เมื่อเวลา13.30น.ของวันที่ 22 กันยายน 2560 ที่ลานสาครบุรี ศาลากลางจังหวัดสมุทรสาคร นายประภัสสร์ มาลากาญจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เป็นประธานแถลงข่าว การเปิดศูนย์การเรียนรู้ทางวัฒนธรรมจังหวัดสมุทรสาคร โดยมีนายอนุรักษ์ มงคลญานวรัตน์ วัฒนธรรมจังหวัดสมุทรสาคร นายชัยพร ศิริพงษ์เวคิน รองประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดสมุทรสาคร และตัวแทนชุมชนกลุ่มชาติพัฒธุ์ รวมทั้งสื่อมวลชนเข้าร่วม

โดยทางด้านนายประภัสสร์ มาลากาญจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวว่าสำหรับศูนย์การเรียนรู้ทางวัฒนธรรมจังหวัดสมุทรสาครเป็นแหล่งอนุรักษ์ รักษาวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณีดั้งเดิมของชาวจังหวัดสมุทรสาคร และเพื่อเป็นแหล่งสืบค้นข้อมูลสำหรับคนรุ่นหลังให้ได้ศึกษา โดยศูนย์การเรียนรู้ทางวัฒนธรรมจังหวัดสมุทรสาคร จะเป็นศูนย์กลางที่สามารถเชื่อมโยงมิติทางวัฒนธรรมเข้ามาบูรณาการร่วมกับมิติตัวตน สังคม เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม ทำให้คนในสังคมมีการเรียนรู้เรื่องวัฒนธรรม ท้องถิ่นของตน ทำให้คนเป็นคนดี มีความสุข ครอบครัว ชุมชนมีความสุข ดังนั้นศูนย์การเรียนรู้ทางวัฒนธรรมจังหวัดสมุทรสาครแห่งนี้นับว่าเป็นแหล่งเรียนรู้ที่สำคัญและน่าสนใจอย่างยิ่ง และสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงวัฒนธรรม ด้านการอนุรักษ์ ฟื้นฟูการเผยแพร่มรดกทางวัฒนธรรมได้เป็นอย่างดี

ส่วนทางด้านนายอนุรักษ์ มงคลญานวรัตน์ วัฒนธรรมจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวว่าสำหรับศูนย์การเรียนรู้ทางวัฒนธรรมจังหวัดสมุทรสาคร ถูกจัดให้เป็นอาคารจัดแสดงนิทรรศการที่เปิดให้ประชาชนชาวจังหวัดสมุทรสาครและนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาศึกษาเรียนรู้เรื่องราวทางวัฒนธรรมประเพณีของจังหวัดสมุทรสาคร เป็นต้นแบบของการรักษาเอกลักษณ์ รากเหง้าดั้งเดิมของท้องถิ่น รวมถึงภูมิปัญญาท้องถิ่นอย่างหลากหลาย ซึ่งในจังหวัดสมุทรสาครมีแหล่งศึกษาค้นคว้าเรื่องราวในวิถีชีวิตชาติพันธุ์ 4 กลุ่ม 7 ชุมชน ของจังหวัดสมุทรสาคร ประกอบด้วย ไทย-จีน ไทย-รามัญ ( บ้านไร่เจริญผล ,บ้านเกาะ, เจ็ดริ้ว ,ท่าทราย, บางกระเจ้า ) ไทยทรงดำ (พื้นที่หนองสองห้อง) รวมถึงกลุ่มไทยพื้นถิ่นอีกด้วย ดังนั้นจึงขอเชิญชวนประชนผู้สนใจเข้าร่วมงาน เปิดศูนย์การเรียนรู้ทางวัฒนธรรมจังหวัดสมุทรสาคร ในระหว่างวันที่ 25-26 กันยายน 2560 เวลา16.00น.- 20.00 น. ณ ลานวัฒนธรรม บริเวณศูนย์การเรียนรู้ทางวัฒนธรรมจังหวัดสมุทรสาคร (ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสมุทรสาคร ต.มหาชัย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร โดยภายในงานมีการสาธิตภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมและสินค้าทางวัฒนธรรมรวมทั้งชมวิถีชีวิตความเป็นอยู่อาหารการกินจาก4ชาติพันธุ์ 7ชุมชนอีกด้วย.

สำนักข่าวบ้านข่าว  รายงาน