วันที่ 3 กันยายน 2560 ที่โรงเรียนชะอวดเคร่งธรรมวิทยา อำเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช พลเรือเอกวีระพันธ์ สุขก้อน กรรมาธิการ และประธานคณะกรรมาธิการการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทางทะเลชายฝั่ง พร้อมด้วยพลเรือเอก พลเดช เจริญพูล กรรมาธิการ และรองประธานคณะอนุกรรมาธิการการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมทางทะเลและชายฝั่ง คนที่สอง และคณะ ลงพื้นที่ดูงานติดตามการมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาวิกฤติทะเลสาบสงขลา จากภาคประชาชนในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อติดตามการมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาวิกฤตทะเลสาบสงขลาจากภาคประชาชนในบริเวณลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลาสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน โดยมีผู้บริหารองค์การบริหารส่วนตำบลเคร็ง ผู้แทนจากภาคประชาชน มาร่วมแสดงความคิดเห็น
พลเรือเอกวีระพันธ์ สุขก้อน กรรมาธิการ และประธานคณะกรรมาธิการการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทางทะเลชายฝั่ง กล่าวว่า การลงพื้นที่ของคณะกรรมาธิการการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภานิติบัญญัติแห่งชาติ เพื่อต้องการรับฟังปัญหาจากภาคประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่จริง ของลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา ประกอบด้วยจังหวัดสงขลา พัทลุง และนครศรีธรรมราช ทั้งในเรื่องที่ดิน เรื่องการดำรงชีวิตประจำวัน เพื่อนำไปหาแนวทางในการแก้ไขต่อไป และขอความร่วมมือจากประชาชนร่วมกันหวงแหน อนุรักษ์ และใช้ทรัพยากรอย่างมีคุณค่า
ผู้แทนภาคประชาชนในพื้นที่ตำบลเคร็ง อำเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ร่วมแสดงความคิดเห็นผลกระทบวิกฤตทะเลสาบสงขลา โดยปัญหาที่ประชาชนในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อน คือ ปัญหาที่ดินทำกินของประชาชนในพื้นที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ ปัญหาระบบการบริหารจัดการน้ำ ในการเปลี่ยนเส้นทางเดินน้ำทำให้เกิดน้ำท่วมขังในพื้นที่ตำบลเคร็งตลอดทั้งปี สำหรับป่าพรุควนเคร็ง ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่จะรัก และหวงแหนต่อทรัพยากรที่มีอยู่ เพราะเปรียบเสมือนตลาดของคนในพื้นที่ แต่จะมีบุคคลภายในมาเผาทำลายทรัพยากรที่มีอยู่ให้ทรุดโทรมลง และทำให้การดำรงชีพของประชาชนในพื้นที่ได้รับผลกระทบ
สำหรับทะเลสาบสงขลา เป็นทะเลสาบแห่งเดียวในประเทศไทยที่อยู่ติดกันถึง 3 จังหวัด มีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 1,000 ตารางกิโลเมตร ได้แก่ จังหวัดพัทลุง ในเขตอำเภอเมืองพัทลุง อำเภอปากพะยูน อำเภอบางแก้ว อำเภอเขาชัยสนและอำเภอควนขนุน, จังหวัดสงขลา ในเขตอำเภอระโนด อำเภอสทิงพระ อำเภอกระแสสินธุ์ อำเภอสิงหนคร อำเภอเมืองสงขลา อำเภอควนเนียง อำเภอหาดใหญ่ และอำเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช.
พรรณี กลสามัญ/ภาพ-ข่าว วีระยุทธ/ภาพ สำนักข่าวบ้านข่าว รายงาน
November 21, 2024
November 20, 2024
November 19, 2024
ชื่อ-สกุล*
อีเมล์*
เว็ปไซต์
แสดงความคิดเห็น
Notify me of follow-up comments by email.
Notify me of new posts by email.
Δ
คณะกรรมาธิการการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ลงพื้นที่ดูงานติดตามการมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาวิกฤติทะเลสาบสงขลา จากภาคประชาชนในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช
วันที่ 3 กันยายน 2560 ที่โรงเรียนชะอวดเคร่งธรรมวิทยา อำเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช พลเรือเอกวีระพันธ์ สุขก้อน กรรมาธิการ และประธานคณะกรรมาธิการการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทางทะเลชายฝั่ง พร้อมด้วยพลเรือเอก พลเดช เจริญพูล กรรมาธิการ และรองประธานคณะอนุกรรมาธิการการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมทางทะเลและชายฝั่ง คนที่สอง และคณะ ลงพื้นที่ดูงานติดตามการมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาวิกฤติทะเลสาบสงขลา จากภาคประชาชนในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อติดตามการมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาวิกฤตทะเลสาบสงขลาจากภาคประชาชนในบริเวณลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลาสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน โดยมีผู้บริหารองค์การบริหารส่วนตำบลเคร็ง ผู้แทนจากภาคประชาชน มาร่วมแสดงความคิดเห็น
พลเรือเอกวีระพันธ์ สุขก้อน กรรมาธิการ และประธานคณะกรรมาธิการการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทางทะเลชายฝั่ง กล่าวว่า การลงพื้นที่ของคณะกรรมาธิการการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภานิติบัญญัติแห่งชาติ เพื่อต้องการรับฟังปัญหาจากภาคประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่จริง ของลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา ประกอบด้วยจังหวัดสงขลา พัทลุง และนครศรีธรรมราช ทั้งในเรื่องที่ดิน เรื่องการดำรงชีวิตประจำวัน เพื่อนำไปหาแนวทางในการแก้ไขต่อไป และขอความร่วมมือจากประชาชนร่วมกันหวงแหน อนุรักษ์ และใช้ทรัพยากรอย่างมีคุณค่า
ผู้แทนภาคประชาชนในพื้นที่ตำบลเคร็ง อำเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ร่วมแสดงความคิดเห็นผลกระทบวิกฤตทะเลสาบสงขลา โดยปัญหาที่ประชาชนในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อน คือ ปัญหาที่ดินทำกินของประชาชนในพื้นที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ ปัญหาระบบการบริหารจัดการน้ำ ในการเปลี่ยนเส้นทางเดินน้ำทำให้เกิดน้ำท่วมขังในพื้นที่ตำบลเคร็งตลอดทั้งปี สำหรับป่าพรุควนเคร็ง ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่จะรัก และหวงแหนต่อทรัพยากรที่มีอยู่ เพราะเปรียบเสมือนตลาดของคนในพื้นที่ แต่จะมีบุคคลภายในมาเผาทำลายทรัพยากรที่มีอยู่ให้ทรุดโทรมลง และทำให้การดำรงชีพของประชาชนในพื้นที่ได้รับผลกระทบ
สำหรับทะเลสาบสงขลา เป็นทะเลสาบแห่งเดียวในประเทศไทยที่อยู่ติดกันถึง 3 จังหวัด มีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 1,000 ตารางกิโลเมตร ได้แก่ จังหวัดพัทลุง ในเขตอำเภอเมืองพัทลุง อำเภอปากพะยูน อำเภอบางแก้ว อำเภอเขาชัยสนและอำเภอควนขนุน, จังหวัดสงขลา ในเขตอำเภอระโนด อำเภอสทิงพระ อำเภอกระแสสินธุ์ อำเภอสิงหนคร อำเภอเมืองสงขลา อำเภอควนเนียง อำเภอหาดใหญ่ และอำเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช.
พรรณี กลสามัญ/ภาพ-ข่าว วีระยุทธ/ภาพ
สำนักข่าวบ้านข่าว รายงาน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
โรงไฟฟ้าขนอม ร่วมสืบสานประเพณีลอยกระทง สร้างความสุขทั่วอำเภอขนอม
November 21, 2024
โรงไฟฟ้าขนอม ร่วมส่งเสริมสุขภาพชุมชน สนับสนุนอบรม อสม.ใหม่/ทดแทน
November 21, 2024
อบจ.สงขลา ร่วมรับรางวัลประกาศเกียรติคุณ “ค่าของแผ่นดิน” ประจำปี 2566 ด้านการพัฒนาสังคมและส่งเสริมคุณภาพชีวิต จากโครงการ ...
November 20, 2024
อโกด้าเผย หาดใหญ่คว้าแชมป์เมืองท่องเที่ยวที่คุ้มค่าที่สุดในไทย ช่วงเทศกาลส่งท้ายปี
November 19, 2024