“ศานิตย์” ลุยแจ้ง 4 ข้อหาหนักโจ๋แก๊ง “ยันหว่าง” รุมยำตำรวจ สน.สายไหม ถึงบนโรงพัก ด้านพ่อไล่จวกตำรวจ หลังปล่อยให้ลูก-หลานโดนยำ ยันเป็นคนดีแค่ใจร้อน
จากกรณีเหตุการณ์ที่มีกลุ่มชายอาการคล้ายมึนเมาเข้าด่าทอ ทำร้ายร่างกาย และมีท่าทางไม่เหมาะสมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.สายไหม ทั้งที่ปั๊มน้ำมัน และยังอาละวาดถึงบนโรงพัก จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ไปทั่วสังคมตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้ากรณีดังกล่าวล่าสุด เมื่อวันที่ 6 ก.ค. พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. ได้เดินทางมาติดตามความคืบหน้าคดีที่ สน.สานไหม พร้อมเผยว่า ตนเดินทางมาตรวจสอบรายละเอียดของคดีดังกล่าว ที่มีผู้ต้องหาคือ นายโสภณ โกสินทร์ อายุ 36 ปี นายรัตนเทพ ชัยปราณีเดช อายุ 21 ปี นายปกรณ์ ชูวงค์ อายุ 24 ปี และนายสิทธิชัย โสลุน อายุ 24 ปี ซึ่งร่วมกันก่อเหตุทำร้ายเจ้าหน้าที่ ที่ปั๊มน้ำมัน ซึ่งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ตนพร้อมให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และขอให้กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่มีความอดทน อดกลั้น โดยจากการสอบถามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ดังกล่าวยืนยันว่าไม่ได้มีเจ้าหน้าที่รายใดใช้กำลังกับทางกลุ่มผู้ก่อเหตุแต่อย่างใด
ด้าน นายสัมพันธ์ ทับหิรัญ อายุ 47 ปี พ่อของนายอดิสร และเป็นน้าชายของนายโสภณ กล่าวว่า จากการสอบถามหลานชายถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทราบว่า กลุ่มเพื่อนของลูกชายไม่พอใจที่ถูกเจ้าของปั๊มต่อว่าอย่างรุนแรง ที่ไม่ให้สูบบุหรี่จนเกิดเรื่องขึ้น แต่ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่เป็นคนเริ่มใช้ความรุนแรงก่อน จนมีกลุ่มอาสาที่ลูกและหลานตน มีเรื่องด้วยตามมาถึง สน.และเข้ารุมทำร้ายที่บริเวณหน้า สน. ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจกก็ไม่เข้ามาช่วยเหลือ มีเพียงเจ้าหน้าที่ทหารที่เข้ามาควบคุมสถานการณ์ โดยกลุ่มเจ้าหน้าที่อาสาสมัครซึ่งเป็นคู่กรณีก็หลบหนีไป กลายเป็นกลุ่มของหลานชายเท่านั้น ที่ถูกดำเนินคดี อีกทั้งยังไม่ยอมให้ทางญาติแจ้งความเอาผิดกับคู่กรณีในทันที และให้หลานชายไปทำแผลเบื้องต้น ก่อนที่จะนำตัวกลับมาคุมขังต่อแล้วจึงส่งตัวไปยังโรงพยาบาลในภายหลัง ตนอยากเรียกร้องความเป็นธรรมให้หลานชาย เพราะเขาเป็นคนดี ขยันทำมาหากิน ไม่ใช่วัยรุ่นเที่ยวเตร่ เสพยาเสพติด แต่เป็นคนใจร้อน หากไม่ผิดก็จะไม่ยอม ส่วนเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ ก็พร้อมที่จะยอมรับและดำเนินการตามข้อเท็จจริง
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่คัดค้านการประกันตัว 4 ผู้ต้องหาในชั้นพนักงานสอบสวน พร้อมแจ้งข้อหา ดูหมิ่นเจ้าพนักงาน, ต่อสู้และขัดขว้างการจับกุม ,ใช้กำลังประทุษร้ายเจ้าพนักงาน , ลักทรัพย์ , ข่มขืนใจเจ้าพนักงาน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวยังรายงานอีกว่า สำหรับประวัติกลุ่มผู้ก่อเหตุดังกล่าวนั้น เป็นสมาชิกของแก๊ง “ยันหว่าง” ซึ่งเป็นกลุ่มวัยรุ่นที่มีการรวมตัวกันในพื้นที่และเคยก่อเหตุยิงคนตายมาแล้ว ที่ซอยสายไหม34 เมื่อเดือนพ.พ.ที่ผ่านมา อีกทั้งนายโสภณ ก็เคยมีประวัติเมาแล้วขับ ทำลายทรัพย์สิน และขัดขวางการจับกุมมาแล้ว 4 ครั้ง ส่วน 3 คนที่เหลือไม่พบประวัติการกระทำความผิดแต่อย่างใด.
ขอขอบคุณข้อมูล/ภาพ เดลินิวส์
November 24, 2024
November 21, 2024
ชื่อ-สกุล*
อีเมล์*
เว็ปไซต์
แสดงความคิดเห็น
Notify me of follow-up comments by email.
Notify me of new posts by email.
Δ
‘ศานิตย์’ ลุยแจ้งข้อหาหนัก 4โจ๋ ด้านพ่อยันลูกเป็นคนดี
“ศานิตย์” ลุยแจ้ง 4 ข้อหาหนักโจ๋แก๊ง “ยันหว่าง” รุมยำตำรวจ สน.สายไหม ถึงบนโรงพัก ด้านพ่อไล่จวกตำรวจ หลังปล่อยให้ลูก-หลานโดนยำ ยันเป็นคนดีแค่ใจร้อน
จากกรณีเหตุการณ์ที่มีกลุ่มชายอาการคล้ายมึนเมาเข้าด่าทอ ทำร้ายร่างกาย และมีท่าทางไม่เหมาะสมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.สายไหม ทั้งที่ปั๊มน้ำมัน และยังอาละวาดถึงบนโรงพัก จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ไปทั่วสังคมตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้ากรณีดังกล่าวล่าสุด เมื่อวันที่ 6 ก.ค. พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. ได้เดินทางมาติดตามความคืบหน้าคดีที่ สน.สานไหม พร้อมเผยว่า ตนเดินทางมาตรวจสอบรายละเอียดของคดีดังกล่าว ที่มีผู้ต้องหาคือ นายโสภณ โกสินทร์ อายุ 36 ปี นายรัตนเทพ ชัยปราณีเดช อายุ 21 ปี นายปกรณ์ ชูวงค์ อายุ 24 ปี และนายสิทธิชัย โสลุน อายุ 24 ปี ซึ่งร่วมกันก่อเหตุทำร้ายเจ้าหน้าที่ ที่ปั๊มน้ำมัน ซึ่งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ตนพร้อมให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และขอให้กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่มีความอดทน อดกลั้น โดยจากการสอบถามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ดังกล่าวยืนยันว่าไม่ได้มีเจ้าหน้าที่รายใดใช้กำลังกับทางกลุ่มผู้ก่อเหตุแต่อย่างใด
ด้าน นายสัมพันธ์ ทับหิรัญ อายุ 47 ปี พ่อของนายอดิสร และเป็นน้าชายของนายโสภณ กล่าวว่า จากการสอบถามหลานชายถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทราบว่า กลุ่มเพื่อนของลูกชายไม่พอใจที่ถูกเจ้าของปั๊มต่อว่าอย่างรุนแรง ที่ไม่ให้สูบบุหรี่จนเกิดเรื่องขึ้น แต่ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่เป็นคนเริ่มใช้ความรุนแรงก่อน จนมีกลุ่มอาสาที่ลูกและหลานตน มีเรื่องด้วยตามมาถึง สน.และเข้ารุมทำร้ายที่บริเวณหน้า สน. ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจกก็ไม่เข้ามาช่วยเหลือ มีเพียงเจ้าหน้าที่ทหารที่เข้ามาควบคุมสถานการณ์ โดยกลุ่มเจ้าหน้าที่อาสาสมัครซึ่งเป็นคู่กรณีก็หลบหนีไป กลายเป็นกลุ่มของหลานชายเท่านั้น ที่ถูกดำเนินคดี อีกทั้งยังไม่ยอมให้ทางญาติแจ้งความเอาผิดกับคู่กรณีในทันที และให้หลานชายไปทำแผลเบื้องต้น ก่อนที่จะนำตัวกลับมาคุมขังต่อแล้วจึงส่งตัวไปยังโรงพยาบาลในภายหลัง ตนอยากเรียกร้องความเป็นธรรมให้หลานชาย เพราะเขาเป็นคนดี ขยันทำมาหากิน ไม่ใช่วัยรุ่นเที่ยวเตร่ เสพยาเสพติด แต่เป็นคนใจร้อน หากไม่ผิดก็จะไม่ยอม ส่วนเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ ก็พร้อมที่จะยอมรับและดำเนินการตามข้อเท็จจริง
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่คัดค้านการประกันตัว 4 ผู้ต้องหาในชั้นพนักงานสอบสวน พร้อมแจ้งข้อหา ดูหมิ่นเจ้าพนักงาน, ต่อสู้และขัดขว้างการจับกุม ,ใช้กำลังประทุษร้ายเจ้าพนักงาน , ลักทรัพย์ , ข่มขืนใจเจ้าพนักงาน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวยังรายงานอีกว่า สำหรับประวัติกลุ่มผู้ก่อเหตุดังกล่าวนั้น เป็นสมาชิกของแก๊ง “ยันหว่าง” ซึ่งเป็นกลุ่มวัยรุ่นที่มีการรวมตัวกันในพื้นที่และเคยก่อเหตุยิงคนตายมาแล้ว ที่ซอยสายไหม34 เมื่อเดือนพ.พ.ที่ผ่านมา อีกทั้งนายโสภณ ก็เคยมีประวัติเมาแล้วขับ ทำลายทรัพย์สิน และขัดขวางการจับกุมมาแล้ว 4 ครั้ง ส่วน 3 คนที่เหลือไม่พบประวัติการกระทำความผิดแต่อย่างใด.
ขอขอบคุณข้อมูล/ภาพ เดลินิวส์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาคที่ 2 ช่วยเหลือเหตุเรืออับปางในทะเล บริเวณทางทิศตะวันออกของร่องน้ำสงขลา
November 24, 2024
JUBILEE DIAMOND ฉลองครบรอบ 95 ปี เปิดบ้าน THE ...
November 24, 2024
โรงไฟฟ้าขนอม ร่วมสืบสานประเพณีลอยกระทง สร้างความสุขทั่วอำเภอขนอม
November 21, 2024
โรงไฟฟ้าขนอม ร่วมส่งเสริมสุขภาพชุมชน สนับสนุนอบรม อสม.ใหม่/ทดแทน
November 21, 2024