วันที่ 16 มิถุนายน 2560 ณ ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสงขลา ถนนนางงาม อําเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา มีนายอนุรัฐ ไทยตรง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานในพิธีเปิด พร้อมด้วยนายนิพนธ์ บุญญามณี นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา ดร. สมศักดิ์ ตันติเศรณี นายกเทศมนตรีนครสงขลา นายกีรติ เอื้อวิวัฒน์สกุล นายกสมาคมฮกเกี้ยนอำเภอเมืองสงขลา พร้อมด้วยนายไพโรจน์สุวรรณจินดารองนายกเทศมนตรีนครสงขลาคณะผู้บริหารเทศบาล สมาชิกสภาเทศบาล พนักงาน ร่วมกิจกรรม
โดยศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสงขลา ถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนไทยเชื้อสายจีนทั้งในพื้นที่จังหวัดสงขลาและจังหวัดใกล้เคียง ซึ่งได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของกรมศิลปากร นับจากอดีตถึงปัจจุบัน ทุกๆ ปีของช่วงเทศกาลตรุษจีนและวันคล้ายวันเกิดของเจ้าพ่อหลักเมืองจะมีการจัดงานเฉลิมฉลอง โดยในปีนี้เทศบาลนครสงขลาได้ร่วมกับจังหวัดสงขลา สมาคมฮกเกี้ยนอำเภอเมืองสงขลา คณะกรรมการศาลเจ้าพ่อหลักเมือง คณะกรรมการชุมชนย่านเมืองเก่า ภาคีคนรักเมืองสงขลาสมาคม สถาบันการศึกษา ตลอดจนหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชนในพื้นที่ ร่วมกันจัดงาน “สมโภช 175 ปี เจ้าพ่อหลักเมืองสงขลา” และเทศกาลเมืองเก่าสงขลา ขึ้น ระหว่างวันที่ 16 – 22 มิถุนายน 2560 เพื่อเป็นการสืบทอดวัฒนธรรมและประเพณีท้องถิ่นอันดีงาม เป็นการฟื้นฟูการค้าขาย และกระตุ้นเศรษฐกิจระดับเมือง โดยมีเป้าหมายหลัก คือ ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้มีโอกาสสักการบูชาเจ้าพ่อหลักเมืองสงขลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งได้ร่วมกันจัดงานสมโภชศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสงขลาปีละ 1 ครั้ง
สำหรับกิจกรรมภายในงานมีกิจกรรมงานถนนคนเดินนางงาม ยามค่ำคืน ร่วมฟังเรื่องเล่า แต่แรก รับฟังการเสวนา “สงขลาสู่เมืองมรดกโลก” พร้อมกิจกรรมไหว้พระหลักเมือง ชิมของหรอยเมืองบ่อยาง การแสดงริมถนน ชมขบวนแห่พระรอบเมือง ภาคกลางคืน พิธีเวียนเทียนสะเดาะเคราะห์ เสริมดวงชะตา กิจกรรมการแสดงบนเวที และการแสดงอุปรากรจีน (งิ้ว) ในช่วงกลางคืนของทุกวัน นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรม “อิ่มท้อง อิ่มบุญ 9 ห้อง 9 บาท”ในวันที่ 21 มิถุนายนนี้ ซึ่งถือเป็นคล้ายวันประสูติเจ้าพ่อหลักเมืองสงขลา ณ ถนนหนองจิก ตรงข้ามกับศาลเทพเจ้ากวนอู ซึ่งจะมีหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน นำอาหารและเครื่องดื่มมาร่วมจำหน่ายในราคา 9 บาท และรายได้ทั้งหมดจะนำไปทำบุญและทำนุบำรุงศาลหลักเมืองสงขลาต่อไป
ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสงขลา เป็นศาลเก่าแก่ที่อยู่คู่เมืองสงขลามายาวนานถึง 175 ปี ตั้งอยู่บนถนนนางงาม ซึ่งในอดีตเป็นที่อยู่อาศัยและย่านการค้าเก่าแก่แห่งหนึ่งของชาวจีนในจังหวัดสงขลา ศาลหลักเมืองก่อสร้างในสมัยพระยาวิเชียรคีรี (เถี้ยนเส้ง ณ สงขลา) ผู้สำเร็จราชการเมืองสงขลาในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานหลักเมือง ทำด้วยไม้ชัยพฤกษ์ ที่ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ในปี พ.ศ. 2385 โดยทรงพระราชทานไม้ชัยพฤกษ์หลักชัยต้นหนึ่ง และเทียนชัยเล่มหนึ่ง พร้อมด้วยเครื่องไทยทานต่างๆ และโปรดเกล้าฯ ให้พระอุดมปิฏก ออกไปเป็นประธานด้านพุทธพิธี พร้อมด้วยฐานานุกรมเปรียญ 8 รูป และโปรดเกล้าฯ ให้พระครูอัฏฏาจารย์พราหมณ์ออกไปเป็นประธานฝ่ายพิธีพราหมณ์ 8 นาย งานฝังหลักชัยเริ่มด้วยพระยาวิเชียรคีรี (เถี้ยนเส้ง ณ สงขลา) ผู้สำเร็จราชการเมืองสงขลา ได้เกณฑ์กรมการและไพร่ จัดการทำโรงพิธีใหญ่ขึ้นกลางเมืองสงขลา คือ หน้าศาลเจ้าหลักเมือง ถนนนางงาม โดยตั้งโรงพิธี 4 ทิศ ในวันพิธีได้จัดขบวนแห่หลักไม้ชัยพฤกษ์กับเทียนชัยเป็นขบวนใหญ่ มีทั้งชาวจีนและชาวไทย แห่ไปยังโรงพิธีพระสงฆ์ราชา คณะฐานานุกรมเจริญพระปริตร พร้อมกับพระครูสวดตามไสยเวท เมื่อได้เวลาอุดมฤกษ์ เดือน 4 ขึ้น 10 ค่ำ ปีขาล จัตวาศก จุลศักราช 1204 (พ.ศ.2385) เวลา 7 นาฬิกา 10 นาที ตรงกับวันศุกร์ที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2385 พระยาวิเชียรคีรี (เถี้ยนเส้ง ณ สงขลา) กับพระครูอัษฏาจารย์พราหมณ์ ได้อัญเชิญหลักไม้ชัยพฤกษ์ลงฝังที่ใจกลางเมืองสงขลา ซึ่งเรียกกันว่า “หลักเมือง” จากนั้นได้ให้ช่างสร้างตึกคร่อมหลักเมืองไว้ 3 หลัง เป็นทรงจีนและสร้างศาลเจ้าเสื้อเมืองอีกหนึ่งหลัง ต่อมาในปีพ.ศ. 2460 ในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอเจ้าฟ้ากรมขุนลพบุรีราเมศวร์ อุปราชมณฑลปักษ์ใต้ ได้มีลายพระหัตถ์แจ้งว่าหลักเมืองจังหวัดสงขลาปลวกกัดชำรุด พ่อค้าและประชาชนจังหวัดสงขลา ช่วยกันออกเงินทำเสาหลักเมืองด้วยซีเมนต์คอนกรีต เพื่อจะได้อยู่อย่างถาวร อุดมฤกษ์ในการวางเสาหลักเมือง ตรงกับวันศุกร์ที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2460 ตรงกับเดือน 4 แรม 4 ค่ำ เวลา 7 นาฬิกา 22 นาที 36 วินาที ก่อนเที่ยง โหร 4 คน ถือก้อนดินยืนประจำทั้ง 4 ทิศ แล้ววางก้อนดินลงในหลุมหลักเมือง จากนั้นจึงเชิญเสาหลักลงหลุมแล้วกลบดินเป็นปฐมฤกษ์ จนถึงเวลา 8 นาฬิกา กับ 41 นาที 36 วินาที ก่อนเที่ยง ถือเป็นฤกษ์ดีที่สุด เสาหลักเมือง จึงเป็นสถานที่อันสำคัญ ที่อยู่คู่เมืองสงขลา เป็นศูนย์รวมจิตใจ และเป็นที่เคารพสักการะของชาวไทยทุกเชื้อชาทศติในจังหวัดสงขลา ตจทุกวันนี้ กรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียนศาลเจ้าหลักเมือง.
เว็บไซต์ Bankaonews.com
December 5, 2025
December 4, 2025
December 3, 2025
ชื่อ-สกุล*
อีเมล์*
เว็ปไซต์
แสดงความคิดเห็น
Notify me of follow-up comments by email.
Notify me of new posts by email.
Δ
บรรยากาศพิธีเปิดงานสมโภช 175 ปี เจ้าพ่อหลักเมืองสงขลา ประจำปี 2560
วันที่ 16 มิถุนายน 2560 ณ ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสงขลา ถนนนางงาม อําเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา มีนายอนุรัฐ ไทยตรง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานในพิธีเปิด พร้อมด้วยนายนิพนธ์ บุญญามณี นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา ดร. สมศักดิ์ ตันติเศรณี นายกเทศมนตรีนครสงขลา นายกีรติ เอื้อวิวัฒน์สกุล นายกสมาคมฮกเกี้ยนอำเภอเมืองสงขลา พร้อมด้วยนายไพโรจน์สุวรรณจินดารองนายกเทศมนตรีนครสงขลาคณะผู้บริหารเทศบาล สมาชิกสภาเทศบาล พนักงาน ร่วมกิจกรรม
โดยศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสงขลา ถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนไทยเชื้อสายจีนทั้งในพื้นที่จังหวัดสงขลาและจังหวัดใกล้เคียง ซึ่งได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของกรมศิลปากร นับจากอดีตถึงปัจจุบัน ทุกๆ ปีของช่วงเทศกาลตรุษจีนและวันคล้ายวันเกิดของเจ้าพ่อหลักเมืองจะมีการจัดงานเฉลิมฉลอง โดยในปีนี้เทศบาลนครสงขลาได้ร่วมกับจังหวัดสงขลา สมาคมฮกเกี้ยนอำเภอเมืองสงขลา คณะกรรมการศาลเจ้าพ่อหลักเมือง คณะกรรมการชุมชนย่านเมืองเก่า ภาคีคนรักเมืองสงขลาสมาคม สถาบันการศึกษา ตลอดจนหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชนในพื้นที่ ร่วมกันจัดงาน “สมโภช 175 ปี เจ้าพ่อหลักเมืองสงขลา” และเทศกาลเมืองเก่าสงขลา ขึ้น ระหว่างวันที่ 16 – 22 มิถุนายน 2560 เพื่อเป็นการสืบทอดวัฒนธรรมและประเพณีท้องถิ่นอันดีงาม เป็นการฟื้นฟูการค้าขาย และกระตุ้นเศรษฐกิจระดับเมือง โดยมีเป้าหมายหลัก คือ ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้มีโอกาสสักการบูชาเจ้าพ่อหลักเมืองสงขลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งได้ร่วมกันจัดงานสมโภชศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสงขลาปีละ 1 ครั้ง
สำหรับกิจกรรมภายในงานมีกิจกรรมงานถนนคนเดินนางงาม ยามค่ำคืน ร่วมฟังเรื่องเล่า แต่แรก รับฟังการเสวนา “สงขลาสู่เมืองมรดกโลก” พร้อมกิจกรรมไหว้พระหลักเมือง ชิมของหรอยเมืองบ่อยาง การแสดงริมถนน ชมขบวนแห่พระรอบเมือง ภาคกลางคืน พิธีเวียนเทียนสะเดาะเคราะห์ เสริมดวงชะตา กิจกรรมการแสดงบนเวที และการแสดงอุปรากรจีน (งิ้ว) ในช่วงกลางคืนของทุกวัน นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรม “อิ่มท้อง อิ่มบุญ 9 ห้อง 9 บาท”ในวันที่ 21 มิถุนายนนี้ ซึ่งถือเป็นคล้ายวันประสูติเจ้าพ่อหลักเมืองสงขลา ณ ถนนหนองจิก ตรงข้ามกับศาลเทพเจ้ากวนอู ซึ่งจะมีหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน นำอาหารและเครื่องดื่มมาร่วมจำหน่ายในราคา 9 บาท และรายได้ทั้งหมดจะนำไปทำบุญและทำนุบำรุงศาลหลักเมืองสงขลาต่อไป
ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสงขลา เป็นศาลเก่าแก่ที่อยู่คู่เมืองสงขลามายาวนานถึง 175 ปี ตั้งอยู่บนถนนนางงาม ซึ่งในอดีตเป็นที่อยู่อาศัยและย่านการค้าเก่าแก่แห่งหนึ่งของชาวจีนในจังหวัดสงขลา ศาลหลักเมืองก่อสร้างในสมัยพระยาวิเชียรคีรี (เถี้ยนเส้ง ณ สงขลา) ผู้สำเร็จราชการเมืองสงขลาในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานหลักเมือง ทำด้วยไม้ชัยพฤกษ์ ที่ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ในปี พ.ศ. 2385 โดยทรงพระราชทานไม้ชัยพฤกษ์หลักชัยต้นหนึ่ง และเทียนชัยเล่มหนึ่ง พร้อมด้วยเครื่องไทยทานต่างๆ และโปรดเกล้าฯ ให้พระอุดมปิฏก ออกไปเป็นประธานด้านพุทธพิธี พร้อมด้วยฐานานุกรมเปรียญ 8 รูป และโปรดเกล้าฯ ให้พระครูอัฏฏาจารย์พราหมณ์ออกไปเป็นประธานฝ่ายพิธีพราหมณ์ 8 นาย งานฝังหลักชัยเริ่มด้วยพระยาวิเชียรคีรี (เถี้ยนเส้ง ณ สงขลา) ผู้สำเร็จราชการเมืองสงขลา ได้เกณฑ์กรมการและไพร่ จัดการทำโรงพิธีใหญ่ขึ้นกลางเมืองสงขลา คือ หน้าศาลเจ้าหลักเมือง ถนนนางงาม โดยตั้งโรงพิธี 4 ทิศ ในวันพิธีได้จัดขบวนแห่หลักไม้ชัยพฤกษ์กับเทียนชัยเป็นขบวนใหญ่ มีทั้งชาวจีนและชาวไทย แห่ไปยังโรงพิธีพระสงฆ์ราชา คณะฐานานุกรมเจริญพระปริตร พร้อมกับพระครูสวดตามไสยเวท เมื่อได้เวลาอุดมฤกษ์ เดือน 4 ขึ้น 10 ค่ำ ปีขาล จัตวาศก จุลศักราช 1204 (พ.ศ.2385) เวลา 7 นาฬิกา 10 นาที ตรงกับวันศุกร์ที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2385 พระยาวิเชียรคีรี (เถี้ยนเส้ง ณ สงขลา) กับพระครูอัษฏาจารย์พราหมณ์ ได้อัญเชิญหลักไม้ชัยพฤกษ์ลงฝังที่ใจกลางเมืองสงขลา ซึ่งเรียกกันว่า “หลักเมือง” จากนั้นได้ให้ช่างสร้างตึกคร่อมหลักเมืองไว้ 3 หลัง เป็นทรงจีนและสร้างศาลเจ้าเสื้อเมืองอีกหนึ่งหลัง ต่อมาในปีพ.ศ. 2460 ในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอเจ้าฟ้ากรมขุนลพบุรีราเมศวร์ อุปราชมณฑลปักษ์ใต้ ได้มีลายพระหัตถ์แจ้งว่าหลักเมืองจังหวัดสงขลาปลวกกัดชำรุด พ่อค้าและประชาชนจังหวัดสงขลา ช่วยกันออกเงินทำเสาหลักเมืองด้วยซีเมนต์คอนกรีต เพื่อจะได้อยู่อย่างถาวร อุดมฤกษ์ในการวางเสาหลักเมือง ตรงกับวันศุกร์ที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2460 ตรงกับเดือน 4 แรม 4 ค่ำ เวลา 7 นาฬิกา 22 นาที 36 วินาที ก่อนเที่ยง โหร 4 คน ถือก้อนดินยืนประจำทั้ง 4 ทิศ แล้ววางก้อนดินลงในหลุมหลักเมือง จากนั้นจึงเชิญเสาหลักลงหลุมแล้วกลบดินเป็นปฐมฤกษ์ จนถึงเวลา 8 นาฬิกา กับ 41 นาที 36 วินาที ก่อนเที่ยง ถือเป็นฤกษ์ดีที่สุด เสาหลักเมือง จึงเป็นสถานที่อันสำคัญ ที่อยู่คู่เมืองสงขลา เป็นศูนย์รวมจิตใจ และเป็นที่เคารพสักการะของชาวไทยทุกเชื้อชาทศติในจังหวัดสงขลา ตจทุกวันนี้ กรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียนศาลเจ้าหลักเมือง.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
มูลนิธินายช่างไทยฯ ผนึกกำลังจิตอาสา กฟผ. ระดมกำลังเร่งฟื้นฟูระบบไฟฟ้าในพื้นที่ประสบอุทกภัย จ.สงขลา
December 5, 2025
ท่าอากาศยานหาดใหญ่ (ทหญ.) จัดการแสดงดนตรีบรรเลงเพลงพระราชนิพนธ์ เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ...
December 4, 2025
ท่าอากาศยานหาดใหญ่ส่งต่อถุงยังชีพ AOT ให้ชุมชนรอบสนามบิน
December 3, 2025
โรงเรียน นานาชาติ The American School of Bangkok ...
December 3, 2025