กฟผ. ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน เตรียมมาตรการรองรับกรณีแหล่งพัฒนาร่วมไทย – มาเลเซีย หยุดจ่ายก๊าซธรรมชาติ 28 กรกฎาคม – 1 สิงหาคม 2561 ขอความร่วมมือคนไทยใช้ไฟฟ้าอย่างประหยัด เพื่อรักษาความมั่นคงในระบบไฟฟ้า
นายจรรยง วงศ์จันทร์พงษ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการควบคุมระบบกำลังไฟฟ้า การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า กฟผ. ได้รับการประสานจาก บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) แจ้งการหยุดจ่ายก๊าซธรรมชาติจากแหล่งพัฒนาร่วมไทย – มาเลเซีย (JDA – A18) ระหว่างวันที่ 28 กรกฎาคม – 1 สิงหาคม 2561 รวม 5 วัน เพื่อบำรุงรักษาประจำปี ซึ่งจะส่งผลให้โรงไฟฟ้าจะนะ ชุดที่ 1 และ 2 ไม่สามารถเดินเครื่องได้ กฟผ. จึงจัดประชุมเตรียมมาตรการรับมือร่วมกับ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) หน่วยงานภาครัฐ เอกชน และผู้เกี่ยวข้อง ณ ห้องประชุม 201 สำนักงานกลาง กฟผ. อ.บางกรวย จ.นนทบุรี
นายจรรยง วงศ์จันทร์พงษ์ กล่าวต่อไปว่า การหยุดจ่ายก๊าซธรรมชาติในช่วงดังกล่าว ส่งผลให้ปริมาณก๊าซฯหายไปจากระบบ 440 ล้านลูกบาศก์ฟุต ทำให้โรงไฟฟ้าจะนะชุดที่ 1 และ 2 กำลังผลิตรวม 1,345 เมกะวัตต์ ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าหลักของภาคใต้ไม่สามารถเดินเครื่องได้ กฟผ. จึงต้องปรับเปลี่ยนการใช้เชื้อเพลิงจากก๊าซธรรมชาติเป็นน้ำมันดีเซล โดยในช่วงเวลาที่หยุดจ่ายก๊าซฯ คาดการณ์ปริมาณการใช้น้ำมันดีเซลประมาณ 6.1 ล้านลิตร และน้ำมันเตา 6 ล้านลิตร นอกจากนี้ กฟผ. จะทำการตรวจสอบอุปกรณ์ของโรงไฟฟ้าและระบบส่งไฟฟ้าล่วงหน้าเพื่อให้มีความพร้อมใช้งาน รวมถึง งดบำรุงรักษาโรงไฟฟ้าและระบบส่งไฟฟ้า และหากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินจะประสานซื้อไฟฟ้าจากมาเลเซียผ่านระบบส่งกระแสตรงแรงดันสูง (High Voltage Direct Current Transmission System : HVDC) และระบบส่งกระแสสลับแรงดันสูง (High Voltage Alternating Current Transmission System : HVAC) รวมทั้งเตรียมโรงไฟฟ้ากังหันก๊าซสุราษฎร์ธานี (Emergency Standby) ให้พร้อมเดินเครื่องเอาไว้ด้วย
“กฟผ. ได้เตรียมทีมงานติดตามสถานการณ์และประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด พร้อมแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินได้ทันที โดยคาดการณ์ความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุดของภาคใต้ในช่วงหยุดจ่ายก๊าซธรรมชาติไว้ที่ 2,550 เมกะวัตต์ มีความพร้อมด้านกำลังผลิตจากโรงไฟฟ้าภาคใต้ 2,936 เมกะวัตต์ รวมการส่งไฟฟ้าเชื่อมโยงจากภาคกลาง (Tie Line) อีก 650 เมกะวัตต์ คาดว่าสถานการณ์ไฟฟ้าภาคใต้ในช่วง 5 วัน จะผ่านพ้นไปด้วยดี ประชาชนมีไฟฟ้าใช้อย่างเพียงพอ พร้อมกับต้องขอให้พี่น้องประชาชนช่วยกันใช้ไฟฟ้าอย่างประหยัด เพื่อเสริมความมั่นคงในระบบไฟฟ้าอีกทางหนึ่ง ทั้งนี้ สามารถติดตามข้อมูลได้ที่ www.sothailand.com ” นายจรรยง วงศ์จันทร์พงษ์ กล่าวในที่สุด.
ภาพ/ข่าว กฟผ.
สำนักข่าวบ้านข่าว รายงาน
December 5, 2025
December 4, 2025
December 3, 2025
ชื่อ-สกุล*
อีเมล์*
เว็ปไซต์
แสดงความคิดเห็น
Notify me of follow-up comments by email.
Notify me of new posts by email.
Δ
กฟผ. ประสานงานทุกภาคส่วน เตรียมรับมือ JDA – A18 หยุดจ่ายก๊าซฯ 28 ก.ค. – 1 ส.ค. นี้
กฟผ. ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน เตรียมมาตรการรองรับกรณีแหล่งพัฒนาร่วมไทย – มาเลเซีย หยุดจ่ายก๊าซธรรมชาติ 28 กรกฎาคม – 1 สิงหาคม 2561 ขอความร่วมมือคนไทยใช้ไฟฟ้าอย่างประหยัด เพื่อรักษาความมั่นคงในระบบไฟฟ้า
นายจรรยง วงศ์จันทร์พงษ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการควบคุมระบบกำลังไฟฟ้า การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า กฟผ. ได้รับการประสานจาก บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) แจ้งการหยุดจ่ายก๊าซธรรมชาติจากแหล่งพัฒนาร่วมไทย – มาเลเซีย (JDA – A18) ระหว่างวันที่ 28 กรกฎาคม – 1 สิงหาคม 2561 รวม 5 วัน เพื่อบำรุงรักษาประจำปี ซึ่งจะส่งผลให้โรงไฟฟ้าจะนะ ชุดที่ 1 และ 2 ไม่สามารถเดินเครื่องได้ กฟผ. จึงจัดประชุมเตรียมมาตรการรับมือร่วมกับ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) หน่วยงานภาครัฐ เอกชน และผู้เกี่ยวข้อง ณ ห้องประชุม 201 สำนักงานกลาง กฟผ. อ.บางกรวย จ.นนทบุรี
นายจรรยง วงศ์จันทร์พงษ์ กล่าวต่อไปว่า การหยุดจ่ายก๊าซธรรมชาติในช่วงดังกล่าว ส่งผลให้ปริมาณก๊าซฯหายไปจากระบบ 440 ล้านลูกบาศก์ฟุต ทำให้โรงไฟฟ้าจะนะชุดที่ 1 และ 2 กำลังผลิตรวม 1,345 เมกะวัตต์ ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าหลักของภาคใต้ไม่สามารถเดินเครื่องได้ กฟผ. จึงต้องปรับเปลี่ยนการใช้เชื้อเพลิงจากก๊าซธรรมชาติเป็นน้ำมันดีเซล โดยในช่วงเวลาที่หยุดจ่ายก๊าซฯ คาดการณ์ปริมาณการใช้น้ำมันดีเซลประมาณ 6.1 ล้านลิตร และน้ำมันเตา 6 ล้านลิตร นอกจากนี้ กฟผ. จะทำการตรวจสอบอุปกรณ์ของโรงไฟฟ้าและระบบส่งไฟฟ้าล่วงหน้าเพื่อให้มีความพร้อมใช้งาน รวมถึง งดบำรุงรักษาโรงไฟฟ้าและระบบส่งไฟฟ้า และหากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินจะประสานซื้อไฟฟ้าจากมาเลเซียผ่านระบบส่งกระแสตรงแรงดันสูง (High Voltage Direct Current Transmission System : HVDC) และระบบส่งกระแสสลับแรงดันสูง (High Voltage Alternating Current Transmission System : HVAC) รวมทั้งเตรียมโรงไฟฟ้ากังหันก๊าซสุราษฎร์ธานี (Emergency Standby) ให้พร้อมเดินเครื่องเอาไว้ด้วย
“กฟผ. ได้เตรียมทีมงานติดตามสถานการณ์และประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด พร้อมแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินได้ทันที โดยคาดการณ์ความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุดของภาคใต้ในช่วงหยุดจ่ายก๊าซธรรมชาติไว้ที่ 2,550 เมกะวัตต์ มีความพร้อมด้านกำลังผลิตจากโรงไฟฟ้าภาคใต้ 2,936 เมกะวัตต์ รวมการส่งไฟฟ้าเชื่อมโยงจากภาคกลาง (Tie Line) อีก 650 เมกะวัตต์ คาดว่าสถานการณ์ไฟฟ้าภาคใต้ในช่วง 5 วัน จะผ่านพ้นไปด้วยดี ประชาชนมีไฟฟ้าใช้อย่างเพียงพอ พร้อมกับต้องขอให้พี่น้องประชาชนช่วยกันใช้ไฟฟ้าอย่างประหยัด เพื่อเสริมความมั่นคงในระบบไฟฟ้าอีกทางหนึ่ง ทั้งนี้ สามารถติดตามข้อมูลได้ที่ www.sothailand.com ” นายจรรยง วงศ์จันทร์พงษ์ กล่าวในที่สุด.
สำนักข่าวบ้านข่าว รายงาน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
มูลนิธินายช่างไทยฯ ผนึกกำลังจิตอาสา กฟผ. ระดมกำลังเร่งฟื้นฟูระบบไฟฟ้าในพื้นที่ประสบอุทกภัย จ.สงขลา
December 5, 2025
ท่าอากาศยานหาดใหญ่ (ทหญ.) จัดการแสดงดนตรีบรรเลงเพลงพระราชนิพนธ์ เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ...
December 4, 2025
ท่าอากาศยานหาดใหญ่ส่งต่อถุงยังชีพ AOT ให้ชุมชนรอบสนามบิน
December 3, 2025
โรงเรียน นานาชาติ The American School of Bangkok ...
December 3, 2025