เวลา ๐๙.๓๕ น. วันนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา เสด็จไปทรงติดตามผลการดำเนินงานการบริหารจัดการน้ำ ณ พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติจัดการน้ำชุมชนตามแนวพระราชดำริ บ้านปากซวด ตำบลพะแสง อำเภอบ้านตาขุน จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งหน่วยงานภาครัฐ และส่วนท้องถิ่นร่วมกันจัดตั้งขึ้น เพื่อเป็นแหล่งถ่ายทอดความรู้จากความสำเร็จการบริหารจัดการน้ำของชุมชน โดยน้อมนำแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เรื่อง การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำมาเป็นหลักคิด และประยุกต์ใช้ในพื้นที่ จำนวน ๕,๐๐๐ ไร่ มีการนำวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาถ่ายทอด เพื่อใช้บริหารจัดการน้ำให้มีประสิทธิภาพ สร้างการเรียนรู้จากการทำงาน, การสำรวจพื้นที่ควบคู่กับการใช้แผนที่ภาพถ่ายดาวเทียมเครื่องระบุพิกัด หรือ GPS ในการบริหารจัดการทรัพยากรและอนุรักษ์ฟื้นฟูป่าต้นน้ำ การสร้างฝายชะลอและกักเก็บน้ำ มีการกำหนดขอบเขตการใช้ประโยชน์ที่ดิน อาทิ ขอบเขตป่าอนุรักษ์ และที่ทำกินของชาวบ้าน ตลอดจนการจัดตั้งกองทุนต่าง ๆ เพื่อเป็นสวัสดิการของชุมชน ทำให้บ้านปากซวดเป็นชุมชนตัวอย่างการอนุรักษ์ป่าต้นน้ำอย่าง มีส่วนร่วม ระหว่างชุมชนและอุทยานในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ หลังจากเคยประสบปัญหาการบุกรุกทำลายป่า จนเกิดการเปลี่ยนแปลงของระบบน้ำ เช่น การขาดแคลนน้ำ และการเกิดน้ำป่าไหลหลาก
ในการนี้ ทอดพระเนตรฝายเก็บกักน้ำและเฝ้าระวังน้ำหลากของหมู่บ้าน ที่มีความจุ ๑๘,๐๐๐ ลูกบาศก์เมตร ใช้เก็บกักน้ำลำน้ำสาขาในหมู่บ้าน เพื่อสร้างความชุ่มชื้นของพื้นที่ชุมชน ๒๐๐ ไร่ มีการติดตั้งขีดระดับของปริมาณน้ำ เพื่อแจ้งเตือนพื้นที่เสี่ยงภัยด้วย
เวลา ๑๐.๔๒ น. เสด็จไปยังโรงเรียนบ้านท่านหญิงวิภา ตำบลตะกุกเหนือ อำเภอวิภาวดี ในการพระราชทานอุปกรณ์กีฬา ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้เชิญไปพระราชทานแก่นักเรียนโรงเรียนบ้านท่านหญิงวิภา ด้วยทรงห่วงใยสุขภาพและคุณภาพชีวิต พร้อมกันนี้ พระราชทานข้าวสารและยารักษาโรคของมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง ภาฯ ยามยาก สภากาชาดไทย เพื่อเป็นคลังอาหาร และคลังยาเพื่อนพึ่ง ภาฯ รองรับผู้ประสบอุทกภัยแก่ผู้แทนตำบลตะกุกเหนือ
โรงเรียนบ้านท่านหญิงวิภา ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ๒๕๑๑ ปัจจุบันเปิดสอนระดับชั้นอนุบาล ถึงมัธยมศึกษาปีที่ ๓ มีนักเรียน ๕๑๐ คน ครูและบุคลากร ๓๑ คน จากผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาประจำปี ๒๕๖๑ ผลการทดสอบระดับชาติขั้นพื้นฐาน หรือ O-Net ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ วิชาภาษาไทยสูงกว่าระดับชาติ และผลการสอบประเมินคุณภาพการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือ NT ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ ความสามารถด้านเหตุผลสูงกว่าระดับประเทศ
นอกจากนี้โปรดให้ นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เชิญอุปกรณ์กีฬาพระราชทานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ประกอบด้วย ลูกบอล บาสเก็ตบอล และตะกร้อ ไปมอบแก่โรงเรียนวัดไม้เสียบ ตำบลเกาะขันธ์ อำเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช ยังความปลาบปลื้ม และรู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ทั้งนี้ โรงเรียนวัดไม้เสียบ อยู่ห่างจากตัวอำเภอชะอวด ๑๓ กิโลเมตร เปิดสอนระดับอนุบาล ถึงประถมศึกษาปีที่ ๖ มีนักเรียน ๔๐๑ คน ครูและบุคลากรทางการศึกษา รวม ๒๓ คน
เวลา ๑๑.๑๓ น. เสด็จไปยังเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์น้ำ วังหัวสะพาน บริเวณคลองยัน บ้านหัวสะพาน ทรงติดตามการดำเนินงานของเครือข่ายอนุรักษ์ฟื้นฟูภูมินิเวศลุ่มน้ำคลองยัน ซึ่งเป็น ๑ ใน ๑๘ เครือข่ายชุมชนเตือนภัยพิบัติของมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง ภาฯ ยามยาก สภากาชาดไทย ที่จัดตั้งขึ้นเมื่อปี ๒๕๕๒ เพื่อเฝ้าระวังเรื่องทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เช่น การตัดไม้ทำลายป่า และการจับปลา โดยปี ๒๕๕๓ เกิดดินโคลนถล่ม น้ำป่าไหลหลาก จึงได้ขยายการดำเนินงานเพื่อการเตือนภัยพิบัติ โดยจัดทำระบบเตือนภัยครอบคลุม ๔๖ หมู่บ้าน ใน ๔ ตำบลของ ๒ อำเภอ มีอาสาสมัครกว่า ๓๐๐ คน มีการปลูกป่าชุมชน ๑๑ เขต ครอบคลุมพื้นที่กว่า ๒๐,๐๐๐ ไร่ ปลูกหญ้าแฝกและไม้พื้นถิ่น อาทิ ต้นไคร้น้ำ มะเดื่อ และกุ่ม เพื่อรักษาแนวตลิ่งทั้ง ๒ ฝั่ง ลุ่มน้ำคลองยัน, จัดทำเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์น้ำ รวม ๒๗ เขต เป็นเขตอภัยทาน ทั้งยังมีการใช้วิทยุสื่อสารช่วยในการเฝ้าระวัง ซึ่งจะทดสอบสัญญาณวิทยุสื่อสารทุกวัน เพื่อตรวจสอบสภาพดิน ฟ้า อากาศ ปริมาณน้ำในแต่ละพื้นที่ เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงจะได้เตรียมแผนรับมือได้ทันเวลา
โอกาสนี้ ทอดพระเนตรการสาธิตการช่วยเหลือและอพยพผู้ประสบภัยของเครือข่ายอนุรักษ์ฟื้นฟูภูมินิเวศลุ่มน้ำคลองยัน ซึ่งร่วมกับศูนย์การจัดการภัยพิบัติตำบล เกาะขันธ์ อำเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยเป็นการอพยพด้วยวิธีการใช้เชือก และเรือ อพยพจากฝั่งหนึ่งไปยังอีกฝั่งหนึ่ง แล้วจะมีการคัดกรองผู้ประสบภัย เพื่อให้การช่วยเหลือต่อไป โดยบริเวณนี้ ยังมีโทรมาตรติดตั้งที่สะพาน เพื่อเป็นข้อมูลในการติดตามสถานการณ์น้ำด้วย
ก่อนเสด็จกลับ พระราชทานอาหารปลา และทรงปล่อยปลาพลวง ปลาตะเพียนขาว และปลาตะเพียนทอง ลงในคลองยัน โดยบริเวณนี้เป็น ๑ ในเขตอภัยทาน ซึ่งชุมชนร่วมกันไม่จับปลา ทำให้ปัจจุบันมีปลาชนิดต่าง ๆ เพิ่มขึ้น รวมกว่า ๖๐ ชนิด.
สำนักข่าวบ้านข่าว รายงาน
December 5, 2025
December 4, 2025
December 3, 2025
ชื่อ-สกุล*
อีเมล์*
เว็ปไซต์
แสดงความคิดเห็น
Notify me of follow-up comments by email.
Notify me of new posts by email.
Δ
สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ทรงปฏิบัติพระกรณียกิจในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี
เวลา ๐๙.๓๕ น. วันนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา เสด็จไปทรงติดตามผลการดำเนินงานการบริหารจัดการน้ำ ณ พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติจัดการน้ำชุมชนตามแนวพระราชดำริ บ้านปากซวด ตำบลพะแสง อำเภอบ้านตาขุน จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งหน่วยงานภาครัฐ และส่วนท้องถิ่นร่วมกันจัดตั้งขึ้น เพื่อเป็นแหล่งถ่ายทอดความรู้จากความสำเร็จการบริหารจัดการน้ำของชุมชน โดยน้อมนำแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เรื่อง การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำมาเป็นหลักคิด และประยุกต์ใช้ในพื้นที่ จำนวน ๕,๐๐๐ ไร่ มีการนำวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาถ่ายทอด เพื่อใช้บริหารจัดการน้ำให้มีประสิทธิภาพ สร้างการเรียนรู้จากการทำงาน, การสำรวจพื้นที่ควบคู่กับการใช้แผนที่ภาพถ่ายดาวเทียมเครื่องระบุพิกัด หรือ GPS ในการบริหารจัดการทรัพยากรและอนุรักษ์ฟื้นฟูป่าต้นน้ำ การสร้างฝายชะลอและกักเก็บน้ำ มีการกำหนดขอบเขตการใช้ประโยชน์ที่ดิน อาทิ ขอบเขตป่าอนุรักษ์ และที่ทำกินของชาวบ้าน ตลอดจนการจัดตั้งกองทุนต่าง ๆ เพื่อเป็นสวัสดิการของชุมชน ทำให้บ้านปากซวดเป็นชุมชนตัวอย่างการอนุรักษ์ป่าต้นน้ำอย่าง มีส่วนร่วม ระหว่างชุมชนและอุทยานในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ หลังจากเคยประสบปัญหาการบุกรุกทำลายป่า จนเกิดการเปลี่ยนแปลงของระบบน้ำ เช่น การขาดแคลนน้ำ และการเกิดน้ำป่าไหลหลาก
ในการนี้ ทอดพระเนตรฝายเก็บกักน้ำและเฝ้าระวังน้ำหลากของหมู่บ้าน ที่มีความจุ ๑๘,๐๐๐ ลูกบาศก์เมตร ใช้เก็บกักน้ำลำน้ำสาขาในหมู่บ้าน เพื่อสร้างความชุ่มชื้นของพื้นที่ชุมชน ๒๐๐ ไร่ มีการติดตั้งขีดระดับของปริมาณน้ำ เพื่อแจ้งเตือนพื้นที่เสี่ยงภัยด้วย
เวลา ๑๐.๔๒ น. เสด็จไปยังโรงเรียนบ้านท่านหญิงวิภา ตำบลตะกุกเหนือ อำเภอวิภาวดี ในการพระราชทานอุปกรณ์กีฬา ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้เชิญไปพระราชทานแก่นักเรียนโรงเรียนบ้านท่านหญิงวิภา ด้วยทรงห่วงใยสุขภาพและคุณภาพชีวิต พร้อมกันนี้ พระราชทานข้าวสารและยารักษาโรคของมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง ภาฯ ยามยาก สภากาชาดไทย เพื่อเป็นคลังอาหาร และคลังยาเพื่อนพึ่ง ภาฯ รองรับผู้ประสบอุทกภัยแก่ผู้แทนตำบลตะกุกเหนือ
โรงเรียนบ้านท่านหญิงวิภา ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ๒๕๑๑ ปัจจุบันเปิดสอนระดับชั้นอนุบาล ถึงมัธยมศึกษาปีที่ ๓ มีนักเรียน ๕๑๐ คน ครูและบุคลากร ๓๑ คน จากผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาประจำปี ๒๕๖๑ ผลการทดสอบระดับชาติขั้นพื้นฐาน หรือ O-Net ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ วิชาภาษาไทยสูงกว่าระดับชาติ และผลการสอบประเมินคุณภาพการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือ NT ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ ความสามารถด้านเหตุผลสูงกว่าระดับประเทศ
นอกจากนี้โปรดให้ นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เชิญอุปกรณ์กีฬาพระราชทานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ประกอบด้วย ลูกบอล บาสเก็ตบอล และตะกร้อ ไปมอบแก่โรงเรียนวัดไม้เสียบ ตำบลเกาะขันธ์ อำเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช ยังความปลาบปลื้ม และรู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ทั้งนี้ โรงเรียนวัดไม้เสียบ อยู่ห่างจากตัวอำเภอชะอวด ๑๓ กิโลเมตร เปิดสอนระดับอนุบาล ถึงประถมศึกษาปีที่ ๖ มีนักเรียน ๔๐๑ คน ครูและบุคลากรทางการศึกษา รวม ๒๓ คน
เวลา ๑๑.๑๓ น. เสด็จไปยังเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์น้ำ วังหัวสะพาน บริเวณคลองยัน บ้านหัวสะพาน ทรงติดตามการดำเนินงานของเครือข่ายอนุรักษ์ฟื้นฟูภูมินิเวศลุ่มน้ำคลองยัน ซึ่งเป็น ๑ ใน ๑๘ เครือข่ายชุมชนเตือนภัยพิบัติของมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง ภาฯ ยามยาก สภากาชาดไทย ที่จัดตั้งขึ้นเมื่อปี ๒๕๕๒ เพื่อเฝ้าระวังเรื่องทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เช่น การตัดไม้ทำลายป่า และการจับปลา โดยปี ๒๕๕๓ เกิดดินโคลนถล่ม น้ำป่าไหลหลาก จึงได้ขยายการดำเนินงานเพื่อการเตือนภัยพิบัติ โดยจัดทำระบบเตือนภัยครอบคลุม ๔๖ หมู่บ้าน ใน ๔ ตำบลของ ๒ อำเภอ มีอาสาสมัครกว่า ๓๐๐ คน มีการปลูกป่าชุมชน ๑๑ เขต ครอบคลุมพื้นที่กว่า ๒๐,๐๐๐ ไร่ ปลูกหญ้าแฝกและไม้พื้นถิ่น อาทิ ต้นไคร้น้ำ มะเดื่อ และกุ่ม เพื่อรักษาแนวตลิ่งทั้ง ๒ ฝั่ง ลุ่มน้ำคลองยัน, จัดทำเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์น้ำ รวม ๒๗ เขต เป็นเขตอภัยทาน ทั้งยังมีการใช้วิทยุสื่อสารช่วยในการเฝ้าระวัง ซึ่งจะทดสอบสัญญาณวิทยุสื่อสารทุกวัน เพื่อตรวจสอบสภาพดิน ฟ้า อากาศ ปริมาณน้ำในแต่ละพื้นที่ เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงจะได้เตรียมแผนรับมือได้ทันเวลา
โอกาสนี้ ทอดพระเนตรการสาธิตการช่วยเหลือและอพยพผู้ประสบภัยของเครือข่ายอนุรักษ์ฟื้นฟูภูมินิเวศลุ่มน้ำคลองยัน ซึ่งร่วมกับศูนย์การจัดการภัยพิบัติตำบล เกาะขันธ์ อำเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยเป็นการอพยพด้วยวิธีการใช้เชือก และเรือ อพยพจากฝั่งหนึ่งไปยังอีกฝั่งหนึ่ง แล้วจะมีการคัดกรองผู้ประสบภัย เพื่อให้การช่วยเหลือต่อไป โดยบริเวณนี้ ยังมีโทรมาตรติดตั้งที่สะพาน เพื่อเป็นข้อมูลในการติดตามสถานการณ์น้ำด้วย
ก่อนเสด็จกลับ พระราชทานอาหารปลา และทรงปล่อยปลาพลวง ปลาตะเพียนขาว และปลาตะเพียนทอง ลงในคลองยัน โดยบริเวณนี้เป็น ๑ ในเขตอภัยทาน ซึ่งชุมชนร่วมกันไม่จับปลา ทำให้ปัจจุบันมีปลาชนิดต่าง ๆ เพิ่มขึ้น รวมกว่า ๖๐ ชนิด.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
มูลนิธินายช่างไทยฯ ผนึกกำลังจิตอาสา กฟผ. ระดมกำลังเร่งฟื้นฟูระบบไฟฟ้าในพื้นที่ประสบอุทกภัย จ.สงขลา
December 5, 2025
ท่าอากาศยานหาดใหญ่ (ทหญ.) จัดการแสดงดนตรีบรรเลงเพลงพระราชนิพนธ์ เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ...
December 4, 2025
ท่าอากาศยานหาดใหญ่ส่งต่อถุงยังชีพ AOT ให้ชุมชนรอบสนามบิน
December 3, 2025
โรงเรียน นานาชาติ The American School of Bangkok ...
December 3, 2025