ตามนโยบายรัฐบาลในการปราบปรามอาชญากรรมและผู้มีอิทธิพล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พลตำรวจเอกเฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พลตำรวจโทชัยวัฒน์ เกตุวรชัยผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ตำรวจภูธรภาค ๑ ภายใต้การอำนวยการของ พลตำรวจโทสุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค ๑ พลตำรวจตรีสมชาย พัชรอินโต พลตำรวจตรีธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ และ พลตำรวจตรีอำนาจ จันทร์เจริญ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค ๑ ได้สั่งการให้

ตำรวจภูธรจังหวัดอ่างทอง ภายใต้อำนวยการของ พล.ต.ต.สุรินทร์ ทับพันบุบผา ผบก.ภ.จว.อ่างทอง พ.ต.อ.ชลาวุฒิ ไพรวรรณ์ พ.ต.อ.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ พ.ต.อ.บรรพต เวียงนนท์ พ.ต.อ.นิธินันท์ เต็มศิริวัฒน์ รอง ผบก.ภ.จว.อ่างทอง พ.ต.อ.ประสาทพร ศรีสุขโข ผกก.สภ.เมืองอ่างทอง พ.ต.อ.ดิเรก ยศนันท์ ผกก.กก.สส.ภ.จว.อ่างทอง พ.ต.ท.บุญเลิศ โพธิ์สุข รอง ผกก.สส.สภ.เมืองอ่างทอง พร้อมชุดสืบสวน

ตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี ภายใต้อำนวยการของ พล.ต.ต.สุศักดิ์ ปรักกมะกุล ผบก.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.อ.พงษ์พันธ์ วงษ์มณีเทศ รอง ผบก.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ โมรานนท์ ผกก.สส.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.อ.สุวัฒน์ ตันติมาสน์ ผกก.สภ.บางใหญ่ พ.ต.อ.เขมชาติ โพธิพิทักษ์ ผกก.สภ.ปากเกร็ด พ.ต.อ.อรรณพ นวมนาคะ ผกก.สภ.บางบัวทอง พร้อมตำรวจ ชุด ปจร.กก.สส.ภ.จว.นนทบุรี
กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค ๑ ภายใต้อำนวยการของ พล.ต.ต.สุภธีร์ บุญครอง ผบก.บก.สส.ภ.๑ พ.ต.อ.วสันต์ เตชะอัครเกษม รอง ผบก.สส.ภ.๑ พ.ต.อ.ภานุภาคยณ์ จิตต์ประยูรดี ผกก.สส.๑ พ.ต.อ.ไกลเขต บุรีรักษ์ ผกก.สส.๒ พ.ต.อ.ปรีดา คงจัด ผกก.สส.๓ บก.สส.ภ.๑ พ.ต.ท.สุขสันต์ เปาอินทร์ รอง ผกก.สส.๑ บก.สส.ภ.๑ พร้อมชุดสืบสวน

ตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.สมหมาย ประสิทธิ์ ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.ภัทรภัทร นุชยวง ผกก.สส.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.สุรพงค์ ธรรมพิทักษ์ ผกก.สภ.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.ท.นนทพัทธ์ ยอดแก้ว รอง ผกก.สส.ฯ พ.ต.ท.มาโนช บุญส่ง สว.สส.ฯ พ.ต.ต.สายัณห์ ฉันทานุสิทธิ์ สว.สส.ฯ พร้อมชุดสืบสวน ได้ร่วมกันทำการจับกุมคนร้ายแกงค์โจรกรรมรถยนต์ จำนวน ๓ ราย ดังนี้
รายที่ ๑ ได้ร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ จำนวน ๒ คน คือ
๑. นายศักดิ์ดา หรือดา หรือวิน เส็งรอดรัด อายุ ๔๒ ปี อยู่บ้านเลขที่ ๑๕๙ หมู่ที่ ๕ ต.ขุนซ่อง อ.แก่งหางแมว จว.จันทบุรี
๒. นายคมสันต์ หรือใหม่ ศรีม่วง อายุ ๓๐ ปี อยู่บ้านเลขที่ ๑๕๓/๕ หมู่ที่ ๒ ต.เขาพระ อ.เดิมบางนางบวช จว.สุพรรณบุรี
โดยกล่าวหาว่า ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด หรือ พาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม หรือรับของโจร
พร้อมด้วยของกลาง คือ
๑. รถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีดำ หมายเลขทะเบียน บย ๕๓๘๑ สุพรรณบุรี จำนวน ๑ คัน
๒. รถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า สีดำ หมายเลขทะเบียน ฌข ๓๙๖๐ กรุงเทพมหานคร ใช้ในการก่อเหตุ
๓. รถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ หมายเลขทะเบียน ผค ๕๔๖๘ นครปฐม
๔. อุปกรณ์ในการลักรถ ประกอบด้วย ไขควง คีม กุณแจประดิษฐ์ขึ้นเอง

พฤติการณ์การก่อเหตุ ด้วยเมื่อวันที่ ๑๙ ต.ค.๖๐ เวลาประมาณ ๑๘.๓๐ น. ได้มีคนร้ายร่วมกันก่อเหตุ ลักรถยนต์ยี่ห้ออีซูซุ หมายเลขทะเบียน บย ๕๓๘๑ สุพรรณบุรี เหตุเกิดที่บริเวณลานจอดรถห้างบิ๊กซี สาขาอ่างทอง ต.โพสะ อ.เมืองอ่างทอง จว.อ่างทอง แล้วหลบหนีไป

แนวทางการสืบสวน กล่าวคือ เมื่อวันที่ ๒๗ ต.ค.๖๐ ได้มีคนร้ายไม่ทราบเป็นผู้ใดก่อเหตุพยายามลักทรัพย์รถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ ที่บริเวณลานจอดรถห้างบิ๊กซี สาขาอ่างทอง ต.โพสะ อ.เมืองอ่างทอง จว.อ่างทอง หลังเกิดเหตุ พนักงานสอบสวนได้ร่วมกันกับเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดอ่างทอง ตรวจหาลายนิ้วแฝงของคนร้ายปรากฏว่าตรงกับลายนิ้วมือของ นายศักดิ์ดา เส็งรอดรัด และจากการสืบสวนทราบว่า นายศักดิ์ดาฯ อยู่ในเขตพื้นที่อำเภอกำแพงแสน จว.นครปฐม เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ร่วมกันตรวจสอบและพบ นายศักดิ์ดาฯ และ นายคมสันต์ ศรีม่วง อยู่ที่ เดอะ ปาล์ม รีสอร์ท เลขที่ ๙๙/๙ หมู่ที่ ๙ ต.รางพิกุล อ.กำแพงแสน จว.นครปฐม พบรถยนต์ของกลาง รถยนต์เก๋งที่ใช้ในการก่อเหตุ รถยนต์คันที่ถูกโจรกรรม พร้อมอุปกรณ์ที่ใช้ในการก่อเหตุ จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน

จากการขยายผล ผู้ต้องหาทั้งสองคน ให้การรับว่า ได้ร่วมกันก่อเหตุลักรถยนต์โดยเลือกเฉพาะรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ ที่จอดอยู่ในบริเวณห้างสรรพสินค้า และที่ชุมนุมชน ดังนี้
๑. ลักรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ พื้นที่ สภ.สีคิ้ว จว.นครราชสีมา
๒. ลักรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ พื้นที่ สน.ดอนเมือง
๓. ลักรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ พื้นที่ สภ.บ้านค่าย จว.ระยอง
๔. ลักรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ พื้นที่ สน.อ่อนนุช
๕. ลักรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ พื้นที่ สภ.พิมาย จว.นครราชสีมา
๖. ลักรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ พื้นที่ สภ.พัทยา จว.ชลบุรี
๗. ลักรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ พื้นที่ สภ.พระประแดง จว.สมุทรปราการ
๘. วันที่ ๑๒ พ.ย.๖๐ ลักรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ หน้าโรงพยาบาลปิยะเวช สภ.พระนครศรีอยุธยา
๙. วันที่ ๖ ธ.ค.๖๐ ลักรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ ลานจอดรถห้างโลตัสจังหวัดจันทบุรี
๑๐. วันที่ ๘ ธ.ค.๖๐ ลักรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ ห้างโลตัส สภ.เมืองชัยนาท
๑๑. วันที่ ๙ ธ.ค.๖๐ ที่ห้างโลตัสศรีนครินทร์ พื้นที่ สภ.เมืองสมุทรปราการ จว.สมุทรปราการ
๑๒. วันที่ ๑๐ ธ.ค.๖๐ ลักรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ ห้างโรบินสันลพบุรี พื้นที่ สภ.เมืองลพบุรี
๑๓. วันที่ ๑๕ ธ.ค.๖๐ หน้าที่ว่าการอำเภอเดิมบางนางบวช จว.สุพรรณบุรี
๑๔. วันที่ ๑๗ ธ.ค.๖๐ ลักรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ ห้างบิ๊กซีบางปะอิน พื้นที่ สภ.บางปะอิน
๑๕. วันที่ ๑๙ ธ.ค.๖๐ ลักรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ พื้นที่ สภ.บางใหญ่ ได้รถยนต์คืน
๑๖. วันที่ ๑๙ ธ.ค.๖๐ ลักรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ ห้างบิ๊กซีอ่างทอง สภ.เมืองอ่างทอง ได้รถยนต์คืน
ชั้นจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
ต่อมาจึงนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองอ่างทอง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

รายที่ ๒ ได้ร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ จำนวน ๔ คน คือ
๑.ชลัมกรณ์ วรรณชาติ อายุ ๓๖ ปี,
๒.นายสิทธิชัย หรือเข้ม เย็นสุข อายุ ๓๗ ปี
๓.นายธีรเจต หรือเก่ง ยอดประโคน และ
๔.นายเข็มชาติ หรือเอ๋ ทับทิม อายุ ๕๐ ปี
โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม หรือร่วมกันรับของโจร”
พร้อมด้วยของกลาง
๑.รถยนต์ยี่ห้อ โตโยต้า รุ่นยาริส สีขาว ทะเบียน ๖กฐ ๒๒๕๐ กรุงเทพ จำนวน ๑ คัน ยึดจากนายชลัมกรณ์
๒.รถยนต์ยี่ห้อ โตโยต้า รุ่นรีโว้ สีขาว ป้ายแดงทะเบียน บ-๒๕๘๓ กรุงเทพ จำนวน ๑ คัน ยึดจากนายสิทธิชัย
๓.รถยนต์ยี่ห้อ โตโยต้า รุ่นยาริส สีดำ ทะเบียน ๓ กข ๖๒๗๒ กรุงเทพ จำนวน ๑ คัน ยึดจากนายสิทธิชัย
๔.รถยนต์ ยี่ห้ออีซูซุ รุ่น ดีแม็ก สีขาว ทะเบียน ๑ฒถ-๙๖๐๑ กรุงเทพ จำนวน ๑ คัน ยึดจากนายธีรเจต
พฤติการณ์กล่าวคือ ด้วยเมื่อวันที่ ๓๑ ต.ค.๖๐ ได้มีผู้เสียหายแจ้งเหตุรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นยาริส สีขาว ทะเบียน ๖กฐ ๒๒๕๐ กรุงเทพฯ ถูกคนร้ายลักไป โดยจอดไว้ตั้งแต่วันที่ ๒๗-๓๐ ต.ค.๖๐ เหตุเกิดที่บริเวณหน้าตึก ซี๓ คอนโดเมืองทองธานี ม.๕ ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี(สภ.ปากเกร็ด) เมื่อทราบเหตุ ชุดปฎิบัติการ ศปจร.ภ.๑ ได้ประสานข้อมูลร่วมกับ ชุดสืบสวน กก.สส.ภ.จว.นนทบุรี ชุดสืบสวน สภ.ปากเกร็ด,สภ.บางใหญ่,สภ.บางบัวทอง ลงพื้นที่สืบสวนติดตามตัวผู้กระทำผิด ทราบว่า

เมื่อวันที่ ๒๗ พ.ย.๖๐ เวลา ๒๓.๓๐ น.สภ.ปากเกร็ด สามารถจับกุมตัว นายชลัมกรณ์ วรรณชาติ อายุ ๓๖ ปี ได้พร้อมรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นยาริส คันดังกล่าว ได้ซักถามขยายผล นายชลัมกรณ์ฯ รับว่าได้ซื้อรถยนต์มาจาก นายเข็มชาติ หรือเอ๋ ทับทิม อายุ ๕๐ ปี ติดต่อกันผ่านระบบไลน์ โดยนัดรับรถยนต์กันที่ อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ในวันที่ ๓๑ ต.ค.๖๐ จากนั้น พงส.สภ.ปากเกร็ด ดำเนินการขอหมายจับนายเข็มชาติฯ ต่อศาลจังหวัดนนทบุรี ศาลอนุมัติหมายจับที่ ๕๘๓/๖๐ ลง ๓๐ พ.ย.๖๐ ในข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์ หรือรับของโจร”

ต่อมาเมื่อวันที่ ๘ ธ.ค.๖๐ เวลา ๑๕.๐๐ น.ชุดปฏิบัติการ ศปจร.ภ.๑ ได้รับแจ้งจากชุดสืบสวน สภ.บางบัวทอง สามารถจับกุมนายสิทธิชัย หรือเข้ม เย็นสุข อายุ ๓๗ ปี ได้ที่บริเวณ ซ.ทิพวรรณ ๓๒ ต.บางเมืองใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ พร้อมตรวจยึดรถยนต์ของกลางที่แจ้งหายไว้ คือ
๑.รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นรีโว้ สีขาว ป้ายแดงทะเบียน บ-๒๕๘๓ กรุงเทพมหานคร แจ้งหายไว้ที่ สภ.บางบัวทอง เหตุเกิดบริเวณหน้าตึก ๖ คอนโดสมบัติบุรี ม.๑๓ ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบรี
๒.รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่น ยาริส สีดำ ติดแผ่นป้ายทะเบียน ๓ กข ๖๒๗๒ กรุงเทพมหานคร แจ้งหายไว้ที่ สภ.ปากคลองรังสิต ที่บริเวณลานจอดรถยนต์ตรงข้ามอาคาร ๒๕ หมู่บ้านเอื้ออาทร ต.บ้านใหม่ อ.เมือง จ.ปทุมธานี
ซึ่งรับว่าได้ร่วมกับนายชาญณรงค์ หรือใหม่ สกุลพลไพศาล อายุ ๒๗ ปี โดยจะนำรถยนต์ที่ลักได้ไปขายต่อให้กับนายเข็มชาติฯ และรับอีกว่าเคยร่วมกันก่อเหตุลักทรัพย์รถยนต์เขตพื้นที่ สภ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี เมื่อวันที่ ๑๗ ต.ค.๖๐ จึงประสานชุดสืบสวน สภ.บางใหญ่ ทราบว่า เมื่อวันที่ ๑ พ.ย.๖๐ สามารถจับกุมตัวนายธีรเจต หรือเก่ง ยอดประโคน อายุ ๒๗ ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ ๕๔๐/๒๕๖๐ ลง ๒ พ.ย.๖๐ และได้ตรวจยึดรถยนต์ ยี่ห้ออีซูซุ รุ่น ดีแม็ก สีขาว ทะเบียน ๑ ฒถ-๙๖๐๑ กรุงเทพ ที่แจ้งหายไว้ที่บริเวณริมถนนหน้าบริษัทสยามชัยเซอร์วิส ม.๑๔ ต.บางแม่นาง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ซึ่งจากการสืบสวนแล้วเชื่อว่ากลุ่มบุคคลดังกล่าวข้างต้น เป็นกลุ่มผู้ก่อเหตุลักรถยนต์ในหลายท้องที่ แล้วนำรถยนต์ไปขายให้กับนายเข็มชาติ หรือเอ๋ฯ จริง
โดยต่อมาวันที่ ๑๘ ธ.ค.๖๐ จากการประสานข้อมูลทำให้สามารถจับกุมตัวนายเข็มชาติ หรือเอ๋ ทับทิม อายุ ๕๐ ปี ตามหมายจับข้างต้น ได้ที่บริเวณหน้าบ้านเลขที่ ๑๙ ม.๗ ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี โดยให้การรับสารภาพว่ารับซื้อรถยนต์มาจากนายสิทธิชัยฯ อีกจำนวนหลายคัน

โดยหลังเกิดเหตุแต่ละคดีได้ทำการตรวจสอบขยายผลโดย ชุดปฎิบัติการ ศปจร.ภ.๑ ได้ประสานข้อมูลร่วมกับ ชุดสืบสวน กก.สส.ภ.จว.นนทบุรี ชุดสืบสวน สภ.ปากเกร็ด,สภ.บางใหญ่,สภ.บางบัวทอง ได้ร่วมกันทำการตรวจยึดรถยนต์อีกจำนวน ๔ รายการดังนี้
๑.รถยนต์ยี่ห้อ โตโยต้า รุ่นยาริส สีขาว ทะเบียน ๖กฐ ๒๒๕๐ กรุงเทพ จำนวน ๑ คัน ยึดจากนายชลัมกรณ์
แจ้งหายไว้ที่ สภ.ปากเกร็ด
๒.รถยนต์ยี่ห้อ โตโยต้า รุ่นรีโว้ สีขาว ป้ายแดงทะเบียน บ-๒๕๘๓ กรุงเทพ จำนวน ๑ คัน ยึดจากนายสิทธิชัย แจ้งหายไว้ที่ สภ.บางบัวทอง
๓.รถยนต์ยี่ห้อ โตโยต้า รุ่นยาริส สีดำ ทะเบียน ๓ กข ๖๒๗๒ กรุงเทพ จำนวน ๑ คัน ยึดจากนายสิทธิชัย
แจ้งหายไว้ที่ สภ.ปากคลองรังสิต
๔.รถยนต์ ยี่ห้ออีซูซุ รุ่น ดีแม็ก สีขาว ทะเบียน ๑ฒถ-๙๖๐๑ กรุงเทพ จำนวน ๑ คัน ยึดจากนายธีรเจต
แจ้งหายไว้ที่ สภ.บางใหญ่

รายที่ ๓ ได้ร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ จำนวน ๑ คน คือ
๑. นายประภพ หรือพี แดงแตง อายุ ๔๒ ปี อยู่บ้านเลขที่ ๑๑๔ ม.๘ ต.บ้านโข้ง อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี
โดยกล่าวหาว่า รับของโจร ตามหมายจับศาลจังหวัดนครปฐม ที่ จ.๖๑๕/๒๕๖๐ ลง ๘ ธ.ค.๒๕๖๐
พฤติการณ์กล่าวคือ ตามที่ได้มีคนร้ายซึ่งเชื่อว่าเป็นกลุ่มแกงค์เดียวกัน ได้ก่อเหตุลักรถยนต์ ในเขตพื้นที่ ภ.๑ และ ภ.๗ จำนวนหลายครั้ง ได้แก่
๑. เมื่อวันที่ ๑ พ.ย. ๖๐ รถยนต์กระบะอีซูซุทะเบียน ถก-๙๒๗๖ กทม. ของนายสมจีน ทองสุขนอก เหตุเกิดที่บริเวณลานจอดรถตลาดบ้านฟ้าเลอมาเช่ ม.๕ ต.บึงคำพร้อย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี
๒. เมื่อวันที่ ๒๓ พ.ย.๖๐ เวลา ๑๗.๐๐ น. รถกระบะอีซูซุ ดีแมกซ์ ทะเบียน ผจ ๓๗๔๒ นครปฐม ของนายธวัขขัย โปตาเวทย์ เหตุเกิดลานจอดรถห้างเซ็นทรัล ศาลายา ต.บางเตย อ.สามพราน จ.นครปฐม
๓. เมื่อวันตาม.

สำนักข่าวบ้านข่าว  รายงาน