ปัตตานี – ศอ.บต.จัดตรวจสารพันธุกรรม หรือ DNA เพื่อให้สัญชาติ และเพิ่มชื่อในทะเบียนราษฎร พบมีคนไทยไร้สัญชาติในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้นับหมื่นราย

…..■>>>วันนี้ (22 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศภายในห้องประชุมใหญ่ สำนักงานคณะกรรมการอิสลามจังหวัดปัตตานี ได้มีประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้ง จ.ปัตตานี ยะลา นราธิวาส และ จ.สงขลา ได้เดินทางมาลงทะเบียนตรวจรายชื่อบุคคลที่ไร้สัญชาติในแต่ละอำเภอที่ได้ส่งรายชื่อมา เพื่อรับการดำเนินการเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบพิสูจน์เปรียบเทียบสารพันธุกรรม หรือ DNA เพื่อการให้สัญชาติ และเพิ่มชื่อในทะเบียนราษฎร เพื่อให้ได้มาของเลข 13 หลัก เพื่อออกบัตรประจำตัวประชาชน โดยมีประชาชนที่แจ้งชื่อผ่านทางอำเภอในรอบนี้ทั้งสิ้น 170 คน ซึ่งพบว่า จ.นราธิวาส มีมากที่สุด จำนวน 80 คน สำหรับการเข้ากระบวนการพิสูจน์เปรียบเทียบสารพันธุกรรมในครั้งนี้ ต้องอาศัยพ่อแม่หรือญาติ จึงทำให้มีประชาชนเข้าร่วมในครั้งนี้ จำนวน 380 คน

…..■>>>การจัดเก็บตัวอย่าง และตรวจพิสูจน์สารพันธุกรรม เพื่อแก้ไขปัญหาบุคคลไม่มีสถานะทางทะเบียนราษฎร หรือไร้สัญชาติในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีประชาชนที่ไม่มีสถานะทางทะเบียนราษฎรในพื้นที่ และญาติพี่น้องมาร่วมให้ตรวจพิสูจน์สารพันธุกรรม เพื่อเปรียบเทียบความสัมพันธ์ทางสายโลหิตในเครือญาติ เป็นพยานหลักฐานในการดำเนินการเพิ่มชื่อในทะเบียนบ้าน และออกบัตรประจำตัวประชาชนต่อไป

…..■>>>สำหรับผลการสำรวจบุคคลคนไทยในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่มีสถานะไร้สัญชาติมากถึง 13,905 คน ตามที่ได้มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อปี พ.ศ.2561 ซึ่งการจัดงบประมาณในการดำเนินการตรวจสอบเปรียบเทียบสารพันธุกรรมในครั้งนี้ ทาง ศอ.บต. ต้องจัดงบประมาณมากถึง 50 ล้านบาท ตกค่าใช้จ่ายรายละไม่ต่ำกว่า 5,000 บาท

…..■>>>ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสอบถามสาเหตุของการไร้สัญชาติของคนไทยในกลุ่มนี้ พบว่า มาจากหลากหลายสาเหตุ บางรายมาจากปัญหาครอบครัวแตกแยก การอพยพแรงงานข้ามจังหวัด ข้ามประเทศ และการไม่เอาใจใส่ของผู้เป็นพ่อแม่เสียเอง โดยเฉพาะบุคคลที่คลอดตามหมู่บ้านกับหมอตำแย และขาดการเอาใจใส่ของผู้นำท้องที่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ที่มีหน้าที่โดยตรงที่ต้องแจ้งให้แก่ลูกบ้านของตัวเองทราบในเรื่องดังกล่าว

…..■>>>นายยาการียา หะยีนาแว อายุ 58 ปี เป็นคนหนึ่งที่ยังไร้สัญชาติไทย ได้เดินทางมากับญาติ และนางแย สาและ อายุ 75 ปี ผู้เป็นแม่บังเกิดเกล้า และเป็นชาวปะนาเระ อยู่บ้านเลขที่ 184/1 ม.1 ต.ปะนาเระ อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ปัจจุบันตั้งอยู่ในเขตเทศบาลตำบลปะนาเระ

…..■>>>โดยแม่ เปิดเผยว่า เมื่อ 50 กว่าปีที่แล้วได้แต่งงานกับ นายแวหามะ หะยีนาแว และได้เกิดลูกชายคนหนึ่ง นั่นคือ นายยาการียา ซึ่งขณะนั้นนายการียาเพิ่งมีอายุเพียง 17 เดือน แม่กับพ่อเขาได้เกิดมีปากเสียงกัน ด้วยความโมโหทั้งคู่จึงได้แยกทางกัน จากนั้นพ่อของ นายยาการียา ก็ได้แต่งงานใหม่จนมีลูกกับภรรยาคนใหม่ จึงไม่ได้สนใจลูกชายของแม่เลย

…..■>>>ส่วนแม่เองก็ถูกคนฉุดพาหนีไปแต่งงานใหม่ ต้องยอมรับว่าแม่ในขณะนั้นมีผู้ชายหมายปองเยอะ จึงมีการสร้างครอบครัวใหม่ มีลูกกับสามีใหม่อีกหลายคน จนทุกวันนี้แม่เคยมีสามีมาแล้วถึง 4 คน เว้นจากสามีเมื่อไหร่ก็มีผู้ชายมาสู่ขอทันที จึงทำให้ นายยาการียา ถูกทอดทิ้งไปโดยปริยาย

…..■>>>จนทุกวันนี้ยังไม่สัญชาติไทย และทุกวันนี้ลูกชายคนนี้กำลังป่วยเป็นโรคไตเรื้อรัง ความดันไม่ปกติ ต้องเข้าโรงพยาบาลบ่อย และทุกครั้งต้องเสียค่ายา ค่ารักษาจากโรงพยาบาลของรัฐ เพราะจะเสียสิทธิความเป็นพลเมืองไทย สงสารลูกชายคนนี้มาก เขาอยู่คนเดียวไม่เคยแต่งงาน เพราะเขาไม่สามารถแจ้งชื่อในทะเบียน และกลัวจะเป็นภาระให้แก่ลูกได้ จึงอยู่เป็นโสดจนแก่ มาวันนี้ญาติต้องช่วยประคองเขามาตรวจดีเอ็นเอเพราะเขาป่วย.

โดย: [▪ผู้จัดการออนไลน์▪]

สำนักข่าวบ้านข่าว  รายงาน