พี่น้องมุสลิมจาก จ.สตูล เดินทางท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ หวังเรียนรู้ประวัติศาสตร์ แลกเปลี่ยนวัฒนธรรม สร้างความดีใจให้กับประชาชนในพื้นที่พร้อมให้การต้อนรับ

วันที่  15 ก.ค. 60  ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการเดินทางมาเที่ยวของพี่น้องชาวไทยมุสลิมจาก จ.สตูล ที่เริ่มเข้ามาเที่ยวใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้กันเป็นหมู่คณะ ภายใต้โครงการสลามัตชายแดนได้ โดยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานนราธิวาส ร่วมกับนายกสมาคมผู้ประกอบการธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดสตูล เพื่อเข้ามาเรียนรู้ประวัติศาสตร์ท้องถิ่น เยี่ยมชมโบราณสถาน พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น และเที่ยวชมธรรมชาติ พร้อมแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ หลังจากที่สถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ยืดเยื้อมานานหลายปี ทำให้พี่น้องมุสลิมไม่ค่อยนิยมมาเที่ยวในพื้นที่เป็นหมู่คณะมานานหลายปีเช่นกัน แต่พี่น้องมุสลิมในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ กลับนิยมนำครอบครัวไปท่องเที่ยวที่ จ.สตูล ซึ่งการเดินทางของคณะในครั้งนี้ได้รับการต้อนรับจากคนในพื้นที่ได้เป็นอย่างดี ทางคณะได้เข้าเยี่ยมชมมัสยิดกลางปัตตานี มัสยิดโบราณกรือเซะ เข้าเยี่ยมชมวังยะหริ่ง และชมการแสดงโชว์ศิลปะการป้องกันรำสีละ ดิเกร์ฮูลู เป็นต้น นอกจากนี้ทางคณะยังได้เข้าเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นคุณละหาร ที่เต็มไปด้วยเครื่องใช้ในแต่ละยุคสมัย ที่ยังคงเก็บไว้เป็นอย่างดี สร้างความประทับใจให้คณะในครั้งนี้เป็นอย่างมาก เพราะนานมากที่ไม่ได้มีโอกาสมาชมการแสดงศิลปะประจำถิ่นของจังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งที่มีความรู้สึกผูกพันกับวิถีชีวิต และประเพณีของคนที่นี่ได้เป็นอย่างดี นายสันติภาพ สะแลแม รองผู้อำนวยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานนราธิวาส ได้กล่าวว่า การเดินทางเที่ยวของคณะมุสลิมจาก จ.สตูล ในครั้งนี้ นับเป็นความพยายามอีกก้าวหนึ่งของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ที่อยากให้พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวชมแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่ให้มากที่สุด หลังจากก่อนหน้านี้ได้มีชาวไทยมุสลิมจากภาคกลาง เดินทางเข้ามาเป็นส่วนใหญ่ การเดินมาเที่ยวเป็นหมู่คณะของชาวไทยมุสลิมจังหวัดในครั้งนี้ นับเป็นปรากฏการณ์ที่ดีให้กับคนในพื้นที่ เพราะระยะทางไม่ใกล้มาก เส้นทางสะดวกที่อาจเป็นกลุ่มเป้าหมายที่สำคัญอีกจังหวัดหนึ่ง ที่จะมาร่วมสร้างบรรยากาศการท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในอนาคตอันใกล้นี้ ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดการสร้างงาน การกระจ่ายรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่ และเป็นการสร้างภาพหลักที่ดีให้กับพื้นที่ในสายตาของคนภายนอกว่า พื้นที่ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด นอกจากนั้น สินค้าผลิตภัณฑ์โอทอปของกลุ่มแม่บ้าน ยังเป็นที่ถูกปากถูกใจของนักท่องเที่ยว เช่น ข้าวเกรียบปลา เสื้อผ้า เครื่องแต่งกายของมุสลิม เป็นต้น ส่วนแหล่งท่องเที่ยวบางแห่งยังดีกว่าภาคอื่นด้วยซ้ำไป โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ที่มีอายุยาวนานนับพันปี แหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ที่ยังคงสภาพเดิม ที่อุดมไปด้วยอากาศบริสุทธิ์ เป็นมิตรต่อสุขภาพ เช่น การเที่ยวชมทะเลหมอกอัยเวง อ.เบตง จ.ยะลา เป็นต้น ที่ปรากฏเป็นคล้ายทะเลหมอกทั้งปี ซึ่งปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ แห่กันขึ้นมาชมอย่างไม่ขาดสาย.

ขอขอบคุณข้อมูล/ภาพ  MGR Online

สำนักข่าวบ้านข่าว  รายงาน