในการควบคุมลูกน้ำยุงลาย” ซึ่งจัดทำโดย ผศ.หิรัญวดี สุวิบูรณ์ ผลการวิจัยพบว่า สารสกัดชนิดน้ำจากใบยาสูบพันธุ์พื้นเมืองและใบกระถินมีประสิทธิภาพในการกำจัดลูกน้ำยุงลายสูงกว่าสารสกัดชนิดผง ช่วงความเข้มข้นที่เหมาะจะนำสารสกัดไปใช้ประโยชน์แบบชนิดน้ำที่ 3 %v/v และชนิดผงที่ 3 %w/v เนื่องจากมีประสิทธิภาพในการควบคุมลูกน้ำยุงลายได้สูงสุด เมื่อเปรียบเทียบค่า R2 ที่ระยะเวลา 12 และ 24 ชั่วโมง มีแนวโน้มลดลง ถึงแม้สารสกัดชนิดผงมีประสิทธิภาพต่ำกว่าเล็กน้อยสารสกัดชนิดน้ำ แต่สามารถใช้งานได้สะดวกกว่าเนื่องจากเก็บรักษาได้ง่าย แต่ไม่ควรนำสารสกัดจากใบยาสูบ (พันธุ์พื้นเมือง) ชนิดน้ำและชนิดผงในแหล่งน้ำธรรมชาติ เนื่องจากอาจมีผลกับสิ่งมีชีวิตในแหล่งน้ำ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ม.ทักษิณ เปิดสนามประลองไอเดียธุรกิจ TSU Premier Pitch 2025 ดันนิสิตสู่ธุรกิจสตาร์ทอัพ
November 21, 2025
มรภ.สงขลา เยือน มรภ.วไลยอลงกรณ์ฯ จัดอบรมใช้งานระบบ “Big Data” ครั้งที่ ...
November 19, 2025
สกสว. จัดงาน Thailand Talent Summit 2025 รวมพลนักวิจัยไทยกว่า ...
November 18, 2025
มรภ.สงขลา มอบประกาศนียบัตรบัณฑิตพันธุ์ใหม่ หลักสูตรประยุกต์ใช้เทคโนโลยีอัจฉริยะเพื่อพัฒนาสื่อการเรียนการสอนดิจิทัลฯ ยกระดับขีดความสามารถบุคลากรทางการศึกษา พัฒนาผู้เรียนอย่างยั่งยืน
November 17, 2025