พลเอกเปรม ชี้ฉ้อราษฎร์บังหลวง โกงชาติบ้านเมืองน่าละอาย ชมอธิการ มรภ.สงขลา มาถูกทาง ทำโครงการบ่มเพาะคนดีได้ผล แนะสอนเยาวชนต่อต้านคนไม่ดี

ฯพณฯ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ปาฐกถาพิเศษเรื่องการทำความดีและการรักษาความดี ในโอกาสเดินทางมารับฟังผลการปฏิบัติงานในโครงการบ่มเพาะคนดี ของมหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา (มรภ.สงขลา) ณ หอประชุมเฉลิมพระเกียรติฯ เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ว่า ตนเคยพูดว่าการทำความดีนั้นยากมาก แต่การรักษาความดีให้ดำรงอยู่ยากยิ่งกว่า มาถึงวันนี้ ผศ.ดร.ไพโรจน์ ไพโรจน์ ด้วงวิเศษ อธิการบดี มรภ.สงขลา ทำข้อสอบเรื่องการทำความดีที่ว่ายากให้ง่ายลงกว่าเดิม ดังจะเห็นได้จากเด็กและเยาวชนในโครงการบ่มเพาะคนดี ที่สามารถตอบโจทย์เรื่องการทำความดีด้วยวิธีต่างๆ กัน ซึ่งเป็นเรื่องที่ตนภูมิใจมาก และมุ่งมั่นที่จะทำให้โครงการเพาะบ่มคนดี ได้เกิดขึ้นในชาติบ้านเมืองของเรามากๆ ไม่ใช่เฉพาะที่ราชภัฏสงขลา แต่ทั่วประเทศของเราขอให้เกิดอย่างนี้ อย่างน้อยให้คนทั่วไปได้รู้ว่าที่นี่กำลังทำอะไรกันอยู่ และเขาน่าจะทำได้บ้างไหม

ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ กล่าวว่า หลังจากที่ได้ฟังเด็กๆ เสนอการทำความดีของเขาแล้ว ทำให้คิดว่าเราจะต้องหาสิ่งจูงใจให้พบ เมื่อเราจะจูงใจให้คนทำความดีจะทำได้อย่างไรบ้าง ซึ่งสิ่งจูงใจที่จะนำไปใช้แต่ละสถานที่ แต่ละกลุ่ม จะต้องไม่เหมือนกัน แล้วแต่จะไปสื่อกับใคร กับคนกลุ่มใด มีคำอยู่คำหนึ่งที่คู่กับคำว่าแรงจูงใจ คือคำว่าแรงบันดาลใจ ขึ้นอยู่กับผู้ที่จะไปนำเสนอว่าเกิดแรงบันดาลใจในเรื่องอะไร และจะไปช่วยเหลือคนอื่นด้วยเรื่องใด แต่วันนี้ว่าตนคิดว่าจะต้องพูดอีกเรื่องหนึ่ง คือการต่อต้านคนไม่ดี ความไม่ดีในประเทศและสังคมของเรา ซึ่งตนอยากให้ อธิการ มรภ.สงขลา ผนวกเรื่องนี้เข้าไปในการสอนให้เยาวชนกระทำความดีด้วย เนื่องจากการสอนให้ต่อต้านคนไม่ดี จะได้ผลรวดเร็วกว่าการสอนให้ทำความดีเพียงอย่างเดียว

“สิ่งที่ผมเบื่อแล้วก็ละอายที่สุด ก็คือการฉ้อราษฎร์บังหลวง การโกงชาติบ้านเมืองเป็นเรื่องหน้าตาของชาติบ้านเมืองของเรา เป็นความอับอายขายหน้าที่เราไม่ควรจะยอมรับ เป็นความที่ไม่รู้จะเดินไปโดยอกผายไหล่ผึ่งอย่างไรได้ ถ้าประเทศของเรามีแต่คนโกง มีแต่คนฉ้อราษฎร์บังหลวง มันเป็นความอับอายของชาติของเรา ซึ่งเราน่าจะมานั่งคิดกันว่าขณะที่เป็นคนอยู่อย่างนี้ มีอายุเท่านี้ มีการศึกษาแค่นี้ หรือมีความรับผิดชอบเท่านี้ เราจะต่อต้านคนที่กำลังโกงชาติบ้านเมืองได้อย่างไรบ้าง พร้อมๆ กับการทำความดีอย่างอื่น นี่เป็นคำแนะนำที่ผมอยากให้พวกเราได้ยินว่ามันเป็นความอับอายของชาติบ้านเมืองของเรา ที่มีแต่คนโกงเยอะแยะไปหมด” ฯพณฯ พลเอกเปรม กล่าวและว่า

การต่อต้านคนไม่ดีเป็นเรื่องที่พวกเราทำได้ มากบ้างน้อยบ้างก็แล้วแต่ แต่อยากให้ไปคิดว่าเราจะทำอย่างไรได้บ้าง เพื่อที่บ้านเมืองจะได้สวยงามสะอาด น่าอยู่น่าอาศัยมากขึ้น แล้วคนจะได้ไม่ถูกเบียดเบียนมากขึ้น คนจะได้อยู่ในศีลธรรม มีคุณธรรมจริยธรรมมากยิ่งขึ้น.