อบต.เมืองลีง อ. จอมพระ จ. สุรินทร์ เปิดงาน เทศกาลอท่องเที่ยวเมืองลีง เมซิ่งเมืองลีง โมเดลและการจัดงานแสดงแสง-เสียง “ ตำนานเชียงสง วีรบุรุษแห่งลุ่มน้ำลำชี โดยมีรองปลัดกระทรงการท่องเที่ยวและกีฬาเป็นประธานประธานเปิดงานอย่างยิ่งใหญ่

วันที่   24 ก.พ. 61  นายทวีศักดิ์ วาณิชย์เจริญ รองปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานเปิดงาน เทศกาลท่องเที่ยวเมืองลีง Amazimg Muangleemg Model “เที่ยงเมืองรอง ท่องเมืองลีง” พร้อมทั้งได้เป็นประธานในการบวงสรวงศาลปู่เชียงสง ซึ่งเป็นผู้นำเมืองลีงคนแรก ที่ทุกคนชาวเมืองลีงให้ความเคารพนับถือ โดยมีน้ำผึ้ง เมืองสุรินทร์ นำพิธีบวงสรวง และรำบวงสรวงในครั้งนี้ พร้อมกันนี้มีนาวรำที่เป็นจิตอาสามารำถวายปู่เชียงสงกว่า 500 นางรำในครั้งนี้ด้วย พร้อมทั้งร่วมชม ชิม ขนมพื้นบ้าน อาหารพื้นเมือง ที่มีการจัดกิจกรรมการประกวดแข่งขันการประกอบอาหารพื้นบ้านอีกด้วย

ทั้งนี้องค์การบริหารส่วนตำบลเมืองลีง ร่วมกับชุมชน หมู่บ้านในตำบลเมืองลีงได้จัดขึ้น ระหว่างวันที่ 20- 26 กุมภาพันธ์ 2561 ณ บริเวณศาลเจ้าพ่อเชียงสง ต.เมืองลีง อำเภอจอมพระ จังหวัดสุรินทร์ เพื่อประชาสัมพันธ์เทศกาลท่องเที่ยวเมืองลีงโมเดล”เที่ยวเมืองรอง..ท่องเมืองลีง” โดยมีกิจกรรมมากมายหลากหลาย ครอบคลุม 9 มิติ เพื่อส่งเสริมให้เมืองลีง สู่ยุค 4.0 และ มีการแสดงละครประกอบแสงสี เสียงเรื่อง ตำนานเชียงสง : วีระบุรุษลุ่มน้ำชี ตื่นตาตื่นใจกับการแสดงย้อนยุค หมอช้างชาวกวยอาเจียง แห่งเมืองลีง พร้อมทั้งมีฉากจำลองการคล้องช้างของชาวกูยในอดีต

นายประเสิรฐ์ สุขจิต นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเมืองลีง กล่าวว่าสืบเนื่องจาก ต.เมืองลีงนั้นเป็นพื้นที่ดั้งเดิมของขอมที่ถูกปล่อยทิ้งร้าง อันเป็นที่มาของชื่อ “เมืองลีง “ ซึ่งมีรากฐานมาจากภาษาเขมร ซึ่งออกเสียงว่า “ เมืองเลง “ หมายถึงเมืองที่ปล่อยหรือเมืองร้างนั่นเอง ต่อมามีชาวกวย ซึ่งอพยพมาจากเมืองอัตปือแสนแป แขวงจำปาศักดิ์ ซึ่งอดีตเคยเป็นอาณาเขตของประเทศไทย มาก่อน ชาวกวยนั้นได้ชื่อว่าเป็นกลุ่มชน ที่มีความชำนาญในการจับช้างป่า มาเลี้ยงไว้ใช้งาน ได้มาตั้งรกรากอยู่ที่บ้านเมืองลีง และต่อมาในสมัยอยุธยา ช้างเผือกคู่พระบารมีของสมเด็จพระที่นั่งสุริยามรินทร์ ได้แตกโรงจากอยุธยา และครั้งนั้นเองที่ทำให้เกิดเหตุการณที่นำไปสู่ การรวมตัวของสหายร่วมทางทางในการตามจับช้างเผือกกลับไปถวาย พระเจ้าอยู่หัว ประกอบด้วย ตากะจะ เชียงขัน เชียงฆะ เชียงปุม เชียงลี เชียงไชย และ เชียงสง

ซึ่งในพงศาวดารอีสาน ได้จารึกไว้ว่า เชียงสงนั้น หลังจากมีการจับช้างเผือกได้ และนำไปถวายพระเจ้าอยู่หัวแล้ว สหายทุกคนล้วนได้รับฐานันดรศักดิ์ทุกคน มีเพียงเชียงสงเท่านั้นที่ไม่มีฐานันดรศักดิ์ ยังคงอยู่กับชาวบ้านโดยการใช้ชีวิตอย่างสมถะ ซึ่งเนื้อหาในการแสดง แสง-เสียง อิงประวัติศาสตร์ในครั้งนี้ จะทำให้ชาวสุรินทร์ทราบถึงอีกด้านของเรื่องราวที่เป็นตำนานดังกล่าว และอีกด้านหนึ่งของเมืองลีงนั้น นับว่ามีทรัพยากรด้านการท่องเที่ยวหลายแห่ง ซึ่งล้วนแล้วแต่ทรงคุณค่าทั้งสิ้น ทั้งแหล่งท่องเที่ยวสิ่งมหัศจรรย์ของธรรมชาติ และกิจกรรมทางน้ำ เนื่องจากมีลำชีไหลผ่าน เป็นแหล่งผลิตสินค้าหัตถกรรม เป็นหมู่บ้านเลี้ยงหมู แหล่งหมูหันเลื่องชื่อ และเกจิชื่อดัง หลวงปู่ดา ตลอดจนศาลเจ้าพ่อเชียงสงอันศักดิ์สิทธิ์

วัตถุประสงค์ของการจัดงานในครั้งนี้ เพื่อเป็นการเชิดชูวีรบุรุษผู้ก่อตั้งเมืองลีง และเป็นการแนะนำแหล่งท่องเที่ยวต่างๆที่เมืองลีงมีอยู่ ให้เป็นที่รู้จักกับสาธารณชน และนักท่องเที่ยว เพื่อที่จะทำการพัฒนา ส่งส่งเสริมให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมแห่งใหม่ของจังหวัดสุรินทร์ ตามคำขวัญที่ว่า เที่ยงเมืองรอง ท่องเมืองลีง และท่านจะรู้ว่าเมืองลีงไม่เป็นรองใครด้านการท่องเที่ยว รวมถึงเพื่อความรักสามัคคีของคนในพื้นที่ และนำไปสู่รายได้ที่จะเข้าสู่ชุมชน เพื่อความมั่นคงของชุมชนอย่างยั่งยืนต่อไป.

ประนนท์ ไม้หอม /ส.ปชส.สุรินทร์/รายงาน

สำนักข่าวบ้านข่าว  รายงาน