เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2563 นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย(มท.2) เปิดเผยว่า จากการเกิดสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ในพื้นที่ภาคเหนือ มาตั้งแต่วันที่ 20 ส.ค.63 นั้น มีพื้นที่ได้รับผลกระทบทั้งสิ้น 11 จังหวัด ได้แก่ จ.น่าน จ.แพร่ จ.เชียงใหม่ จ.ลําปาง จ.พะเยา จ.อุตรดิตถ์ จ.ลําพูน จ.แม่ฮ่องสอน จ.สุโขทัย จ.ตาก และจ.พิษณุโลก ประชาชนได้รับผลกระทบ จำนวน 20,730 ครัวเรือน และมีผู้เสียชีวิตจำนวน 3 ราย (จ.น่าน ชาย อายุ 62 ปี จ.ลําปาง ชาย อายุ 50 ปี และที่จ.ลําปาง ชาย อายุ 56 ปี) ซึ่งผู้เสียชีวิตทั้งหมดมาจากสาเหตุน้ำพัดพา
สถานการณ์ในขณะนี้ยังคงมีน้ำยังท่วมขัง ในพื้นที่ 2 จังหวัด ได้แก่ สุโขทัย พิษณุโลก โดยที่ จ.สุโขทัย มีน้ำท่วมบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ ตำบลปากพระ อำเภอเมือง ระดับน้ำสูงประมาณ 20 ซม. แต่ระดับน้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 2 วัน ส่วนที่จ.พิษณุโลก มีน้ำท่วมบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ อำเภอพรหมพิราม จำนวน 22 หลัง แต่ระดับน้ำลดลงจากเดิม คาดการณ์ว่าหากไม่มีฝนตกเพิ่มเติมหรือปริมาณน้ำเพิ่ม ระดับน้ำก็จะลดลงได้ภายใน 2 วัน
นายนิพนธ์ กล่าวว่า “ขณะนี้สถานการณ์น้ำท่วมขังในหลายจังหวัดได้คลี่คลายลงจนเกือบเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว แต่ยังมีบางพื้นที่ที่ยังมีน้ำท่วมขังอยู่ ทั้งนี้ มาตรการต่อไปคือ การฟื้นฟูพื้นที่หลังน้ำลดและการเยียวยาผู้ประสบภัย ซึ่งกระทรวงมหาดไทย เป็นหน่วยบูรณาการในพื้นที่ โดยได้สั่งการไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่ประสบภัยทั้ง 11 จังหวัด ได้บูรณาการทุกหน่วยงาน ได้แก่ องค์กรปกครองท้องถิ่นในพื้นที่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน รวมทั้ง จิตอาสา จัดกิจกรรมทำความสะอาดบ้านเรือนประชาชน สถานที่ราชการ และพื้นที่ต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบ โดยในบางพื้นที่ ได้รับรายงานในเรื่องดินโคลนที่น้ำพัดพามายังคงติดอยู่ตามบริเวณบ้านเรือนประชาชนทำความสะอาดได้ยาก ซึ่งในส่วนนี้ ได้ให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) ระดมรถฉีดน้ำ รถแบ็คโฮ เครื่องจักรทำความสะอาดต่างๆเข้าพื้นที่พร้อมประสานองค์กรปกครองท้องถิ่น เร่งเข้าไปทำความสะอาดให้เรียบร้อย เพราะประชาชนในพื้นที่ต่างๆประสบกับความเดือดร้อนและใช้ชีวิตยากลำบากจากสถานการณ์น้ำท่วม น้ำหลาก เกือบ 2 สัปดาห์แล้ว”
“ในส่วนของจ่ายเงินเยียวยาตามระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ กรณีฉุกเฉินฯ นั้น ได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ปภ.จังหวัด ได้ประสานข้อมูลเพื่อสรุปความเสียหายจากนายอำเภอและองค์กรปกครองท้องถิ่นในพื้นที่ เพื่อเร่งเบิกเงินเยียวยาโดยเร็วที่สุด ซึ่งในรายผู้เสียชีวิตนั้น ได้มีการมอบเงินเยียวยาให้แก่ครอบครัวผู้เสียชีวิตเป็นที่เรียบร้อยแล้ว” นายนิพนธ์ รมช.มท. กล่าว.
สำนักข่าวบ้านข่าว รายงาน
December 5, 2025
December 4, 2025
December 3, 2025
ชื่อ-สกุล*
อีเมล์*
เว็ปไซต์
แสดงความคิดเห็น
Notify me of follow-up comments by email.
Notify me of new posts by email.
Δ
นิพนธ์ สั่ง บูรณาการทุกหน่วยฟื้นฟูพื้นที่ภาคเหนือหลังน้ำลด เผย สถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติ พร้อม สั่งเร่งจ่ายเงินเยียวยาผู้ประสบภัยฯ
เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2563 นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย(มท.2) เปิดเผยว่า จากการเกิดสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ในพื้นที่ภาคเหนือ มาตั้งแต่วันที่ 20 ส.ค.63 นั้น มีพื้นที่ได้รับผลกระทบทั้งสิ้น 11 จังหวัด ได้แก่ จ.น่าน จ.แพร่ จ.เชียงใหม่ จ.ลําปาง จ.พะเยา จ.อุตรดิตถ์ จ.ลําพูน จ.แม่ฮ่องสอน จ.สุโขทัย จ.ตาก และจ.พิษณุโลก ประชาชนได้รับผลกระทบ จำนวน 20,730 ครัวเรือน และมีผู้เสียชีวิตจำนวน 3 ราย (จ.น่าน ชาย อายุ 62 ปี จ.ลําปาง ชาย อายุ 50 ปี และที่จ.ลําปาง ชาย อายุ 56 ปี) ซึ่งผู้เสียชีวิตทั้งหมดมาจากสาเหตุน้ำพัดพา
สถานการณ์ในขณะนี้ยังคงมีน้ำยังท่วมขัง ในพื้นที่ 2 จังหวัด ได้แก่ สุโขทัย พิษณุโลก โดยที่ จ.สุโขทัย มีน้ำท่วมบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ ตำบลปากพระ อำเภอเมือง ระดับน้ำสูงประมาณ 20 ซม. แต่ระดับน้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 2 วัน ส่วนที่จ.พิษณุโลก มีน้ำท่วมบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ อำเภอพรหมพิราม จำนวน 22 หลัง
แต่ระดับน้ำลดลงจากเดิม คาดการณ์ว่าหากไม่มีฝนตกเพิ่มเติมหรือปริมาณน้ำเพิ่ม ระดับน้ำก็จะลดลงได้ภายใน 2 วัน
นายนิพนธ์ กล่าวว่า “ขณะนี้สถานการณ์น้ำท่วมขังในหลายจังหวัดได้คลี่คลายลงจนเกือบเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว แต่ยังมีบางพื้นที่ที่ยังมีน้ำท่วมขังอยู่ ทั้งนี้ มาตรการต่อไปคือ การฟื้นฟูพื้นที่หลังน้ำลดและการเยียวยาผู้ประสบภัย ซึ่งกระทรวงมหาดไทย เป็นหน่วยบูรณาการในพื้นที่ โดยได้สั่งการไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่ประสบภัยทั้ง 11 จังหวัด ได้บูรณาการทุกหน่วยงาน ได้แก่ องค์กรปกครองท้องถิ่นในพื้นที่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน รวมทั้ง จิตอาสา จัดกิจกรรมทำความสะอาดบ้านเรือนประชาชน สถานที่ราชการ และพื้นที่ต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบ โดยในบางพื้นที่ ได้รับรายงานในเรื่องดินโคลนที่น้ำพัดพามายังคงติดอยู่ตามบริเวณบ้านเรือนประชาชนทำความสะอาดได้ยาก ซึ่งในส่วนนี้ ได้ให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) ระดมรถฉีดน้ำ รถแบ็คโฮ เครื่องจักรทำความสะอาดต่างๆเข้าพื้นที่พร้อมประสานองค์กรปกครองท้องถิ่น เร่งเข้าไปทำความสะอาดให้เรียบร้อย เพราะประชาชนในพื้นที่ต่างๆประสบกับความเดือดร้อนและใช้ชีวิตยากลำบากจากสถานการณ์น้ำท่วม น้ำหลาก เกือบ 2 สัปดาห์แล้ว”
“ในส่วนของจ่ายเงินเยียวยาตามระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ กรณีฉุกเฉินฯ นั้น ได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ปภ.จังหวัด ได้ประสานข้อมูลเพื่อสรุปความเสียหายจากนายอำเภอและองค์กรปกครองท้องถิ่นในพื้นที่ เพื่อเร่งเบิกเงินเยียวยาโดยเร็วที่สุด ซึ่งในรายผู้เสียชีวิตนั้น ได้มีการมอบเงินเยียวยาให้แก่ครอบครัวผู้เสียชีวิตเป็นที่เรียบร้อยแล้ว” นายนิพนธ์ รมช.มท. กล่าว.
สำนักข่าวบ้านข่าว รายงาน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
มูลนิธินายช่างไทยฯ ผนึกกำลังจิตอาสา กฟผ. ระดมกำลังเร่งฟื้นฟูระบบไฟฟ้าในพื้นที่ประสบอุทกภัย จ.สงขลา
December 5, 2025
ท่าอากาศยานหาดใหญ่ (ทหญ.) จัดการแสดงดนตรีบรรเลงเพลงพระราชนิพนธ์ เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ...
December 4, 2025
ท่าอากาศยานหาดใหญ่ส่งต่อถุงยังชีพ AOT ให้ชุมชนรอบสนามบิน
December 3, 2025
โรงเรียน นานาชาติ The American School of Bangkok ...
December 3, 2025