วันที่ 12 มกราคม 2560 เวลา 10.30 นาฬิกา ณ ห้องโถง ชั้น 1 อาคารรัฐสภา 1 นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ ประธานคณะกรรมาธิการการสังคม เด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการและผู้ด้อยโอกาส สภานิติบัญญัติแห่งชาติ แถลงถึงสถานการณ์เด็กและเยาวชนในสังคมไทยในปัจจุบันว่า มี 2 ประเด็นที่รัฐบาลจะต้องตั้งหลักดูแลให้ดี คือ ปัญหายาเสพติดซึ่งพบว่าในจำนวนประชากรที่ติดยาเสพติดประมาณ 2.7 ล้านคน เป็นตัวเลขเด็กที่เข้ารับการบำบัดจำนวน 3 แสนคน อยู่ในกลุ่มช่วงอายุ 15-19 ปี โดยพบเด็กที่เป็นผู้เสพที่มีอายุน้อยที่สุดคือ 11 ขวบ และ 7 ขวบเป็นผู้ส่งยา และปัญหาวัยรุ่นตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควรซึ่งพบสถิติเป็นผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 19 ปี จำนวน 1.5 แสนคน

สำหรับในโอกาสวันเด็กแห่งชาตินี้ สิ่งที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ได้ทำเพื่อเด็กคือได้ออกกฎหมายที่เกี่ยวกับเด็กและเยาวชน 10 กว่าฉบับ อาทิ พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ พ.ศ. 2558 โดยให้บุคคลทั่วไปสามารถขอเงินกองทุนนำไปพัฒนาสื่อสร้างสรรค์เพื่อเด็กและเยาวชน พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันทางการแพทย์ พ.ศ. 2558 ซึ่งช่วยทำให้สถานการณ์การอุ้มบุญในประเทศไทยดีขึ้นมาก พ.ร.บ.วิธีปฏิบัติเกี่ยวกับการกักขังตามประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2559 ซึ่งออกมาเพื่อดูแลแม่ที่ตั้งครรภ์และถูกต้องขัง โดยให้กรมราชทัณฑ์มีหน้าที่ดูแลแม่และเมื่อคลอดแล้วต้องเปิดโอกาสให้แม่ได้อยู่กับลูกและให้นมลูก พ.ร.บ.ควบคุมการขอทาน พ.ศ. 2559 ซึ่งช่วยให้เด็กและเยาวชนสามารถขออนุญาตรับบัตรผู้มีความสามารถพิเศษ เพื่อนำไปแสดงในพื้นที่ที่กำหนดโดยไม่ถูกจับด้วยข้อหาขอทาน พ.ร.บ.ส่งเสริมการพัฒนาเด็กและเยาวชนแห่งชาติ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560 ซึ่งเปิดโอกาสให้มีการจัดตั้งสภาเด็กและเยาวชน มีเด็กที่ร่วมเป็นกรรมการเกือบ 2 แสนคน ซึ่งจะเป็นกำลังสำคัญที่จะช่วยดูแลประเทศชาติ และหวังว่านายกรัฐมนตรีจะสนับสนุนสภาเด็กและเยาวชนทุกระดับ ซึ่งจะเป็นกลไกสำคัญที่ป้องกันการติดยา ป้องกันการท้องไม่มีพ่อของเด็กได้ และจะเป็นแบบอย่างที่ของนักการเมืองได้ด้วย นอกจากนี้ ยังมีร่างพ.ร.บ.การบริหารการแก้ไขบำบัดฟื้นฟูเด็กและเยาวชนที่กระทำผิด พ.ศ. …. ซึ่งผ่านการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติแล้ว อยู่ระหว่างรอประกาศราชกิจจานุเบกษา มีสาระมุ่งเน้นการฟื้นฟูเด็กที่กระทำผิดโดยเฉพาะ ซึ่งมีจำนวน 1 ใน 3 ของเด็กที่กระทำผิดไม่มีเงินประกันตัว และให้สถานพินิจต้องมีการกลั่นกรองเด็กที่กระทำความผิด เพื่อคัดแยกไม่ให้เด็กอยู่รวมกัน และคัดแยกความสามารถของเด็ก เพื่อที่จะได้เอื้อให้เด็กมีการพัฒนาทักษะของตนเองในแต่ละด้าน และการนำเด็กออกจากสถานที่เพื่อไปขึ้นศาลหรือกระทำอื่นใด จะต้องไม่มีการพันธนาการเด็ก หากมีการพันธนาการต้องไม่ใช้กุญแจมือ และสุดท้ายก่อนจะปล่อยตัวเด็กสู่สังคมจะต้องมีการวางแผนเพื่อให้เด็กไม่กระทำผิดซ้ำ

นายวัลลภ กล่าวต่อว่า หวังว่าของขวัญที่ สนช. และรัฐบาลทำเพื่อเด็กและเยาวชนในเชิงกฎหมายนั้นจะเป็นตัวช่วยสำคัญในการป้องกันปัญหายาเสพติดและการท้องไม่มีพ่อได้.

สำนักข่าวบ้านข่าว  รายงาน