วันที่ 6 พฤศจิกายน 2560 เวลา 11.45 นาฬิกา ณ ห้องโถง ชั้น 1 อาคารรัฐสภา 2 ศาสตราจารย์พิเศษพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ รับหนังสือจาก นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย และคณะ ขอให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติเร่งรัดดำเนินการเพื่อให้การปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ซึ่งเป็น 1 ในการปฏิรูปประเทศในด้านต่าง ๆ 11 ด้านของรัฐบาลปรากฏผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว โดยเฉพาะการปฏิรูปศาลและวิธีพิจารณาคดีของศาลยุติธรรมซึ่งพบว่ามีการวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมากถึงปัญหาและผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการใช้อำนาจของศาลหรือผู้พิพากษา ไม่ว่าจะเป็นการใช้ดุลยพินิจอย่างอิสระและกว้างขวางโดยไม่กรอบจำกัด การใช้อำนาจแก้ไขเปลี่ยนแปลงคำพิพากษาทั้งๆ ที่อ่านคำพิพากษาต่อหน้าคู่กรณีแล้ว การจัดทำคำพิพากษาที่ล่าช้าเกินสมควร เป็นต้น โดยคณะฯ ได้มีข้อเสนอ 4 ประการ ดังนี้ 1. สร้างความโปร่งใสในการดำเนินงานของศาลยุติธรรมและคำพิพากษาที่ให้ประชาชนเข้าใจได้ง่าย 2. สร้างระบบการรับเข้าทำงานอย่างโปร่งใสและระบบการให้ออกจากงานของผู้พิพากษาและตุลาการอย่างเด็ดขาด 3. สร้างระบบยุติธรรมที่มีความเป็นมืออาชีพและเป็นกลาง 4. สร้างกลไกการมีส่วนร่วมของประชาชนในการตรวจสอบระบบการพิจารณาคดี ทั้งนี้ ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ กล่าวว่า ฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหารไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงการทำงานของศาลได้ เนื่องจากรัฐธรรมนูญรับประกันความเป็นอิสระในการทำงานของศาลในการพิจารณาคดี อย่างไรก็ตาม หากพบว่าผู้พิพากษาประพฤติมิชอบก็มีกระบวนการดำเนินการพิจารณาลงโทษอยู่แล้ว สำหรับคดีความต่างๆ หากพบปัญหาไม่ได้รับความยุติธรรมก็ไปยื่นเรื่องต่อองค์กรที่ดูแลอยู่ เช่น สภาทนายความได้.
สำนักข่าวบ้านข่าว รายงาน
December 5, 2025
December 4, 2025
December 3, 2025
ชื่อ-สกุล*
อีเมล์*
เว็ปไซต์
แสดงความคิดเห็น
Notify me of follow-up comments by email.
Notify me of new posts by email.
Δ
สนช. รับหนังสือจากเลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย และคณะ ขอให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติเร่งรัดดำเนินการเพื่อให้การปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม
วันที่ 6 พฤศจิกายน 2560 เวลา 11.45 นาฬิกา ณ ห้องโถง ชั้น 1 อาคารรัฐสภา 2 ศาสตราจารย์พิเศษพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ รับหนังสือจาก นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย และคณะ ขอให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติเร่งรัดดำเนินการเพื่อให้การปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ซึ่งเป็น 1 ในการปฏิรูปประเทศในด้านต่าง ๆ 11 ด้านของรัฐบาลปรากฏผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว โดยเฉพาะการปฏิรูปศาลและวิธีพิจารณาคดีของศาลยุติธรรมซึ่งพบว่ามีการวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมากถึงปัญหาและผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการใช้อำนาจของศาลหรือผู้พิพากษา ไม่ว่าจะเป็นการใช้ดุลยพินิจอย่างอิสระและกว้างขวางโดยไม่กรอบจำกัด การใช้อำนาจแก้ไขเปลี่ยนแปลงคำพิพากษาทั้งๆ ที่อ่านคำพิพากษาต่อหน้าคู่กรณีแล้ว การจัดทำคำพิพากษาที่ล่าช้าเกินสมควร เป็นต้น โดยคณะฯ ได้มีข้อเสนอ 4 ประการ ดังนี้
1. สร้างความโปร่งใสในการดำเนินงานของศาลยุติธรรมและคำพิพากษาที่ให้ประชาชนเข้าใจได้ง่าย
2. สร้างระบบการรับเข้าทำงานอย่างโปร่งใสและระบบการให้ออกจากงานของผู้พิพากษาและตุลาการอย่างเด็ดขาด
3. สร้างระบบยุติธรรมที่มีความเป็นมืออาชีพและเป็นกลาง
4. สร้างกลไกการมีส่วนร่วมของประชาชนในการตรวจสอบระบบการพิจารณาคดี
ทั้งนี้ ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ กล่าวว่า ฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหารไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงการทำงานของศาลได้ เนื่องจากรัฐธรรมนูญรับประกันความเป็นอิสระในการทำงานของศาลในการพิจารณาคดี อย่างไรก็ตาม หากพบว่าผู้พิพากษาประพฤติมิชอบก็มีกระบวนการดำเนินการพิจารณาลงโทษอยู่แล้ว สำหรับคดีความต่างๆ หากพบปัญหาไม่ได้รับความยุติธรรมก็ไปยื่นเรื่องต่อองค์กรที่ดูแลอยู่ เช่น สภาทนายความได้.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
มูลนิธินายช่างไทยฯ ผนึกกำลังจิตอาสา กฟผ. ระดมกำลังเร่งฟื้นฟูระบบไฟฟ้าในพื้นที่ประสบอุทกภัย จ.สงขลา
December 5, 2025
ท่าอากาศยานหาดใหญ่ (ทหญ.) จัดการแสดงดนตรีบรรเลงเพลงพระราชนิพนธ์ เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ...
December 4, 2025
ท่าอากาศยานหาดใหญ่ส่งต่อถุงยังชีพ AOT ให้ชุมชนรอบสนามบิน
December 3, 2025
โรงเรียน นานาชาติ The American School of Bangkok ...
December 3, 2025