วันที่  1พ.ค. 63 ณ ชุมชนบ้านปลายราง เทศบาลเมืองนาสาร อำเภอบ้านนาสาร จังหวัด สุราษฎร์ธานี นางสาวมนิดา ลิ่มนิจสรกุล พมจ.สฎ เป็นประธานการแถลงข่าวและมอบนมผง สิ่งของแก่แม่และเด็กที่ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 ร่วมหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ร่วมกับ ศูนย์ส่งเสริมความรับผิดชอบต่อสังคมของภาคธุรกิจ (CSR SURATTHANI CENTER) และเทศบาลเมืองนาสาร ลงพื้นที่ชุมชนบ้านปลายราง เพื่อสำรวจแม่วัยรุ่นที่ประสบปัญหาจากโรคโควิด-19 ที่ไม่สามารถออกไปทำงานหาเงินได้ จนทำให้ขาดแคลนนมผง และสิ่งของจำเป็นที่เลี้ยงดูลูก

ทางจังหวัดสุราษฎร์ธานี และสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสุราษฎร์ธานี บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสุราษฎร์ธานี CSR SURATTHANI CENTER ระดมทรัพยากรต่างๆ (นมผง/แพ็มเพิสเด็ก/ข้าวสารอาหารแห้ง) ลงพื้นที่ไปมอบความห่วงใยแก่แม่และเด็กที่ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ให้มีขวัญและกำลังใจในการดำเนินชีวิต ตลอดจนร่วมสร้างสรรค์สังคมแห่งการแบ่งปัน และเอื้ออาทรซึ่งกันและกัน และร่วมแถลงข่าวกิจกรรม “เราไม่ทิ้งกัน ส่งของส่งใจ ห่วงใยแม่และเด็ก” เพื่อให้ บริษัท/ห้างร้าน/ประชาชนที่สนใจ…เข้าร่วมการส่งความช่วยเหลือ และเป็นกำลังใจให้แม่และเด็กที่ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 โดยสามารถนำนมผง สิ่งของจำเป็น มาส่งมอบได้ ณ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสุราษฎร์ธานี 39/7 ซอยพิเศษขุนทะเล ตำบลขุนทะเล อำเภอเมืองฯ จังหวัดสุราษฎร์ธานี หรือบริจาคเงิน โอนเข้าบัญชี “กองทุนส่งเสริมความรับผิดชอบต่อสังคม จ.สฎ” ธนาคารกรุงไทย สาขาสุราษฎร์ธานี เลขที่ 807-0-987316

พมจ. กล่าวว่า สำหรับแนวทางการฟื้นฟูเยียวยาและให้ความช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 ได้เตรียมแผนแนวทางช่วยเหลือฟื้นฟูประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเป้าหมายของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ อาทิ ผู้สูงอายุ คนพิการ เด็ก และสตรี ดังนี้ 1) ด้านชีวิต ประกอบด้วย การช่วยเหลือครอบครัว เด็ก ผู้สูงอายุ คนพิการ ผู้ประสบปัญหา เพื่อคลี่คลายและบรรเทาภาวะวิกฤตเฉพาะหน้า การเยี่ยมและประเมินความเดือดร้อนและมอบเงินช่วยเหลือ การให้คำปรึกษา แนะนำ บำบัดฟื้นฟูจิตใจ จัดกิจกรรมช่วยเหลือ ดูแลจนเข้าสู่ภาวะปกติ การจัดหน่วยเคลื่อนที่เยี่ยมบ้านให้คำปรึกษาแนะนำสร้างความผ่อนคลาย ให้คำแนะนำในการดูแลรักษาสุขภาพตนเอง และสำรวจข้อมูลเพื่อการช่วยเหลือในพื้นที่ปัญหา 2) ด้านทรัพย์สิน ประกอบด้วย การช่วยเหลือเงินสงเคราะห์ยากจน 3) ด้านสาธารณประโยชน์ ประกอบด้วย การให้ความช่วยเหลือ ฟื้นฟูวิถีชีวิตชุมชนของผู้ประสบภัย โดยเชื่อมโยงกับเครือข่ายต่างๆ

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 17 กุมภาพันธ์ – 30 เมษายน 2563 กระทรวง พม. ได้ร่วมกันให้การช่วยเหลือกลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ เด็กแรกเกิดในครอบครัวยากจน คนพิการ ผู้สูงอายุ และครอบครัวผู้มีรายได้น้อยที่กระทบจากโรคโควิด-19 ไปแล้ว จำนวน 1,775 ราย เป็นเงินทั้งสิ้น 3,561,779.-บาท

“การลงพื้นที่และการสำรวจจาก อปท.ทุกแห่ง ในครั้งนี้ ได้รับทราบถึงปัญหาต่างๆ ที่ประชาชนจำนวนมากได้รับความเดือดร้อนจากผลกระทบจากโรคโควิด-19 กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ มีความห่วงใยประชาชนที่ได้รับผลกระทบทุกคน ทั้งนี้ กระทรวง พม. ทุกหน่วยงานในพื้นที่จะบูรณาการร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อเร่งช่วยเหลือเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบตามภารกิจกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ อย่างเร็วรวดและทั่วถึง.

ภาพ/ข่าว  สุรเดช  รามเกิด

สำนักข่าวบ้านข่าว  รายงาน