เมื่อเวลา 23.00 น. พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รรท. ผบช.สตม. ,พ.ต.อ.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รรท .ผบก.สส.สตม. พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รรท.ผบก.ตม.3 พ.ต.อ.ไพโรจน์ กุจิรพันธ์ รรท.ผบก.สส.บช.ภ.4 พ.ต.ท.อาริศ คูประสิทธิ รองผกก.สายตรวจ พ.ต.ท.นฤวัต พุทธิวิโร สว.งานสายตรวจ สนธิกำลังนายเมธี สุวรรณฝ่าย รองผู้ว่าสกลนคร ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้ 9 ราย ประกอบไปด้วยนางฐิตินันท์ ดอนเงิน,นายกฤษกร ดอนเงิน นายชยพล ทองคลองไชย,นางฐานีนุช สวรรณกำจาย,นายนิพนธ์ งามเถื่อน,นางสาวนิตยา คำจำปา,นางรัตนพร พิกุลทอง ,นายอนุวัชช์ อัมพวันและนายกฤษฏภาส สุคนธชาติ ทั้งหมดเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสกลนคร ในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันกู้ยืมอันมีลักษณะเป็นการฉ้อโกงประชาชน”
การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ ศปอส.ตร. ได้รับการร้องเรียนจากกลุ่มประชาชนที่ได้รับความเสียหาย จากกลุ่มของ นางฐิตินันท์ ดอนเงิน กับพวก และ นายอนุวัชช์ อัมพวัน กับพวก เชิญชวนชาวบ้านสมัครเข้าเป็นสมาชิก โดยให้ผลตอบแทนสูง จนเป็นเหตุให้ผู้เสียหายกับพวกหลงเชื่อแล้วสมัครเป็นสมาชิกและร่วมลงทุนตามที่ผู้ต้องหาหลอกลวง รวมผู้เสียหายจำนวน 1165 ราย เป็นเงินกว่า 47 ล้าน โดยพฤติการณ์นางฐิตินันท์ชักชวนให้ประชาชนสมัครเข้าเป็นสมาชิกของมูลนิธิแห่งหนึ่ง ซึ่งจะได้สิทธิประโยชน์ตอบแทนต่างๆ โดยจะต้องจ่ายเงินค่าสมัครสมาชิกและเงินลงทุนต่างๆ อีกทั้งมีการหลอกลวงว่าสามารถฝากงานเป็นข้าราชการหรือพนักงานราชการของหน่วยงานรัฐได้
ส่วนในรายของนายอนุวัชช์อ้างตนเป็นประธานบริษัทที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับเงินตราต่างประเทศ และสามารถจัดหาเงินมาช่วยเหลือผู้เสียหายกับพวก ซึ่งเป็นหนี้สินจากการถูกนางฐิตินันท์ ดอนเงิน หลอกลวง และสามารถจัดหาที่ดินทำกินให้ผู้เสียหายกับพวกได้ เป็นเหตุให้ผู้เสียหายกับพวกหลงเชื่อ แล้วมอบเงินให้ดำเนินการ จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับต่อศาลจังหวัดสกลนคร ผู้ต้องหาทั้งสิ้น จำนวน 11 ราย และจับกุมได้ 9 ราย
จากการสอบสวนผู้ต้องหารับว่าตลอดเวลาได้ร่วมกันหลอกผู้เสียหาย ได้เงิน200 ล้านบาท นอกจากนี้จากการสืบสวนสอบสวนยังพบว่า นางฐิตินันท์ ดอนเงิน กับพวก ได้ทาการหลอกลวงว่าจัดทำ โครงการ “ปิดทองหลังพระ” ในหลายพื้นที่ของสกลนคร อาทิสถานีตำรวจภูธรนิคมน้ำอูน จำนวน 2 คดี เสียหาย8,080,000บาท สถานีตำรวจภูธรภูพาน จำนวน 1คดี เสียหาย776,060 บาท สถานีตำรวจภูธรพังโคน จำนวน 2 คดี เสียหาย 491,470บาท และ สถานีตำรวจภูธรสว่างจำนวน 5คดี เสียหาย 51,580,000บาท มูลค่ารวมความเสียหายในพื้นที่จังหวัดสกลนคร จำนวน60,927,530 บาท รวมทั้งเสียหายในหลายจังหวัด ได้แก่ จังหวัด อุดรราชธานี อุบลราชธานี นครราชสีมา เป็นต้น จนผู้เสียหายหลงเชื่อ ความเสียหายมูลค่าอีกนับไม่ถ้วน อีกทั้งยังมีพฤติการณ์ข่มขู่ ทำให้ ผู้เสียหายที่ถูกหลอกลวงเกิดความกลัว ไม่กล้าที่จะร้องทุกข์ดำเนินคดี
ทั้งนี้การดำเนินการเป็นสองส่วน คือบังคับใช้กฎหมายและเยียวยาผู้เสียหาย จึงขอประชาสัมพันธ์ประชาชนที่ถูก นาง ฐิตินันท์ ดอนเงิน กับพวก หรือบุคคลใดก็ตามกล่าวอ้างหลอกลวงในลักษณะเช่นนี้ ให้มาแสดงตัวร้องทุกข์ที่ ตำรวจภูธรจังหวัด ของแต่ละจังหวัด เพื่อจะได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง และดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป.
สำนักข่าวบ้านข่าว รายงาน
November 24, 2024
November 21, 2024
ชื่อ-สกุล*
อีเมล์*
เว็ปไซต์
แสดงความคิดเห็น
Notify me of follow-up comments by email.
Notify me of new posts by email.
Δ
ศปอส.ตร. รวบแก๊งต้มตุ๋นหลอกระดมทุนเงินชาวบ้าน อ้างผลตอบแทนสูง แถมฝากรับราชการได้ เสียหายกว่า 200 ล้านบาท
เมื่อเวลา 23.00 น. พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รรท. ผบช.สตม. ,พ.ต.อ.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รรท .ผบก.สส.สตม. พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รรท.ผบก.ตม.3 พ.ต.อ.ไพโรจน์ กุจิรพันธ์ รรท.ผบก.สส.บช.ภ.4 พ.ต.ท.อาริศ คูประสิทธิ รองผกก.สายตรวจ พ.ต.ท.นฤวัต พุทธิวิโร สว.งานสายตรวจ สนธิกำลังนายเมธี สุวรรณฝ่าย รองผู้ว่าสกลนคร ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้ 9 ราย ประกอบไปด้วยนางฐิตินันท์ ดอนเงิน,นายกฤษกร ดอนเงิน นายชยพล ทองคลองไชย,นางฐานีนุช สวรรณกำจาย,นายนิพนธ์ งามเถื่อน,นางสาวนิตยา คำจำปา,นางรัตนพร พิกุลทอง ,นายอนุวัชช์ อัมพวันและนายกฤษฏภาส สุคนธชาติ ทั้งหมดเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสกลนคร ในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันกู้ยืมอันมีลักษณะเป็นการฉ้อโกงประชาชน”
การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ ศปอส.ตร. ได้รับการร้องเรียนจากกลุ่มประชาชนที่ได้รับความเสียหาย จากกลุ่มของ นางฐิตินันท์ ดอนเงิน กับพวก และ นายอนุวัชช์ อัมพวัน กับพวก เชิญชวนชาวบ้านสมัครเข้าเป็นสมาชิก โดยให้ผลตอบแทนสูง จนเป็นเหตุให้ผู้เสียหายกับพวกหลงเชื่อแล้วสมัครเป็นสมาชิกและร่วมลงทุนตามที่ผู้ต้องหาหลอกลวง รวมผู้เสียหายจำนวน 1165 ราย เป็นเงินกว่า 47 ล้าน โดยพฤติการณ์นางฐิตินันท์ชักชวนให้ประชาชนสมัครเข้าเป็นสมาชิกของมูลนิธิแห่งหนึ่ง ซึ่งจะได้สิทธิประโยชน์ตอบแทนต่างๆ โดยจะต้องจ่ายเงินค่าสมัครสมาชิกและเงินลงทุนต่างๆ อีกทั้งมีการหลอกลวงว่าสามารถฝากงานเป็นข้าราชการหรือพนักงานราชการของหน่วยงานรัฐได้
ส่วนในรายของนายอนุวัชช์อ้างตนเป็นประธานบริษัทที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับเงินตราต่างประเทศ และสามารถจัดหาเงินมาช่วยเหลือผู้เสียหายกับพวก ซึ่งเป็นหนี้สินจากการถูกนางฐิตินันท์ ดอนเงิน หลอกลวง และสามารถจัดหาที่ดินทำกินให้ผู้เสียหายกับพวกได้ เป็นเหตุให้ผู้เสียหายกับพวกหลงเชื่อ แล้วมอบเงินให้ดำเนินการ จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับต่อศาลจังหวัดสกลนคร ผู้ต้องหาทั้งสิ้น จำนวน 11 ราย และจับกุมได้ 9 ราย
จากการสอบสวนผู้ต้องหารับว่าตลอดเวลาได้ร่วมกันหลอกผู้เสียหาย ได้เงิน200 ล้านบาท นอกจากนี้จากการสืบสวนสอบสวนยังพบว่า นางฐิตินันท์ ดอนเงิน กับพวก ได้ทาการหลอกลวงว่าจัดทำ โครงการ “ปิดทองหลังพระ” ในหลายพื้นที่ของสกลนคร อาทิสถานีตำรวจภูธรนิคมน้ำอูน จำนวน 2 คดี เสียหาย8,080,000บาท สถานีตำรวจภูธรภูพาน จำนวน 1คดี เสียหาย776,060 บาท สถานีตำรวจภูธรพังโคน จำนวน 2 คดี เสียหาย 491,470บาท และ
สถานีตำรวจภูธรสว่างจำนวน 5คดี เสียหาย 51,580,000บาท มูลค่ารวมความเสียหายในพื้นที่จังหวัดสกลนคร จำนวน60,927,530 บาท รวมทั้งเสียหายในหลายจังหวัด ได้แก่ จังหวัด อุดรราชธานี อุบลราชธานี นครราชสีมา เป็นต้น จนผู้เสียหายหลงเชื่อ ความเสียหายมูลค่าอีกนับไม่ถ้วน อีกทั้งยังมีพฤติการณ์ข่มขู่ ทำให้ ผู้เสียหายที่ถูกหลอกลวงเกิดความกลัว ไม่กล้าที่จะร้องทุกข์ดำเนินคดี
ทั้งนี้การดำเนินการเป็นสองส่วน คือบังคับใช้กฎหมายและเยียวยาผู้เสียหาย จึงขอประชาสัมพันธ์ประชาชนที่ถูก นาง ฐิตินันท์ ดอนเงิน กับพวก หรือบุคคลใดก็ตามกล่าวอ้างหลอกลวงในลักษณะเช่นนี้ ให้มาแสดงตัวร้องทุกข์ที่ ตำรวจภูธรจังหวัด ของแต่ละจังหวัด เพื่อจะได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง และดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป.
สำนักข่าวบ้านข่าว รายงาน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาคที่ 2 ช่วยเหลือเหตุเรืออับปางในทะเล บริเวณทางทิศตะวันออกของร่องน้ำสงขลา
November 24, 2024
JUBILEE DIAMOND ฉลองครบรอบ 95 ปี เปิดบ้าน THE ...
November 24, 2024
โรงไฟฟ้าขนอม ร่วมสืบสานประเพณีลอยกระทง สร้างความสุขทั่วอำเภอขนอม
November 21, 2024
โรงไฟฟ้าขนอม ร่วมส่งเสริมสุขภาพชุมชน สนับสนุนอบรม อสม.ใหม่/ทดแทน
November 21, 2024