ตามนโยบายของรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กำหนดให้ปัญหาหนี้นอกระบบ ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญของพี่น้องประชาชน เป็นวาระแห่งชาติ จึงได้สั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติและหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันบูรณาการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลและดำเนินการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบอย่างจริงจัง
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงได้จัดตั้งศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) ตามคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ 577/2561 ลงวันที่ 3 ตุลาคม 2561 เพื่อดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลดังกล่าว
โดยในวันที่ 9 พฤศจิกายน 2561 ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พลตำรวจตรี สุรเชษฐ์ หักพาล รักษาราชการแทน ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง, พลตำรวจตรี กฤษกร พลีธัญญวงศ์ รักษาราชการแทน รองผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการ ศปอส.ตร.ชุดที่ 5,6,7,8 และ 9 ได้ประสานการปฏิบัติกับ พลตำรวจโท สุรชัย ควรเดชะคุปต์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4, พลตำรวจตรี สมชาย นุ่มโต ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมด้วยหน่วยทหารและฝ่ายปกครองในพื้นที่ ดำเนินการภายใต้ยุทธการ “ขุดรากถอนโคนอาชญากรรม ทำบ้านเมืองน่าอยู่” ครั้งที่ ๑7 ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องปิดล้อมตรวจค้นยึด/อายัดทรัพย์สินของกลุ่มนายทุนเงินกู้ผู้ต้องหา และเพื่อค้นหาพยานหลักฐานตามเรื่องร้องเรียน ในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด จำนวน 6 เป้าหมาย 11 จุด และเข้าปิดล้อมตรวจค้นสถานที่เพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน ตามเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับนายทุนเงินกู้นอกระบบของประชาชน ในจังหวัดหนองบัวลำภู และอำเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น จำนวน 5 เป้าหมาย 7 จุด โดยผลการปฏิบัติ สรุปได้ดังนี้ 1.จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ จำนวน 2 ราย ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันให้ผู้อื่นกู้ยืมเงินโดยเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด” ประกอบด้วย นางสุกานดา แซ่เซีย และนายดุลยภาส มกรารัตน์ 2. แจ้งข้อกล่าวหา ผู้ต้องหา จำนวน 1 ราย ได้แก่ นายนาย ขันโมลี 3.ยึด/อายัดทรัพย์สิน ผู้ต้องหา ประกอบด้วย 3.1 อาคารพาณิชย์ จำนวน 15 คูหา 3.2 รถยนต์จำนวน 24 คัน 3.3 บ้าน 2 หลัง พร้อมที่ดินจำนวน 8 ไร่ 3.4 ปืนยาวจำนวน 21 กระบอก 3.5 ปื้นสั้นจำนวน 9 กระบอก มูลค่าทรัพย์สินรวม 87 ล้านบาท 4.ตรวจยึดโฉนดที่ดิน จำนวน 1,084 ฉบับ มูลค่ารวม 3,252 ล้านบาท รวมถึงเอกสารที่เกี่ยวข้อง อีกจำนวนหลายรายการ ยึด/อายัดทรัพย์สิน รวมมูลค่า 3,339 ล้านบาท.
สำนักข่าวบ้านข่าว รายงาน
November 21, 2024
November 20, 2024
November 19, 2024
ชื่อ-สกุล*
อีเมล์*
เว็ปไซต์
แสดงความคิดเห็น
Notify me of follow-up comments by email.
Notify me of new posts by email.
Δ
ปฏิบัติการ “ขุดรากถอนโคนอาชญากรรม ทำบ้านเมืองน่าอยู่” ครั้งที่ 17 ในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 4
ตามนโยบายของรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กำหนดให้ปัญหาหนี้นอกระบบ ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญของพี่น้องประชาชน เป็นวาระแห่งชาติ จึงได้สั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติและหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันบูรณาการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลและดำเนินการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบอย่างจริงจัง
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงได้จัดตั้งศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) ตามคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ 577/2561 ลงวันที่ 3 ตุลาคม 2561 เพื่อดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลดังกล่าว
โดยในวันที่ 9 พฤศจิกายน 2561 ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พลตำรวจตรี สุรเชษฐ์ หักพาล รักษาราชการแทน ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง, พลตำรวจตรี กฤษกร พลีธัญญวงศ์ รักษาราชการแทน รองผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการ ศปอส.ตร.ชุดที่ 5,6,7,8 และ 9 ได้ประสานการปฏิบัติกับ พลตำรวจโท สุรชัย ควรเดชะคุปต์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4, พลตำรวจตรี สมชาย นุ่มโต ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมด้วยหน่วยทหารและฝ่ายปกครองในพื้นที่ ดำเนินการภายใต้ยุทธการ “ขุดรากถอนโคนอาชญากรรม ทำบ้านเมืองน่าอยู่” ครั้งที่ ๑7 ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องปิดล้อมตรวจค้นยึด/อายัดทรัพย์สินของกลุ่มนายทุนเงินกู้ผู้ต้องหา และเพื่อค้นหาพยานหลักฐานตามเรื่องร้องเรียน ในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด จำนวน 6 เป้าหมาย 11 จุด และเข้าปิดล้อมตรวจค้นสถานที่เพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน ตามเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับนายทุนเงินกู้นอกระบบของประชาชน ในจังหวัดหนองบัวลำภู และอำเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น จำนวน 5 เป้าหมาย 7 จุด โดยผลการปฏิบัติ สรุปได้ดังนี้
1.จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ จำนวน 2 ราย ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันให้ผู้อื่นกู้ยืมเงินโดยเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด” ประกอบด้วย นางสุกานดา แซ่เซีย และนายดุลยภาส มกรารัตน์
2. แจ้งข้อกล่าวหา ผู้ต้องหา จำนวน 1 ราย ได้แก่ นายนาย ขันโมลี
3.ยึด/อายัดทรัพย์สิน ผู้ต้องหา ประกอบด้วย
3.1 อาคารพาณิชย์ จำนวน 15 คูหา
3.2 รถยนต์จำนวน 24 คัน
3.3 บ้าน 2 หลัง พร้อมที่ดินจำนวน 8 ไร่
3.4 ปืนยาวจำนวน 21 กระบอก
3.5 ปื้นสั้นจำนวน 9 กระบอก
มูลค่าทรัพย์สินรวม 87 ล้านบาท
4.ตรวจยึดโฉนดที่ดิน จำนวน 1,084 ฉบับ มูลค่ารวม 3,252 ล้านบาท
รวมถึงเอกสารที่เกี่ยวข้อง อีกจำนวนหลายรายการ ยึด/อายัดทรัพย์สิน รวมมูลค่า 3,339 ล้านบาท.
สำนักข่าวบ้านข่าว รายงาน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
โรงไฟฟ้าขนอม ร่วมสืบสานประเพณีลอยกระทง สร้างความสุขทั่วอำเภอขนอม
November 21, 2024
โรงไฟฟ้าขนอม ร่วมส่งเสริมสุขภาพชุมชน สนับสนุนอบรม อสม.ใหม่/ทดแทน
November 21, 2024
อบจ.สงขลา ร่วมรับรางวัลประกาศเกียรติคุณ “ค่าของแผ่นดิน” ประจำปี 2566 ด้านการพัฒนาสังคมและส่งเสริมคุณภาพชีวิต จากโครงการ ...
November 20, 2024
อโกด้าเผย หาดใหญ่คว้าแชมป์เมืองท่องเที่ยวที่คุ้มค่าที่สุดในไทย ช่วงเทศกาลส่งท้ายปี
November 19, 2024