ตามนโยบายรัฐบาลในการปราบปรามอาชญากรรมและผู้มีอิทธิพล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยพลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ,พลตำรวจเอกเฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ , พลตำรวจโทชัยวัฒน์ เกตุวรชัย ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
ตำรวจภูธรภาค 1 ภายใต้การอำนวยการของ พลตำรวจโท ชาญเทพ เสสะเวช ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 และ พลตำรวจตรี ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ได้สั่งการให้
ตำรวจสืบสวน ภ.1 นำโดย พล.ต.ต.อำนาจ จันทร์เจริญ ผบก.สส.ภ.1 , พ.ต.อ.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบก.สส.ภ.1 , พ.ต.อ.ไกลเขต บุรีรักษ์ ผกก.สส.2 บก.สส.ภ.1 , พร้อมกำลังชุดสืบสวน

ตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี นำโดย พล.ต.ต.ถาวร ขาวสะอาด ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี , พ.ต.อ.จีรเดชน์ เหมจินดา รอง ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี , พ.ต.อ.มนเทียร เบ้าทอง ผกก.สส.ภ.จว.ปทุมธานี , พ.ต.ท.ภูริสิทธิ์ ทิมทอง รอง ผกก.สส.ภ.จว.ปทุมธานี , พร้อมกำลังชุดสืบสวน

ตำรวจภูธร สภ.คูคต นำโดย พ.ต.อ.สมิทธิ สารอต ผกก.สภ.คูคต , พ.ต.ท.เหมรัศมิ์ พรนาคสอนโกษารอง ผกก.สส.สภ.คูคต , พ.ต.ท.สัมพันธ์ ทิมเจริญ สว.สส.สภ.คูคต และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน
ได้ร่วมจับกุมตัว
1.นายภคพงษ์ หรืออาร์ม เบ้าทอง อายุ 19 ปี
ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรีที่ 463/2560 ลงวันที่ 6 ก.ค. 2560
2.นายสายชล หรือแป๊ะ อ่อนอิน อายุ 23 ปี
ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรีที่ 414/2560 ลงวันที่ 6 ก.ค. 2560
3.นายอภิรักษ์ หรือบุ๊ค เรืองศรี อายุ 24 ปี
ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรีที่ 465/2560 ลงวันที่ 6 ก.ค. 2560
4.นายเอกวิน หรือเอก เลิศสรรพกิจ อายุ 19 ปี
ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรีที่ 466/2560 ลงวันที่ 6 ก.ค. 2560
5.นายอนุวัฒน์ หรือบังมิน สมวาที อายุ 28 ปี
ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรีที่ 467/2560 ลงวันที่ 6 ก.ค.2560
6.นายนุติ หรือเณร ตะใบ อายุ 20 ปี
ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรีที่ 418/2560 ลงวันที่ 6 ก.ค. 2560
7.นายพลช หรือมด เปี่ยมทองคำ อายุ 21 ปี
ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรีที่ 469/2560 ลงวันที่ 6 ก.ค. 2560
8.นายอภิชาต หรือแชมป์ สีสน อายุ 22 ปี
ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรีที่ 459/2560 ลงวันที่ 6 ก.ค. 2560
9.นาย รวิส หรือต้อม ขุนศรี อายุ 22 ปี
ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรีที่ 458/2560 ลงวันที่ 6 ก.ค. 2560
10.นายทรงสิทธิ์ หรือฟลุ๊ค งามยิ่ง อายุ 18 ปี
ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรีที่ 457/2560 ลงวันที่ 6 ก.ค. 2560

ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 10 คน ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน , ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น , พาอาวุธ (มีด) ไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร”

พฤติการณ์กล่าวคือ วันที่ 5 กรกฎาคม 2560 เวลาประมาณ 03.30 น. เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเหตุว่าที่บริเวณซอยพหลโยธิน 87 เส้นทางเมืองเอกหน้าร้านอาหารมนต์รักทะเล ม.13 ต.คุคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานีมีเหตุคนร้ายใช้อาวุธมีดทำร้าย นายอรรถกร รัตโนภาส , นายธนากร ลายน้ำเงิน , นายฐิติกร วงศ์วิเชียร เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้เดินทางไปตรวจที่เกิดเหตุและได้สอบถามผู้เห็นเหตุการณ์ ทำให้ทราบว่า เมื่อเวลาประมาณ 02.40 น. กลุ่มของผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บได้มาเที่ยวดื่มกินกันที่ร้านอาหาร ซึ่งอยู่บริเวณซอยพหลโยธิน 87 ถนนเส้นทางเมืองเอก หลังจากดื่มกินกันเสร็จ ได้เรียกแท็กซี่เพื่อจะกลับบ้าน เมื่อรถได้เคลื่อนตัวไปประมาณ 300 เมตร จากนั้นได้มีกลุ่มวัยรุ่นอีกกลุ่มหนึ่งขับขี่รถจักรยานยนต์มาประมาณ 5 -6 คัน และหนึ่งในนั้นได้ขับรถจักรยานยนต์ขวางหน้ารถแท็กซี่เพื่อให้จอด จากนั้นกลุ่มของผู้ก่อเหตุได้เปิดประตูรถแท็กซี่เข้ามาและใช้อาวุธมีด ไม้ และเหล็กเข้ารุมทำร้ายผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ สาเหตุ น่าจะเกิดจากการมีปากเสียงกันในร้านอาหาร เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุ และรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ

ต่อมา พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รอง ผบช.ภ.1 ได้มาประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนของ กองบังคับการสืบสวน ภ.1 ,กองกำกับการสืบสวน ภ.จว.ปทุมธานี และ สภ.คูคต ให้เร่งรัดสืบสวน ติดตามจับกุมตัวคนร้ายให้ได้ ซึ่งจากการร่วมกันบูรณาการสืบสวน สอบสวน แล้วทราบว่า คนร้ายที่ก่อเหตุมีจำนวน 11 คน ปรากฏตามรายชื่อที่ระบุไว้ในข้างต้น

และเมื่อวันที่ 5 – 6 กรกฎาคม 2560 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการจับกุมตัวผู้ต้องหาตามหมายจับที่ก่อเหตุในคดีนี้ จำนวน 10 คน พร้อมของกลางคือ รถจักรยานยนต์ จำนวน 6 คัน ที่ผู้ต้องหาใช้เป็นยานพาหนะในการก่อเหตุ , อาวุธมีด จำนวน 2 เล่ม , ท่อนไม้ จำนวน 1 ท่อน รวมถึงเสื้อผ้าที่ผู้ต้องหาได้สวมใส่ในขณะก่อเหตุ ไว้เป็นหลักฐานในคดี

ทั้งนี้ผู้ต้องหาอีกหนึ่งรายที่ยังไม่ถูกจับกุม คือ นายเบนซ์ (ไม่ทราบชื่อ – นามสกุลจริง) นั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้เร่งดำเนินการติดตามและจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสิบคน พร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.คูคต เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.