ปส. แถลงกวาดจับกุมขบวนการค้ายาเสพติด 6 คดี จับกุมผู้ต้องหาได้ 22 ราย ยึดของกลางยาบ้ากว่า 2 ล้านเม็ด ไอซ์อีก 56 กิโลกรัม โดยมีพฤติการณ์ ลำเลียงยานรกจากภาคเหนือมาจำหน่ายในภาคกลาง เจอข้อหาหนัก มีอาวุธปืน และร่วมกันต่อสู้และพยายามฆ่าเจ้าพนักงานฯ
วันที่ 17 ก.ค. 60 เวลา 10.00 น. ที่กองบัญชาการตรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข ผบช.ปส. พล.ต.ต.ศุภกิจ ศรีจันทรนนท์ รอง ผบช.ปส., พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ รอง ผบช.ปส. พล.ต.ต.ทนงศักดิ์ ทั่งทอง รอง ผบช.ปส. พล.ต.ต.ชาตรี ไพศาลศิลป์ รอง ผบช.ปส. พล.ต.ต.สุนทร เฉลิมเกียรติ ผบก.ประจำ บช.ปส. ได้ร่วมกันแถลงผลการกวาดล้างจับกุมขบวนการนักค้ายาเสพติด 6 คดี สามารถจับกุมผู้ต้องหา จำนวน 22 คน ตรวจยึดของกลางยาบ้า 2,155,403 เม็ด และ ไอซ์ 56.62 กิโลกรัม โดยคดีแรก เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม นายจีรยุ หรือมด รักจิตร์ อายุ 25 ปี น.ส.แก้วตา หรือแก้ว พิศมัย อายุ 24 ปี และนายจักรินทร์ หรือฟิวส์ สุดคิด อายุ 18 ปี พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 100,000 เม็ด จักรยานยนต์ 2 คัน และโทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง ในข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้ทำการสืบสวนทราบว่า นายจีรยุ มีพฤติการณ์จำหน่ายยาบ้าในพื้นที่ จ.ปทุมธานี และพื้นที่ใกล้เคียง ต่อมาทราบว่าจะมีการส่งมอบยาบ้าที่ห้างสรรพสินค้าเทสโก้โลตัส สาขาคลองหลวง ถ.คลองหลวง ต.คลองสอง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เจ้าหน้าที่จึงได้วางแผนจับกุมและเฝ้าสังเกตการณ์บริเวณดังกล่าวกระทั่งพบนายจักรินทร์ขับขี่จักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า มี น.ส.แก้วตา แฟนสาวนายจีรยุนั่งซ้อนท้าย ที่บริเวณลานจอดรถห้างสรรพสินค้าโลตัส และพบนายจีรยุที่บริเวณด้านนอกห้างสรรพสินค้าเทสโก้โลตัส จึงเข้าทำการจับกุมผู้ต้องทั้งสาม ก่อนตามไปยึดยาบ้าจำนวน 100,000 เม็ด ซึ่งบรรจุอยู่ภายในกระเป๋าสะพายสีน้ำเงินได้ที่บริเวณข้างป้ายปะยางจุดกลับรถริมถนนกาญจนาภิเษก ต.คลองสี่ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี คดีที่ 2 เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม นายสุเชษฐ์ หรืออ้วน เซียงตึ้ง สุวรรณวงศ์ อายุ 32 ปี และนายทวีศักดิ์ หรือแอ๊ด พิจิตรบรรจง อายุ 28 ปี พร้อมของกลางไอซ์น้ำหนักประมาณ 485.9 กรัม ยาบ้า 203 เม็ด อาวุธปืนลูกซองยาว เบอร์ 12 ยี่ห้อเรมิงตัน อาร์มี ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน จำนวน 1 กระบอก อาวุธปืนยาวขนาด .22 GSG522 เลขทะเบียน กท 5452993 จำนวน 1 กระบอก พร้อมซองกระสุน 1 ซอง อาวุธปืนยาวขนาด .30 MI พร้องซองบรรจุกระสุน ซองสั้น 2 ซอง ซองยาว 3 ซอง อาวุธปืนยี่ห้อบาเร็ตต้า สีดำ จำนวน 1 กระบอก วัตถุคล้ายระเบิดไม่ทราบชนิดจำนวน 3 ลูก และกระสุนปืนขนาดต่างๆ จำนวน 578 นัด สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้ทำการสืบสวนติดตามกลุ่มเครือข่ายของนายสุเชษฐ์ ซึ่งมีพฤติการณ์ลักลอบจำหน่ายยาเสพติดและอาวุธสงคราม โดยจะลำเลียงยาเสพติดจากภาคเหนือเข้าสู่ กทม. และเก็บไว้ในพื้นที่กรุงเทพฯ เพื่อรอลำเลียงลงสู่ภาคใต้ ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสามารถจับกุม นายสุเชษฐ์ ได้ที่สวนหย่อมชั้นล่างอาคาร B ดิไอริส คอนโด ถ.ศรีนครินทร์ แขวงและเขตสวนหลวง กทม. และจับกุมนายทวีศักดิ์ รุ่นน้องที่มีความสนิทสนมกับนายสุเชษฐ์ ได้ที่ชั้น 8 อาคาร E ดิไอริส คอนโด และจากการสืบสวนขยายผลทราบว่ากลุ่มเครือข่ายนายสุเชษฐ์นำยาเสพติดและอาวุธปืนไปเก็บไว้ที่ห้องพักชั้น 23 อาคาร 2 อาคารชุดซิตี้โฮมรัตนาธิเบศร์ ถ.รัตนาธิเบศร์ ต.บางกระสอ อ.เมือง จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำหมายค้นศาลจังหวัดนนทบุรี เข้าทำการตรวจค้นห้องพักดังกล่าว เมื่อไปถึงปรากฏว่าไม่พบบุคคลใดอยู่ภายในห้องดังกล่าว จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่นิติบุคคลอาคารชุดซิตี้โฮมรัตนาธิเบศร์ เพื่อร่วมเป็นพยานในการตรวจค้น ผลการตรวจค้นพบยาเสพติด และสิ่งของผิดกฎหมายตามรายการดังกล่าว จึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาและตรวจยึดของกลางส่งพนักงานสอบสวน ดำเนินคดี คดีที่ 3 เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม นายตะวัน ลาเตะ อายุ 39 ปี และนายอัคนันต์ อูมา อายุ 28 ปี พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 658,000 เม็ด รถยนต์กระบะ 1 คัน และโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง ในข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจด่านตรวจยานพาหนะชุมพรได้สืบสวนหาข่าวกลุ่มผู้ค้ายาเสพติด กระทั่งทราบว่าจะมีการลักลอบขนยาเสพติดจากพื้นที่ทางภาคกลางไปพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยใช้รถยนต์กระบะบรรทุกข้าวสารอำพราง เจ้าหน้าที่ด่านตรวจยานพาหนะชุมพร จึงได้สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในพื้นที่ ตั้งจุดตรวจบริเวณริมถนนเพชรเกษม (กรุงเทพฯ-ชุมพร) หน้าที่ทำการด่านตรวจยานพาหนะชุมพร โดยมุ่งเป้าไปที่รถยนต์กระบะที่บรรทุกข้าวสาร และผู้ขับขี่เป็นบุคคลทางสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ขณะเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมปฏิบัติหน้าที่พบรถยนต์กระบะลักษณะตรงตามที่ได้รับแจ้งขับผ่านมาตามถนนเพชรเกษม มุ่งหน้า จ.ชุมพร เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเรียกให้หยุดเพื่อทำการตรวจค้น พบนายตะวันเป็นผู้ขับขี่ และมีนายอัคนันต์ นั่งโดยสารมาด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขอตรวจค้นรถยนต์ พบยาบ้าจำนวน 658,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่บริเวณกระบะท้ายของรถยนต์กระบะคันดังกล่าว โดยมีกระสอบข้าวสารเสาไห้ยี่ห้อปลาทูปิดทับอำพราง จึงควบคุมตัวผู้ถูกจับทั้งสองคนพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี ต่อมาคดีที่ 4 เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม นายภัทรพงษ์ หรือท็อป สุดาดวง อายุ 21 ปี และนายณัฐพล หรือปอนด์ ระวัง อายุ 21 ปี พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 246,000 เม็ด ไอซ์ 500 กรัม จักรยานยนต์ 1 คัน และโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง ในข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า, ไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและพยายามจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งว่านายภัทรพงษ์มีพฤติการณ์ลักลอบจำหน่ายยาเสพติดให้กับลูกค้าในเขตพื้นที่ลาดพร้าว-วังหิน และบริเวณใกล้เคียง โดยสายลับสามารถติดต่อล่อซื้อยาเสพติดจากผู้ต้องหาได้ จึงได้วางแผนให้สายลับติดต่อสั่งซื้อยาเสพติดยาบ้า จำนวน 1 มัด หรือ 2,000 เม็ด ในราคา 40,000 บาท และนัดส่งมอบยาเสพติดบริเวณหน้าธนาคารกสิกรไทย สาขาสี่แยกวังหิน ต่อมาพบนายภัทรพงษ์ขับขี่จักรยานยนต์ของกลางเข้ามาที่บริเวณนัดหมาย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตัวขอตรวจค้น ผลการตรวจค้นพบยาเสพติดของกลางยาบ้าจำนวนประมาณ 2,000 เม็ด และรับสารภาพว่ายาเสพติดดังกล่าวรับมาจากนายณัฐพล เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวนายภัทรพงษ์ ไปขยายผลตรวจค้นที่ห้องพักย่านจตุจักร ผลการตรวจค้นพบนายณัฐพลอยู่ภายในห้องและให้การยอมรับว่าเป็นคนนำยาบ้าไปให้นายภัทรพงษ์ไปจำหน่ายจริง และนายณัฐพลได้พาไปตรวจค้นห้องพักอีกห้องหนึ่ง ซึ่งอยู่ใกล้กันพบยาเสพติดของกลางยาบ้าจำนวน 244,000 เม็ด และไอซ์ 500 กรัม จึงได้ทำการตรวจยึดและควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย คดีที่ 5 เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม นายภานุวิทย์ อรุณวิชญ์หิรัญ อายุ 21 ปี นายเจ้ง แซ่ย่าง อายุ 21 ปี นายมีบุญ แซ่ท่อ อายุ 24 ปี นายวสันต์ แซ่เล่า อายุ 18 ปี และ นายอานันท์ แซ่ย่าง อายุ 20 ปี พร้อมของกลางไอซ์ จำนวน 55 กิโลกรัม ยาบ้า 400,000 เม็ด รถยนต์กระบะ 2 คัน และโทรศัพท์มือถือ 6 เครื่อง ในข้อหาร่วมกันมียาเสพคิดให้โทษประเภทที่ 1 (ไอซ์, ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต สืบเนืองจากเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจพบรถนำสำรวจเส้นทางของกลุ่มผู้ต้องหา ซึ่งใช้เส้นทางหลบด่านแม่พริก จ.ลำปาง โดยใช้เส้นทางรองซึ่งคู่ขนานกับเส้นทางหลวงหมายเลข 1 และเชื่อว่า มีรถลำเลียงยาเสพติดหลบหนีผ่านเข้าสู่ตอนในของประเทศไปแล้ว จึงได้จัดชุดเจ้าหน้าที่ ออกติดตามหากลุ่มผู้ลำเลียงยาเสพติดดังกล่าว และจากการติดตามตรวจสอบพบว่า กลุ่มผู้ลำเลียงยาเสพติดได้ซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ป่าเขาของ อ.สามเงา จ.ตาก และได้เริ่มเคลื่อนตัวออกมาใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 1 ผ่านทาง อ.เมือง จ.ตาก เข้าสู่ จ.กำแพงเพชร และเมื่อรถนำทางมาถึงด่านตรวจ สภ.ทรงธรรม จ.กำแพงเพชร จึงได้ทำการจับตัวผู้ต้องหาทั้ง 5 คน พร้อมด้วยของกลางทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย และคดีสุดท้าย เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม นายสง่า วารักดี อายุ 50 ปี นางนิยม วารักดี อายุ 50 ปี นายกันตภณ นุกุลพงษ์ อายุ 47 ปี น.ส.น้ำตาล เตียวเจริญ อายุ 24 ปี น.ส.ลดาวัลย์ ตรวจมรรคา อายุ 41 ปี นายศิระ เฟื่องชูนุช อายุ 45 ปี นายเจตน์ จันทระ อายุ 46 ปี และนายเกษม วงศ์เจริญ อายุ 26 ปี พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 751,200 เม็ด ไอซ์ น้ำหนักประมาณ 663 กรัม รถยนต์ 5 คัน โทรศัพท์มือถือ 12 เครื่อง และอาวุธปืน 2 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนปืน ในข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า, ไอซ์) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ส่วนผู้ต้องหาที่ 7 และ 8 ถูกแจ้งข้อหาเพิ่มเติมว่า ร่วมกันต่อสู้และพยายามฆ่าเจ้าพนักงานฯ, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต, พาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไปในเมืองหมู่บ้านฯ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำการสืบสวนติดตามพฤติการณ์การค้า ยาเสพติดกลุ่มของนายสง่าซึ่งอยู่บ้านเช่าหมู่บ้านพฤกษา อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา พบกลุ่มผู้ต้องหากับพวก ใช้รถยนต์หลายคันเป็นพาหนะเข้าออกบ้านดังกล่าว เชื่อว่าพากันนำยาเสพติด แยกย้ายออกจากบ้านพัก เพื่อส่งให้ลูกค้า ตามข้อมูลที่ได้สืบสวนมาจึงทำการเข้าตรวจค้นจับกุมตัวผู้ต้องหาที่ 1-6 พร้อมยาบ้าของกลาง ต่อมาทำการขยายผลไปจับกุมผู้ต้องหาที่ 7 และ 8 ซึ่งเป็นลูกค้าที่สั่งซื้อยาบ้า จำนวน 40,000 เม็ด แต่ทั้งสองได้ยิงต่อสู้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เป็นเหตุให้ชุดจับกุมยิงป้องกันตัวทำให้ผู้ต้องหาที่ 7 และ 8 เสียชีวิต นอกจากนี้ ผู้ต้องหาที่ 1 รับสารภาพว่ามียาบ้าซุกซ่อนอยู่ภายในช่องลับใต้พื้นรถกระบะที่จอดในบ้านที่เกิดเหตุ จำนวน 137,200 เม็ด และไอซ์ 365 กรัม และผู้ต้องที่ 3 นำค้นบ้านเลขที่ 102/53 หมู่บ้านพฤกษาการ์เด้นโฮม จ.นนทบุรี พบไอซ์ 298 กรัม จึงนำตัวผู้ต้องหาที่ 1-6 พร้อมของกลางทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.
ขอขอบคุณข้อมูล/ภาพ ทีมข่าวอาชญากรรม MGR Online
สำนักข่าวบ้านข่าว รายงาน
November 21, 2024
November 20, 2024
November 19, 2024
ชื่อ-สกุล*
อีเมล์*
เว็ปไซต์
แสดงความคิดเห็น
Notify me of follow-up comments by email.
Notify me of new posts by email.
Δ
จับไม่หมด! ปส.ขยายผลจับแก๊งค้ายานรกอีก 6 คดี ยึดยาบ้ากว่า 2 ล้านเม็ด ไอซ์อีก 56 กก.
ปส. แถลงกวาดจับกุมขบวนการค้ายาเสพติด 6 คดี จับกุมผู้ต้องหาได้ 22 ราย ยึดของกลางยาบ้ากว่า 2 ล้านเม็ด ไอซ์อีก 56 กิโลกรัม โดยมีพฤติการณ์ ลำเลียงยานรกจากภาคเหนือมาจำหน่ายในภาคกลาง เจอข้อหาหนัก มีอาวุธปืน และร่วมกันต่อสู้และพยายามฆ่าเจ้าพนักงานฯ
วันที่ 17 ก.ค. 60 เวลา 10.00 น. ที่กองบัญชาการตรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข ผบช.ปส. พล.ต.ต.ศุภกิจ ศรีจันทรนนท์ รอง ผบช.ปส., พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ รอง ผบช.ปส. พล.ต.ต.ทนงศักดิ์ ทั่งทอง รอง ผบช.ปส. พล.ต.ต.ชาตรี ไพศาลศิลป์ รอง ผบช.ปส. พล.ต.ต.สุนทร เฉลิมเกียรติ ผบก.ประจำ บช.ปส. ได้ร่วมกันแถลงผลการกวาดล้างจับกุมขบวนการนักค้ายาเสพติด 6 คดี สามารถจับกุมผู้ต้องหา จำนวน 22 คน ตรวจยึดของกลางยาบ้า 2,155,403 เม็ด และ ไอซ์ 56.62 กิโลกรัม โดยคดีแรก เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม นายจีรยุ หรือมด รักจิตร์ อายุ 25 ปี น.ส.แก้วตา หรือแก้ว พิศมัย อายุ 24 ปี และนายจักรินทร์ หรือฟิวส์ สุดคิด อายุ 18 ปี พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 100,000 เม็ด จักรยานยนต์ 2 คัน และโทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง ในข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้ทำการสืบสวนทราบว่า นายจีรยุ มีพฤติการณ์จำหน่ายยาบ้าในพื้นที่ จ.ปทุมธานี และพื้นที่ใกล้เคียง ต่อมาทราบว่าจะมีการส่งมอบยาบ้าที่ห้างสรรพสินค้าเทสโก้โลตัส สาขาคลองหลวง ถ.คลองหลวง ต.คลองสอง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เจ้าหน้าที่จึงได้วางแผนจับกุมและเฝ้าสังเกตการณ์บริเวณดังกล่าวกระทั่งพบนายจักรินทร์ขับขี่จักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า มี น.ส.แก้วตา แฟนสาวนายจีรยุนั่งซ้อนท้าย ที่บริเวณลานจอดรถห้างสรรพสินค้าโลตัส และพบนายจีรยุที่บริเวณด้านนอกห้างสรรพสินค้าเทสโก้โลตัส จึงเข้าทำการจับกุมผู้ต้องทั้งสาม ก่อนตามไปยึดยาบ้าจำนวน 100,000 เม็ด ซึ่งบรรจุอยู่ภายในกระเป๋าสะพายสีน้ำเงินได้ที่บริเวณข้างป้ายปะยางจุดกลับรถริมถนนกาญจนาภิเษก ต.คลองสี่ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี คดีที่ 2 เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม นายสุเชษฐ์ หรืออ้วน เซียงตึ้ง สุวรรณวงศ์ อายุ 32 ปี และนายทวีศักดิ์ หรือแอ๊ด พิจิตรบรรจง อายุ 28 ปี พร้อมของกลางไอซ์น้ำหนักประมาณ 485.9 กรัม ยาบ้า 203 เม็ด อาวุธปืนลูกซองยาว เบอร์ 12 ยี่ห้อเรมิงตัน อาร์มี ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน จำนวน 1 กระบอก อาวุธปืนยาวขนาด .22 GSG522 เลขทะเบียน กท 5452993 จำนวน 1 กระบอก พร้อมซองกระสุน 1 ซอง อาวุธปืนยาวขนาด .30 MI พร้องซองบรรจุกระสุน ซองสั้น 2 ซอง ซองยาว 3 ซอง อาวุธปืนยี่ห้อบาเร็ตต้า สีดำ จำนวน 1 กระบอก วัตถุคล้ายระเบิดไม่ทราบชนิดจำนวน 3 ลูก และกระสุนปืนขนาดต่างๆ จำนวน 578 นัด สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้ทำการสืบสวนติดตามกลุ่มเครือข่ายของนายสุเชษฐ์ ซึ่งมีพฤติการณ์ลักลอบจำหน่ายยาเสพติดและอาวุธสงคราม โดยจะลำเลียงยาเสพติดจากภาคเหนือเข้าสู่ กทม. และเก็บไว้ในพื้นที่กรุงเทพฯ เพื่อรอลำเลียงลงสู่ภาคใต้ ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสามารถจับกุม นายสุเชษฐ์ ได้ที่สวนหย่อมชั้นล่างอาคาร B ดิไอริส คอนโด ถ.ศรีนครินทร์ แขวงและเขตสวนหลวง กทม. และจับกุมนายทวีศักดิ์ รุ่นน้องที่มีความสนิทสนมกับนายสุเชษฐ์ ได้ที่ชั้น 8 อาคาร E ดิไอริส คอนโด และจากการสืบสวนขยายผลทราบว่ากลุ่มเครือข่ายนายสุเชษฐ์นำยาเสพติดและอาวุธปืนไปเก็บไว้ที่ห้องพักชั้น 23 อาคาร 2 อาคารชุดซิตี้โฮมรัตนาธิเบศร์ ถ.รัตนาธิเบศร์ ต.บางกระสอ อ.เมือง จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำหมายค้นศาลจังหวัดนนทบุรี เข้าทำการตรวจค้นห้องพักดังกล่าว เมื่อไปถึงปรากฏว่าไม่พบบุคคลใดอยู่ภายในห้องดังกล่าว จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่นิติบุคคลอาคารชุดซิตี้โฮมรัตนาธิเบศร์ เพื่อร่วมเป็นพยานในการตรวจค้น ผลการตรวจค้นพบยาเสพติด และสิ่งของผิดกฎหมายตามรายการดังกล่าว จึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาและตรวจยึดของกลางส่งพนักงานสอบสวน ดำเนินคดี คดีที่ 3 เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม นายตะวัน ลาเตะ อายุ 39 ปี และนายอัคนันต์ อูมา อายุ 28 ปี พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 658,000 เม็ด รถยนต์กระบะ 1 คัน และโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง ในข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจด่านตรวจยานพาหนะชุมพรได้สืบสวนหาข่าวกลุ่มผู้ค้ายาเสพติด กระทั่งทราบว่าจะมีการลักลอบขนยาเสพติดจากพื้นที่ทางภาคกลางไปพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยใช้รถยนต์กระบะบรรทุกข้าวสารอำพราง เจ้าหน้าที่ด่านตรวจยานพาหนะชุมพร จึงได้สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในพื้นที่ ตั้งจุดตรวจบริเวณริมถนนเพชรเกษม (กรุงเทพฯ-ชุมพร) หน้าที่ทำการด่านตรวจยานพาหนะชุมพร โดยมุ่งเป้าไปที่รถยนต์กระบะที่บรรทุกข้าวสาร และผู้ขับขี่เป็นบุคคลทางสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ขณะเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมปฏิบัติหน้าที่พบรถยนต์กระบะลักษณะตรงตามที่ได้รับแจ้งขับผ่านมาตามถนนเพชรเกษม มุ่งหน้า จ.ชุมพร เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเรียกให้หยุดเพื่อทำการตรวจค้น พบนายตะวันเป็นผู้ขับขี่ และมีนายอัคนันต์ นั่งโดยสารมาด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขอตรวจค้นรถยนต์ พบยาบ้าจำนวน 658,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่บริเวณกระบะท้ายของรถยนต์กระบะคันดังกล่าว โดยมีกระสอบข้าวสารเสาไห้ยี่ห้อปลาทูปิดทับอำพราง จึงควบคุมตัวผู้ถูกจับทั้งสองคนพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี ต่อมาคดีที่ 4 เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม นายภัทรพงษ์ หรือท็อป สุดาดวง อายุ 21 ปี และนายณัฐพล หรือปอนด์ ระวัง อายุ 21 ปี พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 246,000 เม็ด ไอซ์ 500 กรัม จักรยานยนต์ 1 คัน และโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง ในข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า, ไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและพยายามจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งว่านายภัทรพงษ์มีพฤติการณ์ลักลอบจำหน่ายยาเสพติดให้กับลูกค้าในเขตพื้นที่ลาดพร้าว-วังหิน และบริเวณใกล้เคียง โดยสายลับสามารถติดต่อล่อซื้อยาเสพติดจากผู้ต้องหาได้ จึงได้วางแผนให้สายลับติดต่อสั่งซื้อยาเสพติดยาบ้า จำนวน 1 มัด หรือ 2,000 เม็ด ในราคา 40,000 บาท และนัดส่งมอบยาเสพติดบริเวณหน้าธนาคารกสิกรไทย สาขาสี่แยกวังหิน ต่อมาพบนายภัทรพงษ์ขับขี่จักรยานยนต์ของกลางเข้ามาที่บริเวณนัดหมาย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตัวขอตรวจค้น ผลการตรวจค้นพบยาเสพติดของกลางยาบ้าจำนวนประมาณ 2,000 เม็ด และรับสารภาพว่ายาเสพติดดังกล่าวรับมาจากนายณัฐพล เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวนายภัทรพงษ์ ไปขยายผลตรวจค้นที่ห้องพักย่านจตุจักร ผลการตรวจค้นพบนายณัฐพลอยู่ภายในห้องและให้การยอมรับว่าเป็นคนนำยาบ้าไปให้นายภัทรพงษ์ไปจำหน่ายจริง และนายณัฐพลได้พาไปตรวจค้นห้องพักอีกห้องหนึ่ง ซึ่งอยู่ใกล้กันพบยาเสพติดของกลางยาบ้าจำนวน 244,000 เม็ด และไอซ์ 500 กรัม จึงได้ทำการตรวจยึดและควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย คดีที่ 5 เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม นายภานุวิทย์ อรุณวิชญ์หิรัญ อายุ 21 ปี นายเจ้ง แซ่ย่าง อายุ 21 ปี นายมีบุญ แซ่ท่อ อายุ 24 ปี นายวสันต์ แซ่เล่า อายุ 18 ปี และ นายอานันท์ แซ่ย่าง อายุ 20 ปี พร้อมของกลางไอซ์ จำนวน 55 กิโลกรัม ยาบ้า 400,000 เม็ด รถยนต์กระบะ 2 คัน และโทรศัพท์มือถือ 6 เครื่อง ในข้อหาร่วมกันมียาเสพคิดให้โทษประเภทที่ 1 (ไอซ์, ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต สืบเนืองจากเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจพบรถนำสำรวจเส้นทางของกลุ่มผู้ต้องหา ซึ่งใช้เส้นทางหลบด่านแม่พริก จ.ลำปาง โดยใช้เส้นทางรองซึ่งคู่ขนานกับเส้นทางหลวงหมายเลข 1 และเชื่อว่า มีรถลำเลียงยาเสพติดหลบหนีผ่านเข้าสู่ตอนในของประเทศไปแล้ว จึงได้จัดชุดเจ้าหน้าที่ ออกติดตามหากลุ่มผู้ลำเลียงยาเสพติดดังกล่าว และจากการติดตามตรวจสอบพบว่า กลุ่มผู้ลำเลียงยาเสพติดได้ซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ป่าเขาของ อ.สามเงา จ.ตาก และได้เริ่มเคลื่อนตัวออกมาใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 1 ผ่านทาง อ.เมือง จ.ตาก เข้าสู่ จ.กำแพงเพชร และเมื่อรถนำทางมาถึงด่านตรวจ สภ.ทรงธรรม จ.กำแพงเพชร จึงได้ทำการจับตัวผู้ต้องหาทั้ง 5 คน พร้อมด้วยของกลางทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย และคดีสุดท้าย เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม นายสง่า วารักดี อายุ 50 ปี นางนิยม วารักดี อายุ 50 ปี นายกันตภณ นุกุลพงษ์ อายุ 47 ปี น.ส.น้ำตาล เตียวเจริญ อายุ 24 ปี น.ส.ลดาวัลย์ ตรวจมรรคา อายุ 41 ปี นายศิระ เฟื่องชูนุช อายุ 45 ปี นายเจตน์ จันทระ อายุ 46 ปี และนายเกษม วงศ์เจริญ อายุ 26 ปี พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 751,200 เม็ด ไอซ์ น้ำหนักประมาณ 663 กรัม รถยนต์ 5 คัน โทรศัพท์มือถือ 12 เครื่อง และอาวุธปืน 2 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนปืน ในข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า, ไอซ์) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ส่วนผู้ต้องหาที่ 7 และ 8 ถูกแจ้งข้อหาเพิ่มเติมว่า ร่วมกันต่อสู้และพยายามฆ่าเจ้าพนักงานฯ, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต, พาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไปในเมืองหมู่บ้านฯ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำการสืบสวนติดตามพฤติการณ์การค้า ยาเสพติดกลุ่มของนายสง่าซึ่งอยู่บ้านเช่าหมู่บ้านพฤกษา อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา พบกลุ่มผู้ต้องหากับพวก ใช้รถยนต์หลายคันเป็นพาหนะเข้าออกบ้านดังกล่าว เชื่อว่าพากันนำยาเสพติด แยกย้ายออกจากบ้านพัก เพื่อส่งให้ลูกค้า ตามข้อมูลที่ได้สืบสวนมาจึงทำการเข้าตรวจค้นจับกุมตัวผู้ต้องหาที่ 1-6 พร้อมยาบ้าของกลาง ต่อมาทำการขยายผลไปจับกุมผู้ต้องหาที่ 7 และ 8 ซึ่งเป็นลูกค้าที่สั่งซื้อยาบ้า จำนวน 40,000 เม็ด แต่ทั้งสองได้ยิงต่อสู้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เป็นเหตุให้ชุดจับกุมยิงป้องกันตัวทำให้ผู้ต้องหาที่ 7 และ 8 เสียชีวิต นอกจากนี้ ผู้ต้องหาที่ 1 รับสารภาพว่ามียาบ้าซุกซ่อนอยู่ภายในช่องลับใต้พื้นรถกระบะที่จอดในบ้านที่เกิดเหตุ จำนวน 137,200 เม็ด และไอซ์ 365 กรัม และผู้ต้องที่ 3 นำค้นบ้านเลขที่ 102/53 หมู่บ้านพฤกษาการ์เด้นโฮม จ.นนทบุรี พบไอซ์ 298 กรัม จึงนำตัวผู้ต้องหาที่ 1-6 พร้อมของกลางทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.
ขอขอบคุณข้อมูล/ภาพ ทีมข่าวอาชญากรรม MGR Online
สำนักข่าวบ้านข่าว รายงาน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
โรงไฟฟ้าขนอม ร่วมสืบสานประเพณีลอยกระทง สร้างความสุขทั่วอำเภอขนอม
November 21, 2024
โรงไฟฟ้าขนอม ร่วมส่งเสริมสุขภาพชุมชน สนับสนุนอบรม อสม.ใหม่/ทดแทน
November 21, 2024
อบจ.สงขลา ร่วมรับรางวัลประกาศเกียรติคุณ “ค่าของแผ่นดิน” ประจำปี 2566 ด้านการพัฒนาสังคมและส่งเสริมคุณภาพชีวิต จากโครงการ ...
November 20, 2024
อโกด้าเผย หาดใหญ่คว้าแชมป์เมืองท่องเที่ยวที่คุ้มค่าที่สุดในไทย ช่วงเทศกาลส่งท้ายปี
November 19, 2024