วันที่ 6 ก.ย.60 เวลา 11.00 น. พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร.(ปป1) พร้อมด้วย พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา ที่ปรึกษา (ปป11) พล.ต.ท.รุ่งฤทธิ์ ซุ่นทรัพย์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.(ปป33) และเจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยปฏิบัติการทุกหน่วยในสังกัด เข้าร่วมประชุม VDO Conference มาตรการระดมกวาดล้างอาชญากรรมก่อนพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ รัชกาลที่ 9 ณ ห้องประชุม ศปก.ตร. ชั้น 20 อาคาร 1 ตร.
ด้วยระหว่างวันที่ 25-29 ตุลาคม 2560 เป็นห้วงพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จะมีประชาชนเดินทางมาร่วมพระราชพิธีฯ ทั้งในส่วนกลาง และส่วนภูมิภาคเป็นจำนวนมาก อาจมีกลุ่มบุคคลผู้ไม่หวังดี เข้ามาฉกฉวยโอกาส สร้างสถานการณ์ก่อเหตุร้าย หรือความไม่สงบในพื้นที่ต่างๆ ขึ้นได้ ท่าน ผบ.ตร. ได้สั่งการให้มีการระดมกวาดล้างอาชญากรรม ตั้งแต่บัดนี้ ไปจนถึงช่วงก่อนพระราชพิธีฯ เพื่อให้ภาพรวมการจัดงานเป็นไปด้วยความเรียบร้อย สมพระเกียรติ รวมทั้งสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สิน การรักษาความสงบเรียบร้อยให้กับประชาชน ซึ่ง ตร. ได้มีวิทยุสั่งการให้ทุกหน่วย ดำเนินการระดมกวาดล้างอาชญากรรมก่อนพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ ในห้วงเดือน กันยายน-ตุลาคม 2560 กำหนดเป็น 3 ช่วง ใน 3 กลุ่มเป้าหมายสำคัญ ได้แก่ อาวุธปืน ยาเสพติด และหมายจับค้างเก่า โดยจะมีการประเมินผล กำหนดเป้าหมายการจับกุมต้องไม่น้อยกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ เมื่อเปรียบเทียบกับห้วงเดียวกันของปี 59 ที่ผ่านมา มีรายละเอียดข้อสั่งการโดยสรุป ดังนี้ 1. ให้ บช.น. ภ.1-9 และ ก. ดำเนินการระดมกวาดล้างอาชญากรรม ก่อนพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ใน 3 กลุ่มเป้าหมายสำคัญ ได้แก่ อาวุธปืน ยาเสพติด และหมายจับค้างเก่า กำหนดการระดม แบ่งเป็น 3 ช่วง คือ ช่วงที่ 1 วันที่ 6 – 15 ก.ย.60 ช่วงที่ 2 วันที่ 21 – 30 ก.ย.60 ช่วงที่ 3 วันที่ 6 – 15 ต.ค.60 โดยบูรณาการกำลังจากทุกภาคส่วน ให้ทุก บก.น., ภ.จว., สน./สภ. มีการปล่อยแถวระดมกวาดล้าง ปิดล้อมตรวจค้น หรือกิจกรรมอื่นๆ ตามแผน/ข้อสั่งการของ ตร. และแจ้งผู้บังคับบัญชาระดับ ตร. ที่รับผิดชอบพื้นที่ทราบ เพื่อร่วมดำเนินการ แล้วรายงานผลให้ ตร.ทราบ การประเมินผลการปฏิบัติ จะพิจารณาผลการจับกุม คดีกลุ่ม 4
โดยเฉพาะเป้าหมายอาวุธปืน ยาเสพติด และหมายจับค้างเก่า ในภาพรวม 2 ห้วง คือ ตั้งแต่ 1-30 ก.ย.60 และ 1-15 ต.ค.60 ทุกหน่วยต้องมีการผลจับกุมตามเป้าหมายที่ตั้ง เมื่อเปรียบเทียบกับห้วงเดียวกันของปี 2559 โดยให้ รอง ผบช./ ผบก./ รอง ผบก. ที่รับผิดชอบ ลงไปควบคุม กำกับ ให้มีการปฏิบัติอย่างเข้มข้น จริงจัง บังเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม 2. การจับกุมตามหมายจับค้างเก่า เนื่องจากแต่ละหน่วยกำหนดเป้าหมายการจับกุมไว้แตกต่างกัน เพื่อให้เป็นบรรทัดฐานเดียวกัน จึงให้ทุกหน่วยกำหนดเป้าหมายไว้อย่างต่ำ ที่ร้อยละ 3 ต่อเดือน ของหมายจับค้างเก่าทั้งหมด และเร่งรัดดำเนินการให้เป็นไปตามเป้าหมาย 3. การสอบสวนคดีสำคัญ เนื่องจากขณะนี้รัฐบาลได้มีคำสั่งแต่งตั้ง คณะกรรมการบริหารติดตามคดีสำคัญ ที่ยังดำเนินการไม่แล้วเสร็จ ไว้แล้ว ขอให้ทุกหน่วยที่มีคดีสำคัญในความรับผิดชอบ เร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว หากพบว่าล่าช้าโดยไม่มีเหตุอันควร จะพิจารณาข้อบกพร่องหน่วยที่ยังไม่รายงานผลการตรวจสอบฯ 4. กำชับเรื่องการแจ้งความของพนักงานสอบสวน ขอให้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ตามระเบียบ กฎหมาย อย่างเคร่งครัด เนื่องจากปัจจุบันการสื่อสารทางโซเชียลมีเดีย มีผลต่อการปฏิบัติงานของตำรวจมาก หากปฏิบัติโดยมิชอบ หรือไม่ถูกต้อง จะเกิดความเสียหายต่อหน่วย และภาพรลักษณ์ขององค์กร 5. กำชับการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่สายตรวจ เน้นการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในการปฏิบัติงาน โดยเฉพาะการบันทึกภาพขณะปฏิบัติงาน การใช้ข้อมูลจากกล้อง CCTV มาใช้ในการบริหารการป้องกันเหตุในพื้นที่ รวมทั้งใช้เป็นเครื่องมือในการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ.
สำนักข่าวบ้านข่าว รายงาน
December 5, 2025
December 4, 2025
December 3, 2025
ชื่อ-สกุล*
อีเมล์*
เว็ปไซต์
แสดงความคิดเห็น
Notify me of follow-up comments by email.
Notify me of new posts by email.
Δ
รอง ผบ.ตร.(ปป1) และเจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยปฏิบัติการทุกหน่วยในสังกัด เข้าร่วมประชุม VDO Conference มาตรการระดมกวาดล้างอาชญากรรมก่อนพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ รัชกาลที่ 9
วันที่ 6 ก.ย.60 เวลา 11.00 น. พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร.(ปป1) พร้อมด้วย พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา ที่ปรึกษา (ปป11) พล.ต.ท.รุ่งฤทธิ์ ซุ่นทรัพย์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.(ปป33) และเจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยปฏิบัติการทุกหน่วยในสังกัด เข้าร่วมประชุม VDO Conference มาตรการระดมกวาดล้างอาชญากรรมก่อนพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ รัชกาลที่ 9 ณ ห้องประชุม ศปก.ตร. ชั้น 20 อาคาร 1 ตร.
ด้วยระหว่างวันที่ 25-29 ตุลาคม 2560 เป็นห้วงพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จะมีประชาชนเดินทางมาร่วมพระราชพิธีฯ ทั้งในส่วนกลาง และส่วนภูมิภาคเป็นจำนวนมาก อาจมีกลุ่มบุคคลผู้ไม่หวังดี เข้ามาฉกฉวยโอกาส สร้างสถานการณ์ก่อเหตุร้าย หรือความไม่สงบในพื้นที่ต่างๆ ขึ้นได้ ท่าน ผบ.ตร. ได้สั่งการให้มีการระดมกวาดล้างอาชญากรรม ตั้งแต่บัดนี้ ไปจนถึงช่วงก่อนพระราชพิธีฯ เพื่อให้ภาพรวมการจัดงานเป็นไปด้วยความเรียบร้อย สมพระเกียรติ รวมทั้งสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สิน การรักษาความสงบเรียบร้อยให้กับประชาชน ซึ่ง ตร. ได้มีวิทยุสั่งการให้ทุกหน่วย ดำเนินการระดมกวาดล้างอาชญากรรมก่อนพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ ในห้วงเดือน กันยายน-ตุลาคม 2560 กำหนดเป็น 3 ช่วง ใน 3 กลุ่มเป้าหมายสำคัญ ได้แก่ อาวุธปืน ยาเสพติด และหมายจับค้างเก่า โดยจะมีการประเมินผล กำหนดเป้าหมายการจับกุมต้องไม่น้อยกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ เมื่อเปรียบเทียบกับห้วงเดียวกันของปี 59 ที่ผ่านมา มีรายละเอียดข้อสั่งการโดยสรุป ดังนี้
1. ให้ บช.น. ภ.1-9 และ ก. ดำเนินการระดมกวาดล้างอาชญากรรม ก่อนพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ใน 3 กลุ่มเป้าหมายสำคัญ ได้แก่ อาวุธปืน ยาเสพติด และหมายจับค้างเก่า กำหนดการระดม แบ่งเป็น 3 ช่วง คือ ช่วงที่ 1 วันที่ 6 – 15 ก.ย.60 ช่วงที่ 2 วันที่ 21 – 30 ก.ย.60 ช่วงที่ 3 วันที่ 6 – 15 ต.ค.60 โดยบูรณาการกำลังจากทุกภาคส่วน ให้ทุก บก.น., ภ.จว., สน./สภ. มีการปล่อยแถวระดมกวาดล้าง ปิดล้อมตรวจค้น หรือกิจกรรมอื่นๆ ตามแผน/ข้อสั่งการของ ตร. และแจ้งผู้บังคับบัญชาระดับ ตร. ที่รับผิดชอบพื้นที่ทราบ เพื่อร่วมดำเนินการ แล้วรายงานผลให้ ตร.ทราบ การประเมินผลการปฏิบัติ จะพิจารณาผลการจับกุม คดีกลุ่ม 4
โดยเฉพาะเป้าหมายอาวุธปืน ยาเสพติด และหมายจับค้างเก่า ในภาพรวม 2 ห้วง คือ ตั้งแต่ 1-30 ก.ย.60 และ 1-15 ต.ค.60 ทุกหน่วยต้องมีการผลจับกุมตามเป้าหมายที่ตั้ง เมื่อเปรียบเทียบกับห้วงเดียวกันของปี 2559 โดยให้ รอง ผบช./ ผบก./ รอง ผบก. ที่รับผิดชอบ ลงไปควบคุม กำกับ ให้มีการปฏิบัติอย่างเข้มข้น จริงจัง บังเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม
2. การจับกุมตามหมายจับค้างเก่า เนื่องจากแต่ละหน่วยกำหนดเป้าหมายการจับกุมไว้แตกต่างกัน เพื่อให้เป็นบรรทัดฐานเดียวกัน จึงให้ทุกหน่วยกำหนดเป้าหมายไว้อย่างต่ำ ที่ร้อยละ 3 ต่อเดือน ของหมายจับค้างเก่าทั้งหมด และเร่งรัดดำเนินการให้เป็นไปตามเป้าหมาย
3. การสอบสวนคดีสำคัญ เนื่องจากขณะนี้รัฐบาลได้มีคำสั่งแต่งตั้ง คณะกรรมการบริหารติดตามคดีสำคัญ ที่ยังดำเนินการไม่แล้วเสร็จ ไว้แล้ว ขอให้ทุกหน่วยที่มีคดีสำคัญในความรับผิดชอบ เร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว หากพบว่าล่าช้าโดยไม่มีเหตุอันควร จะพิจารณาข้อบกพร่องหน่วยที่ยังไม่รายงานผลการตรวจสอบฯ
4. กำชับเรื่องการแจ้งความของพนักงานสอบสวน ขอให้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ตามระเบียบ กฎหมาย อย่างเคร่งครัด เนื่องจากปัจจุบันการสื่อสารทางโซเชียลมีเดีย มีผลต่อการปฏิบัติงานของตำรวจมาก หากปฏิบัติโดยมิชอบ หรือไม่ถูกต้อง จะเกิดความเสียหายต่อหน่วย และภาพรลักษณ์ขององค์กร
5. กำชับการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่สายตรวจ เน้นการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในการปฏิบัติงาน โดยเฉพาะการบันทึกภาพขณะปฏิบัติงาน การใช้ข้อมูลจากกล้อง CCTV มาใช้ในการบริหารการป้องกันเหตุในพื้นที่ รวมทั้งใช้เป็นเครื่องมือในการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
มูลนิธินายช่างไทยฯ ผนึกกำลังจิตอาสา กฟผ. ระดมกำลังเร่งฟื้นฟูระบบไฟฟ้าในพื้นที่ประสบอุทกภัย จ.สงขลา
December 5, 2025
ท่าอากาศยานหาดใหญ่ (ทหญ.) จัดการแสดงดนตรีบรรเลงเพลงพระราชนิพนธ์ เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ...
December 4, 2025
ท่าอากาศยานหาดใหญ่ส่งต่อถุงยังชีพ AOT ให้ชุมชนรอบสนามบิน
December 3, 2025
โรงเรียน นานาชาติ The American School of Bangkok ...
December 3, 2025