วันที่  13 ตุลาคม 2561 ที่บริเวณสี่แยกพระพุทธศรีสงขลานครินทร์ อ.เมืองสงขลา จ.สงขลา นายวีรนันทน์ เพ็งจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยนายกเหล่ากาชาดจังหวัดสงขลา นำหัวหน้าส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหน่วยงานต่าง ๆ พร้อมด้วยนายสมศักดิ์  ตันติเศรณีนายกเทศมนตรีนครสงขลา  พร้อมด้วยนายไพโรจน์  สุวรรณจินดา  รองนายกเทศมนตรีนครสงขลา  นางสาวพรพรรณ  กิติคุณ  ผู้อำนวการโรงเรียนเทศบาล  2  (อ่อนอุทิศ)  และนางสาวลัดดาวัลย์ วิจิตรจินดา  รองผู้อำนวยการเทศบาล  2  นางสาวจงกล  มณีพงศ์  รองผู้อำนวยการโรงเรียนเทศบาล  1  (นครนอก)  พสกนิกรชาวสงขลาทุกหมู่เหล่าถวายเป็นพระราชกุศล พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต 13 ตุลาคม 2561 โดยพระสงฆ์ สามเณร จำนวน 89 รูป ออกรับบิณฑบาตจากพสกนิกรชาวสงขลาซึ่งพร้อมใจกันแต่งกายด้วยเสื้อผ้าโทนสีเหลืองร่วมตักบาตรเป็นจำนวนมาก จากนั้นในเวลา 09.00 น. ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานประกอบพิธีวางพวงมาลาและถวายบังคมเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ณ หอประชุมเปรม 100 โรงเรียนมหาวชิราวุธ และในเวลา 19.00 น. จะมีพิธีจุดเทียนเพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร พร้อมกับส่วนกลาง ณ หอประชุมเปรม 100 ปี โรงเรียนมหาวชิราวุธ จึงขอเชิญชวนประชาชนทุกหมู่เหล่าร่วมพิธีและพร้อมใจกันแต่งกายด้วยเสื้อผ้าโทนสีเหลือง

ตลอดระยะเวลา ๗๐ ปี ที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงครองราชย์ พระองค์ทรงปกครองบ้านเมืองด้วยหลักทศพิธราชธรรม เพื่อให้บ้านเมืองและประชาชนอยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุข ดังพระปฐมบรมราชโองการในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เมื่อวันที่ ๕ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๙๓ ว่า “เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม” นับจากวันนั้น พระองค์ทรงประกอบพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่เพื่อประโยชน์สุขของประชาชนมาโดยตลอด

ทรงเป็นกษัตริย์ผู้ทรงห่วงใยในทุกข์สุข ของอาณาประชาราษฎร์ มิต่างจากทุกข์สุขของพระองค์เอง กษัตริย์ผู้ทรงอุทิศพระวรกาย ในการประกอบพระราชกรณียกิจด้านต่าง ๆ มากมาย นำพาซึ่งความร่มเย็นเป็นสุขมาสู่ ปวงชนชาวไทยทั้งประเทศ สะท้อนออกมาเป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริกว่า ๔,๐๐๐ โครงการ ซึ่งล้วนแต่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนและ การพัฒนาประเทศทั้งสิ้น อาทิ โครงการพัฒนาแหล่งน้ำ พัฒนาด้านการเกษตร พัฒนาด้านสิ่งแวดล้อม พัฒนาด้านการส่งเสริมอาชีพ พัฒนาด้านสาธารณสุข พัฒนา ด้านคมนาคมและการสื่อสาร พัฒนาด้านสวัสดิการสังคมและการศึกษา โครงการพัฒนา แบบบูรณาการและอื่น ๆ ซึ่งทุกโครงการที่พระองค์ได้พระราชทาน ยังประโยชน์สุข มากมายแก่ประชาชนชาวไทยให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นและพัฒนาประเทศไปสู่ ความยั่งยืน

แม้วันนี้ กษัตริย์ผู้เป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทย ผู้เป็นพ่อของแผ่นดินจะเสด็จ สู่สวรรคาลัย แต่รากฐานการพัฒนาประเทศที่พระองค์ได้วางไว้ ผ่านพระราชกรณียกิจ ตลอดพระชนม์ชีพของการครองราชย์ และพระราชดำรัสในวาระต่าง ๆ ที่สามารถนำมา เป็นแนวทางในการดำรงชีวิต ยังคงเป็นสิ่งที่อยู่คู่แผ่นดินไทยและอยู่ในดวงใจพสกนิกรตราบนิรันดร์.

ภาพ/ข่าว  กิตติพัฒน์  พรนิมิตมงคล

สำนักข่าวบ้านข่าว  รายงาน