สืบเนื่องจากกรณีที่ชาวบ้านกลุ่มหนึ่งจากหมู่ที่ 2 และหมู่ที่ 8 ตาบลตลิ่งชัน อาเภอจะนะ จังหวัดสงขลา ประมาณ 30 คน ร่วมกันปิดถนนทางเข้า-ออกโรงแยกก๊าซธรรมชาติจะนะ เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2556 เป็นต้นมา เพื่อเรียกร้องให้ทางบริษัทฯ เข้ามาแก้ปัญหาการจัดสรรเงินกองทุนเพื่อส่งเสริมการศึกษาและสุขภาพสาหรับชุมชนรอบโรงแยกก๊าซฯ
บริษัทฯ ขอชี้แจงให้ทราบข้อเท็จจริงโดยสรุปดังนี้ ย้อนหลังไปเมื่อประมาณเดือนมีนาคม 2555 ที่ผ่านมา ผลสืบเนื่องจากชาวบ้านในพื้นที่ดังกล่าวร่วมกันปิดถนนทางเข้า-ออกโรงแยกก๊าซธรรมชาติจะนะ เพื่อยื่นข้อเรียกร้องขอเงินชดเชย โดยอ้างได้รับความเดือดร้อนจากผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมจากการดาเนินธุรกิจของโรงแยกก๊าซฯ และต่อมาทางผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา จึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการฯ ซึ่งประกอบด้วยหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ตัวแทนของคณะกรรมการไตรภาคีโรงแยกก๊าซฯ และตัวแทนของชุมชน ขึ้นมาตรวจสอบเพื่อหาข้อเท็จจริงดังกล่าว ซึ่งผลการตรวจสอบในทางวิทยาศาสตร์สรุปได้ว่า การดาเนินธุรกิจของบริษัทฯ เป็นไปตามมาตรฐานและข้อกาหนดของกฏหมายทุกประการ
อย่างไรก็ตาม ทางจังหวัดสงขลาขอให้ทางบริษัทฯ จัดตั้งเป็นกองทุนพิเศษเพื่อส่งเสริมการศึกษาและสุขภาพให้กับชุมชนรอบโรงแยกก๊าซฯ ภายในระยะรัศมี 1 กิโลเมตร ซึ่งครอบคลุมพื้นที่หมู่ที่ 2 หมู่ที่ 8 และบางส่วนของหมู่ที่ 7 เป็นจานวนเงินรวม 5 ล้านบาทต่อปี นอกเหนือจากกองทุนหมู่บ้าน (หมู่บ้านละ 1 แสนบาทต่อปี ครอบคลุมทั้ง 5 อาเภอที่แนวท่อก๊าซธรรมชาติพาดผ่าน รวมเป็นเงิน 10 ล้านบาทต่อปี) กองทุนส่งเสริมอาชีพประมงสาหรับพื้นที่อาเภอจะนะและเทพา ปีละ 1 ล้านบาท และกองทุนส่งเสริมอาชีพนกเขาชวาเสียงอาเภอจะนะปีละ 1 ล้านบาท ทั้งนี้การจัดตั้งกองทุนดังกล่าวมีเจตนารมณ์เพื่อให้ชุมชนไปจัดทาเป็นโครงการต่างๆ อันจะเป็นประโยชน์สาธารณะ เพื่ออนาคตของลูกหลานและการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืนต่อไป
ทางบริษัทฯ ได้มอบเงินกองทุนดังกล่าวผ่านทางจังหวัดสงขลา และการบริหารจัดการกองทุนก็ให้เป็นดาเนินการกันเองโดยคณะกรรมการของแต่ละหมู่บ้าน แต่ในทางปฏิบัติชาวบ้านของแต่ละหมู่บ้านได้จัดสรรเงินกองทุนดังกล่าว โดยวิธีการหารแบ่งเป็นรายครัวเรือนหรือรายหัว
สำหรับเงินกองทุนของปี 2556 ทางบริษัทฯ ได้มอบเงินจานวน 5 ล้านบาทดังกล่าว เข้าบัญชีของกองทุนผ่านทางจังหวัดสงขลาตามปกติ ตั้งแต่วันที่ 10 เมษายน 2556 เพื่อให้ทางจังหวัดสงขลาและคณะกรรมการของแต่ละหมู่บ้านไปดาเนินการตามเจตนารมณ์ของกองทุนต่อไป ซึ่งหากคงเหมือนปีที่ผ่านมา จะดาเนินการจ่ายเงินกองทุนเข้าหมู่บ้านภายในเดือนมิถุนายน
ต่อมาเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2556 มีชาวบ้านกลุ่มหนึ่งจากหมู่ที่ 2 และหมู่ที่ 8 ประมาณ 30 คน ดังที่กล่าวมาข้างต้น รวมตัวกันปิดถนนทางเข้า-ออกโรงแยกก๊าซธรรมชาติจะนะ เพื่อร้องเรียนให้บริษัทจ่ายเงินเพิ่มขึ้น โดยอ้างว่ามีจานวนครอบครัวเพิ่มมากขึ้น ประมาณ 65 ครัวเรือน ทาให้เงินที่ได้รับจากการหารแบ่งของแต่ละรายครัวเรือนลดน้อยลงจากปีที่ผ่านมา
บริษัทฯ พิจารณาแล้วเห็นว่าข้อเรียกร้องดังกล่าว ไม่สอดคล้องและไม่เป็นไปตามข้อตกลงและเจตนารมณ์ของกองทุน และหากยังคงเลือกวิธีการหารแบ่งเป็นรายครัวเรือน ก็จะเกิดปัญหาเช่นนี้ซ้าๆ ทุกๆ ปี เมื่อการหารแบ่งไม่ลงตัว ก็ใช้วิธีการปิดโรงแยกก๊าซฯ มาโดยตลอด และการกระทาดังกล่าวน่าจะเข้าข่ายการกระทาที่ผิดกฎหมาย จึงได้แจ้งไปยังทางจังหวัดสงขลาและส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน เนื่องจากได้ส่งผลกระทบต่อการผลิตและขนส่งก๊าซธรรมชาติ และหากยังคงยืดเยื้อต่อไป ทางบริษัทฯ จาเป็นจะต้องลดการผลิตลงหรือหยุดการผลิตในท้ายที่สุด เนื่องจากไม่สามารถขนถ่ายก๊าซธรรมชาติที่มีอยู่ออกไปได้ รวมถึงสถานีบริการก๊าซ NGV ของบริษัท ปตท. ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ให้บริการจากจังหวัดสงขลาถึงจังหวัดสุราษฎร์ธานีอีกด้วย.
ชื่อ-สกุล*
อีเมล์*
เว็ปไซต์
แสดงความคิดเห็น
Notify me of follow-up comments by email.
Notify me of new posts by email.
Δ
บริษัท ทรานส์ ไทย-มาเลเซีย (ประเทศไทย) จำกัด แถลงการณ์ฉบับที่ 1 กรณีชาวบ้านชุมนุมปิดถนนทางเข้า-ออกโรงแยกก๊าซธรรมชาติจะนะ
สืบเนื่องจากกรณีที่ชาวบ้านกลุ่มหนึ่งจากหมู่ที่ 2 และหมู่ที่ 8 ตาบลตลิ่งชัน อาเภอจะนะ จังหวัดสงขลา ประมาณ 30 คน ร่วมกันปิดถนนทางเข้า-ออกโรงแยกก๊าซธรรมชาติจะนะ เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2556 เป็นต้นมา เพื่อเรียกร้องให้ทางบริษัทฯ เข้ามาแก้ปัญหาการจัดสรรเงินกองทุนเพื่อส่งเสริมการศึกษาและสุขภาพสาหรับชุมชนรอบโรงแยกก๊าซฯ
บริษัทฯ ขอชี้แจงให้ทราบข้อเท็จจริงโดยสรุปดังนี้ ย้อนหลังไปเมื่อประมาณเดือนมีนาคม 2555 ที่ผ่านมา ผลสืบเนื่องจากชาวบ้านในพื้นที่ดังกล่าวร่วมกันปิดถนนทางเข้า-ออกโรงแยกก๊าซธรรมชาติจะนะ เพื่อยื่นข้อเรียกร้องขอเงินชดเชย โดยอ้างได้รับความเดือดร้อนจากผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมจากการดาเนินธุรกิจของโรงแยกก๊าซฯ และต่อมาทางผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา จึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการฯ ซึ่งประกอบด้วยหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ตัวแทนของคณะกรรมการไตรภาคีโรงแยกก๊าซฯ และตัวแทนของชุมชน ขึ้นมาตรวจสอบเพื่อหาข้อเท็จจริงดังกล่าว ซึ่งผลการตรวจสอบในทางวิทยาศาสตร์สรุปได้ว่า การดาเนินธุรกิจของบริษัทฯ เป็นไปตามมาตรฐานและข้อกาหนดของกฏหมายทุกประการ
อย่างไรก็ตาม ทางจังหวัดสงขลาขอให้ทางบริษัทฯ จัดตั้งเป็นกองทุนพิเศษเพื่อส่งเสริมการศึกษาและสุขภาพให้กับชุมชนรอบโรงแยกก๊าซฯ ภายในระยะรัศมี 1 กิโลเมตร ซึ่งครอบคลุมพื้นที่หมู่ที่ 2 หมู่ที่ 8 และบางส่วนของหมู่ที่ 7 เป็นจานวนเงินรวม 5 ล้านบาทต่อปี นอกเหนือจากกองทุนหมู่บ้าน (หมู่บ้านละ 1 แสนบาทต่อปี ครอบคลุมทั้ง 5 อาเภอที่แนวท่อก๊าซธรรมชาติพาดผ่าน รวมเป็นเงิน 10 ล้านบาทต่อปี) กองทุนส่งเสริมอาชีพประมงสาหรับพื้นที่อาเภอจะนะและเทพา ปีละ 1 ล้านบาท และกองทุนส่งเสริมอาชีพนกเขาชวาเสียงอาเภอจะนะปีละ 1 ล้านบาท ทั้งนี้การจัดตั้งกองทุนดังกล่าวมีเจตนารมณ์เพื่อให้ชุมชนไปจัดทาเป็นโครงการต่างๆ อันจะเป็นประโยชน์สาธารณะ เพื่ออนาคตของลูกหลานและการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืนต่อไป
ทางบริษัทฯ ได้มอบเงินกองทุนดังกล่าวผ่านทางจังหวัดสงขลา และการบริหารจัดการกองทุนก็ให้เป็นดาเนินการกันเองโดยคณะกรรมการของแต่ละหมู่บ้าน แต่ในทางปฏิบัติชาวบ้านของแต่ละหมู่บ้านได้จัดสรรเงินกองทุนดังกล่าว โดยวิธีการหารแบ่งเป็นรายครัวเรือนหรือรายหัว
สำหรับเงินกองทุนของปี 2556 ทางบริษัทฯ ได้มอบเงินจานวน 5 ล้านบาทดังกล่าว เข้าบัญชีของกองทุนผ่านทางจังหวัดสงขลาตามปกติ ตั้งแต่วันที่ 10 เมษายน 2556 เพื่อให้ทางจังหวัดสงขลาและคณะกรรมการของแต่ละหมู่บ้านไปดาเนินการตามเจตนารมณ์ของกองทุนต่อไป ซึ่งหากคงเหมือนปีที่ผ่านมา จะดาเนินการจ่ายเงินกองทุนเข้าหมู่บ้านภายในเดือนมิถุนายน
ต่อมาเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2556 มีชาวบ้านกลุ่มหนึ่งจากหมู่ที่ 2 และหมู่ที่ 8 ประมาณ 30 คน ดังที่กล่าวมาข้างต้น รวมตัวกันปิดถนนทางเข้า-ออกโรงแยกก๊าซธรรมชาติจะนะ เพื่อร้องเรียนให้บริษัทจ่ายเงินเพิ่มขึ้น โดยอ้างว่ามีจานวนครอบครัวเพิ่มมากขึ้น ประมาณ 65 ครัวเรือน ทาให้เงินที่ได้รับจากการหารแบ่งของแต่ละรายครัวเรือนลดน้อยลงจากปีที่ผ่านมา
บริษัทฯ พิจารณาแล้วเห็นว่าข้อเรียกร้องดังกล่าว ไม่สอดคล้องและไม่เป็นไปตามข้อตกลงและเจตนารมณ์ของกองทุน และหากยังคงเลือกวิธีการหารแบ่งเป็นรายครัวเรือน ก็จะเกิดปัญหาเช่นนี้ซ้าๆ ทุกๆ ปี เมื่อการหารแบ่งไม่ลงตัว ก็ใช้วิธีการปิดโรงแยกก๊าซฯ มาโดยตลอด และการกระทาดังกล่าวน่าจะเข้าข่ายการกระทาที่ผิดกฎหมาย จึงได้แจ้งไปยังทางจังหวัดสงขลาและส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน เนื่องจากได้ส่งผลกระทบต่อการผลิตและขนส่งก๊าซธรรมชาติ และหากยังคงยืดเยื้อต่อไป ทางบริษัทฯ จาเป็นจะต้องลดการผลิตลงหรือหยุดการผลิตในท้ายที่สุด เนื่องจากไม่สามารถขนถ่ายก๊าซธรรมชาติที่มีอยู่ออกไปได้ รวมถึงสถานีบริการก๊าซ NGV ของบริษัท ปตท. ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ให้บริการจากจังหวัดสงขลาถึงจังหวัดสุราษฎร์ธานีอีกด้วย.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
There is no related posts.