วันที่ 09/08/61) เวลา 09.00 น. ที่บริเวณลานเทกลุ่มชาวสวนปาล์มน้ำมันรพีพัฒน์ สหกรณ์การเช่าซื้อที่ดินหนองเสือ ต.หนองหมู อ.วิหารแดง จ.สระบุรี นายลักษณ์ วจนานวัช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และคณะได้ลงพื้นที่ เพื่อเยี่ยมพี่น้องเกษตรกร ชาวสวนปาล์มน้ำมันในพื้นที่ทุ่งรังสิต จากอำเภอวิหารแดงจังหวัดสระบุรีและอำเภอหนองเสือจังหวัดปทุมธานี และติดตามรับฟังปัญหา มีนายบัณฑิตย์ เทวีทิวารักษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี พร้อมด้วยนางกาญจนา แดงรุ่งโรจน์ เกษตรและสหกรณ์จังหวัดสระบุรี นางฤษญาพร สุนทรพจน์ พาณิชย์จังหวัดสระบุรี พ.อ.เพิ่มศักดิ์ ขุนโขลน รอง ผอ.กอ.รมน.สระบุรี นำส่วนราชการส่วนที่เกี่ยวข้อง พี่น้องเกษตรกรให้การต้อนรับ หลังกลุ่มเกษตรกรเคยยื่นหนังสือถึงรัฐบาลเรียกร้องขอความช่วยเหลือในเรื่องของราคาปาล์มที่ตกต่ำราคาปัจจุบันในพื้นที่ราคาอยู่ที่ 3.70-3.90 บาท/กก.
นายลักษณ์ วจนานวัช รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า การปลูกปาล์มน้ำมันในเขตทุ่งรังสิตมีจุดเริ่มต้นจากโครงการศึกษาทดสอบการปลูกปาล์มน้ำมันในพื้นที่ภาคกลางและภาคตะวันตก โดยเป็นการทดสอบการเจริญเติบโตเปรียบเทียบกับพื้นที่ปลูกทางภาคใต้ ประมาณการผลผลิตและรายได้ของเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ เพื่อเป็นพืชทางเลือกอีกชนิดหนึ่งในเขตพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งจากแปลงศึกษาทดสอบในจังหวัดปทุมธานีเพียง 100 ไร่ ในปี 2547 ปัจจุบันเกษตรกรมีการขยายพื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมันออกไปในจังหวัดสระบุรี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และจังหวัดนครนายก เป็นพื้นที่กว่า 15,000 ไร่
โดยปลูกในพื้นที่สวนส้มร้างที่ได้รับความเสียหาย แต่ยังมีระบบร่องสวนที่มีน้ำสามารถปลูกปาล์มน้ำมันได้ดี ให้ผลผลิตสูง มีแหล่งปลูกหลัก ๆ ในเขตทุ่งรังสิต ได้แก่ จังหวัดปทุมธานี ปัจจุบันมีเกษตรกรสนใจปลูกปาล์มน้ำมันกันมากขึ้นมีพื้นที่ปลูก 9,082 ไร่ (ข้อมูลทะเบียนเกษตรกร 16 พ.ค.61) โดยเกษตรกรมีการรวมตัวเป็นแปลงใหญ่ปาล์มน้ำมันในปี 2561 จำนวน 1 แปลง เกษตรกร 80 ราย พื้นที่ 2,239 ไร่ มีแผนการพัฒนาของสมาชิกกลุ่มเพื่อเสริมรายได้ในช่วงที่ผลผลิตมีราคาตกต่ำ คือ เลี้ยงปลาในร่องสวน เลี้ยงไก่ไข่ หรือไก่พื้นบ้าน เลี้ยงหมูหลุม และมีการลดต้นทุนการผลิต โดยส่งเสริมการใช้ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดิน และสำหรับจังหวัดสระบุรี เกษตรกรมีการปรับเปลี่ยนพื้นที่ไปปลูกปาล์มน้ำมัน พื้นที่ 3,075 ไร่ (ข้อมูลทะเบียนเกษตรกร 16 พ.ค. 61) เกษตรกรผู้มีการรวมตัวเป็นแปลงใหญ่ปาล์มน้ำมัน ในปี 2561 จำนวน 1 แปลง เกษตรกร 30 ราย พื้นที่ 1,773 ไร่ มีแผนการพัฒนาของสมาชิกกลุ่มเพื่อตัดปาล์มน้ำมันให้ได้คุณภาพ และส่งเสริมการใช้ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดิน
อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ผลผลิตเริ่มออกสู่ตลาดครั้งแรกในปี 2550 มีบริษัทรับซื้อปาล์มน้ำมันในจังหวัดชลบุรี มาเปิดจุดรับซื้อในพื้นที่ โดยกำหนดช่วงเวลารับซื้อ 15 วัน/ครั้ง ต่อมาเมื่อพื้นที่ปลูกมากขึ้น ผลผลิตออกสู่ตลาดมากขึ้น ผู้ประกอบการจึงมีการเปิดจุดรับซื้อผลผลิตปาล์มน้ำมันเพิ่มขึ้น โดยเกษตรกรสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตไปจำหน่ายได้ทุกวัน จุดรับซื้อในพื้นที่ ได้แก่ เสถียรปาล์ม คลอง 9 ตำบลบึงชำอ้อ อำเภอหนองเสือ จังหวัดปทุมธานี สหกรณ์ปฏิรูปที่ดิน หนองเสือ คลอง 8 ตำบลบึงชำอ้อ อำเภอหนองเสือ จังหวัดปทุมธานี สหกรณ์ปั๊มบางจาก คลอง 13 ตำหนองหมู อำเภอวิหารแดง จังหวัดสระบุรี และ ลานปราโมทย์การเกษตร ทั้งนี้ สำหรับเกษตรกรกลุ่มแปลงใหญ่ในจังหวัดปทุมธานีและจังหวัดสระบุรี ได้มีการเก็บเกี่ยวผลผลิตที่มีคุณภาพ โดยกลุ่มได้ให้ความรู้กับสมาชิกในการเก็บเกี่ยวผลผลิตตามมาตรฐานสินค้าเกษตรทะลายปาล์มน้ำมัน (มกษ.5702-2552)
รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวอีกว่า มีการหารือถึงการทำงานร่วมกันจากทุกภาคส่วน โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้นำ ซึ่งจะมีการจัดทำยุทธศาสตร์การพัฒนาปาล์มน้ำมันในพื้นที่ทุ่งรังสิต โดยต้องมีพื้นที่สวนปาล์มขนาดใหญ่ ตั้งแต่ 30,000 ไร่ขึ้นไป มีการบริหารจัดการแบบครบวงจร รวบรวมผลผลิตของพี่น้องเกษตรกรเป็นลานเทเพื่อส่งโรงงานสกัดเอทานอลไปใช้ในอุตสาหกรรมน้ำมัน ถ้าพื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมันอยู่ในพื้นที่เดียวกัน จะช่วยลดต้นทุนทางด้านการขนส่งได้ และหากโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มเป็นขององค์กรเกษตรกรเองก็จะยิ่งสามารถดำเนินการบริหารจัดการได้ มูลค่าเพิ่มจะตกอยู่ในท้องถิ่น เกษตรกรจะได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่
นอกจากนี้ จะเชื่อมโยงเอาน้ำมันปาล์มดิบที่สกัดได้เข้าสู่ระบบการผลิตน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งปัจจุบันนายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้กระทรวงพลังงานยกระดับการเอาน้ำมันปาล์มมาผลิตเป็นไบโอดีเซล ผลิตเป็น B20 ก็จะทำให้ตลาดที่มารองรับน้ำมันปาล์มดิบกว้างขวางยิ่งขึ้น.
ภาพ-ข่าว วรวิทย์ คำเสียง ผู้สื่อข่าว จ.สระบุรี
สำนักข่าวบ้านข่าว รายงาน
November 21, 2024
November 20, 2024
November 19, 2024
ชื่อ-สกุล*
อีเมล์*
เว็ปไซต์
แสดงความคิดเห็น
Notify me of follow-up comments by email.
Notify me of new posts by email.
Δ
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ลงพื้นที่สระบุรีพบเกษตรกรชาวสวนปาล์มหลังราคาตกต่ำ พร้อมส่งเสริมให้ปลูกปาล์มน้ำมันให้ได้คุณภาพยกระดับผลิตเป็นไบโอดีเซล B20 จัดหาตลาดรองรับ
วันที่ 09/08/61) เวลา 09.00 น. ที่บริเวณลานเทกลุ่มชาวสวนปาล์มน้ำมันรพีพัฒน์ สหกรณ์การเช่าซื้อที่ดินหนองเสือ ต.หนองหมู อ.วิหารแดง จ.สระบุรี นายลักษณ์ วจนานวัช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และคณะได้ลงพื้นที่ เพื่อเยี่ยมพี่น้องเกษตรกร ชาวสวนปาล์มน้ำมันในพื้นที่ทุ่งรังสิต จากอำเภอวิหารแดงจังหวัดสระบุรีและอำเภอหนองเสือจังหวัดปทุมธานี และติดตามรับฟังปัญหา มีนายบัณฑิตย์ เทวีทิวารักษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี พร้อมด้วยนางกาญจนา แดงรุ่งโรจน์ เกษตรและสหกรณ์จังหวัดสระบุรี นางฤษญาพร สุนทรพจน์ พาณิชย์จังหวัดสระบุรี พ.อ.เพิ่มศักดิ์ ขุนโขลน รอง ผอ.กอ.รมน.สระบุรี นำส่วนราชการส่วนที่เกี่ยวข้อง พี่น้องเกษตรกรให้การต้อนรับ หลังกลุ่มเกษตรกรเคยยื่นหนังสือถึงรัฐบาลเรียกร้องขอความช่วยเหลือในเรื่องของราคาปาล์มที่ตกต่ำราคาปัจจุบันในพื้นที่ราคาอยู่ที่ 3.70-3.90 บาท/กก.
นายลักษณ์ วจนานวัช รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า การปลูกปาล์มน้ำมันในเขตทุ่งรังสิตมีจุดเริ่มต้นจากโครงการศึกษาทดสอบการปลูกปาล์มน้ำมันในพื้นที่ภาคกลางและภาคตะวันตก โดยเป็นการทดสอบการเจริญเติบโตเปรียบเทียบกับพื้นที่ปลูกทางภาคใต้ ประมาณการผลผลิตและรายได้ของเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ เพื่อเป็นพืชทางเลือกอีกชนิดหนึ่งในเขตพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งจากแปลงศึกษาทดสอบในจังหวัดปทุมธานีเพียง 100 ไร่ ในปี 2547 ปัจจุบันเกษตรกรมีการขยายพื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมันออกไปในจังหวัดสระบุรี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และจังหวัดนครนายก เป็นพื้นที่กว่า 15,000 ไร่
โดยปลูกในพื้นที่สวนส้มร้างที่ได้รับความเสียหาย แต่ยังมีระบบร่องสวนที่มีน้ำสามารถปลูกปาล์มน้ำมันได้ดี ให้ผลผลิตสูง มีแหล่งปลูกหลัก ๆ ในเขตทุ่งรังสิต ได้แก่ จังหวัดปทุมธานี ปัจจุบันมีเกษตรกรสนใจปลูกปาล์มน้ำมันกันมากขึ้นมีพื้นที่ปลูก 9,082 ไร่ (ข้อมูลทะเบียนเกษตรกร 16 พ.ค.61) โดยเกษตรกรมีการรวมตัวเป็นแปลงใหญ่ปาล์มน้ำมันในปี 2561 จำนวน 1 แปลง เกษตรกร 80 ราย พื้นที่ 2,239 ไร่ มีแผนการพัฒนาของสมาชิกกลุ่มเพื่อเสริมรายได้ในช่วงที่ผลผลิตมีราคาตกต่ำ คือ เลี้ยงปลาในร่องสวน เลี้ยงไก่ไข่ หรือไก่พื้นบ้าน เลี้ยงหมูหลุม และมีการลดต้นทุนการผลิต โดยส่งเสริมการใช้ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดิน และสำหรับจังหวัดสระบุรี เกษตรกรมีการปรับเปลี่ยนพื้นที่ไปปลูกปาล์มน้ำมัน พื้นที่ 3,075 ไร่ (ข้อมูลทะเบียนเกษตรกร 16 พ.ค. 61) เกษตรกรผู้มีการรวมตัวเป็นแปลงใหญ่ปาล์มน้ำมัน ในปี 2561 จำนวน 1 แปลง เกษตรกร 30 ราย พื้นที่ 1,773 ไร่ มีแผนการพัฒนาของสมาชิกกลุ่มเพื่อตัดปาล์มน้ำมันให้ได้คุณภาพ และส่งเสริมการใช้ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดิน
อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ผลผลิตเริ่มออกสู่ตลาดครั้งแรกในปี 2550 มีบริษัทรับซื้อปาล์มน้ำมันในจังหวัดชลบุรี มาเปิดจุดรับซื้อในพื้นที่ โดยกำหนดช่วงเวลารับซื้อ 15 วัน/ครั้ง ต่อมาเมื่อพื้นที่ปลูกมากขึ้น ผลผลิตออกสู่ตลาดมากขึ้น ผู้ประกอบการจึงมีการเปิดจุดรับซื้อผลผลิตปาล์มน้ำมันเพิ่มขึ้น โดยเกษตรกรสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตไปจำหน่ายได้ทุกวัน จุดรับซื้อในพื้นที่ ได้แก่ เสถียรปาล์ม คลอง 9 ตำบลบึงชำอ้อ อำเภอหนองเสือ จังหวัดปทุมธานี สหกรณ์ปฏิรูปที่ดิน หนองเสือ คลอง 8 ตำบลบึงชำอ้อ อำเภอหนองเสือ จังหวัดปทุมธานี สหกรณ์ปั๊มบางจาก คลอง 13 ตำหนองหมู อำเภอวิหารแดง จังหวัดสระบุรี และ ลานปราโมทย์การเกษตร ทั้งนี้ สำหรับเกษตรกรกลุ่มแปลงใหญ่ในจังหวัดปทุมธานีและจังหวัดสระบุรี ได้มีการเก็บเกี่ยวผลผลิตที่มีคุณภาพ โดยกลุ่มได้ให้ความรู้กับสมาชิกในการเก็บเกี่ยวผลผลิตตามมาตรฐานสินค้าเกษตรทะลายปาล์มน้ำมัน (มกษ.5702-2552)
รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวอีกว่า มีการหารือถึงการทำงานร่วมกันจากทุกภาคส่วน โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้นำ ซึ่งจะมีการจัดทำยุทธศาสตร์การพัฒนาปาล์มน้ำมันในพื้นที่ทุ่งรังสิต โดยต้องมีพื้นที่สวนปาล์มขนาดใหญ่ ตั้งแต่ 30,000 ไร่ขึ้นไป มีการบริหารจัดการแบบครบวงจร รวบรวมผลผลิตของพี่น้องเกษตรกรเป็นลานเทเพื่อส่งโรงงานสกัดเอทานอลไปใช้ในอุตสาหกรรมน้ำมัน ถ้าพื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมันอยู่ในพื้นที่เดียวกัน จะช่วยลดต้นทุนทางด้านการขนส่งได้ และหากโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มเป็นขององค์กรเกษตรกรเองก็จะยิ่งสามารถดำเนินการบริหารจัดการได้ มูลค่าเพิ่มจะตกอยู่ในท้องถิ่น เกษตรกรจะได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่
นอกจากนี้ จะเชื่อมโยงเอาน้ำมันปาล์มดิบที่สกัดได้เข้าสู่ระบบการผลิตน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งปัจจุบันนายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้กระทรวงพลังงานยกระดับการเอาน้ำมันปาล์มมาผลิตเป็นไบโอดีเซล ผลิตเป็น B20 ก็จะทำให้ตลาดที่มารองรับน้ำมันปาล์มดิบกว้างขวางยิ่งขึ้น.
ภาพ-ข่าว วรวิทย์ คำเสียง ผู้สื่อข่าว จ.สระบุรี
สำนักข่าวบ้านข่าว รายงาน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
โรงไฟฟ้าขนอม ร่วมสืบสานประเพณีลอยกระทง สร้างความสุขทั่วอำเภอขนอม
November 21, 2024
โรงไฟฟ้าขนอม ร่วมส่งเสริมสุขภาพชุมชน สนับสนุนอบรม อสม.ใหม่/ทดแทน
November 21, 2024
อบจ.สงขลา ร่วมรับรางวัลประกาศเกียรติคุณ “ค่าของแผ่นดิน” ประจำปี 2566 ด้านการพัฒนาสังคมและส่งเสริมคุณภาพชีวิต จากโครงการ ...
November 20, 2024
อโกด้าเผย หาดใหญ่คว้าแชมป์เมืองท่องเที่ยวที่คุ้มค่าที่สุดในไทย ช่วงเทศกาลส่งท้ายปี
November 19, 2024