พญาเสือ-พยัคฆ์ไพร-ฉลามขาว เปิดปฏิบัติการทวงคืนผืนป่า นำกำลัง ปูพรมจัดระเบียบแพพักริมอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ เจอปล่อยน้ำเสีย รุกอุทยานฯ ไหวตัวลากหนี ใช้ไม้สักหรูก่อสร้าง ลุยตรวจสอบเรือสำราญ และไม้สัก 700 ท่อนแช่น้ำ
เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. นายฐิติ โสมภีร์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ กล่าวถึงแผนปฏิบัติการทวงคืนผืนป่า และผืนป่าอนุรักษ์ ตามภารกิจ พญาเสือ 60 เพื่อตรวจสอบแพพักและรีสอร์ท ในเขตอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ทั้งหมด โดยมีนายยรรยง เลขาวิจิตร ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าหน่วยเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษ ผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่า (หน.ชุดพญาเสือ) เจ้าหน้าที่ชุดพยัคฆ์ไพร (กรมป่าไม้) เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษฉลามขาว (กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง) พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำกำลังกว่า 100 นายเข้าร่วมปฏิบัติการ ระหว่างวันที่ 1-2 มิ.ย. รวม 2 วัน
สำหรับวันแรกได้เปิดปฏิบัติการทวงคืนผืนป่า ริมอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ บ้านเจาะเลาะ ต.นาสวน อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี ในพื้นที่เป้าหมาย 3 จุด บริเวณที่ 1 บ้านปลายนาสวน หมู่ 1 บริเวณที่ 2 บ้านเจาะเหลาะ หมู่ที่ 5 และบริเวณที่ 3 บ้านน้ำพุ (น้ำเอ่อ) หมู่ที่ 2 ต.นาสวน ทั้งนี้ได้พบแพพักจำนวน 3 แห่ง ไม่ถูกสุขลักษณะมีการปล่อยน้ำเสียลงแหล่งน้ำ โดยไม่มีการบำบัดและทิ้งสิ่งปฏิกูลในเขตอุทยานฯจึงได้ทำการเปรียบเทียบปรับ ตามมาตรา 16 มาตรา 18 และมาตรา 28 แห่ง พรบ.อุทยานฯ ระวางโทษเปรียบเทียบปรับไม่เกิน 1,000 บาท
นอกจากนี้ยังพบแพอีก 1 แห่ง เข้าไปหาประโยชน์ในเขตอุทยานฯ โดยไม่ได้รับอนุญาต มีความผิดตาม ม.16 ม.17 ม.28 พ.ร.บ. อุทยานฯ จึงได้เปรียบเทียบปรับไม่เกิน 500 บาท อีกรายตรวจยึดแพ 2 ชั้นทำจากไม้สักเกือบทั้งหลัง ได้ต่อแพขึ้นมาใหม่ในเขตอุทยานฯ โดยไม่มีการขออนุญาต ซึ่งไม้พื้นทำจากไม้สัก และมีบางส่วนเป็นไม้เรือนเก่า เช่น ไม้ประดู่ ไม้แดง ฯลฯ ซึ่งผู้ดูแลได้นำหนังสือกำกับไม้แปรรูปจำนวน 7 ใบมาแสดง จึงได้ทำการตรวจยึดดำเนินคดีแพดังกล่าว ส่วนไม้ที่นำมาก่อสร้างแพ จะทำการตรวจสอบที่มาว่าถูกต้องหรือไม่
ส่วนพื้นที่บ้านน้ำพุ พบว่าแพหลายราย ได้เคลื่อนย้ายหลบหนีการตรวจสอบไปอยู่ที่ ต.ท่ากระดาน อ.ศรีสวัสดิ์ ซึ่งหากนำกลับเข้ามาในพื้นที่อุทยานฯอีก ทางเจ้าหน้าที่จะทำการจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมาย
ทั้งนี้การตรวจสอบแพ มีวัตถุประสงค์เพื่อจัดระเบียบแพพักให้มีความเหมาะสมภายใต้ พ.ร.บ.อุทยานฯ จากนั้นคณะทั้งหมดได้เจ้าตรวจสอบที่ภูฟ้าอิงน้ำ รีสอร์ท หมู่ 5 ต.นาสวน ซึ่งถูกจับดำเนินคดี ตั้งแต่ ปี 2551 จนคดีสิ้นสุด จึงเข้าไปประสานให้รื้อถอนภายใน 30 วัน ก่อนเดินทางไปจุดจอดเรือท่องเที่ยว หรือเรือสำราญทำจากเหล็กสามชั้นขนาดใหญ่ 2 ลำที่จอดในพื้นที่หมู่ 3 ต.ด่านแม่แฉลบ และตรวจสอบกองไม้สัก 700 ท่อนที่ถูกขนไปแช่น้ำไว้ขอบอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรันครินทร์ ซึ่งเจ้าของเรือและไม้สัก ต่างแจ้งว่ามีเอกสารการครอบครองถูกต้องจะนำมาแสดงในวันศุกร์ที่ 2 มิ.ย.นี้.
■ Cr.thairath.
December 5, 2025
December 4, 2025
December 3, 2025
ชื่อ-สกุล*
อีเมล์*
เว็ปไซต์
แสดงความคิดเห็น
Notify me of follow-up comments by email.
Notify me of new posts by email.
Δ
ชุดพญาเสือ-พยัคฆ์ไพร-ฉลามขาว ลุยจัดระเบียบแพพัก เขื่อนศรีนครินทร์
พญาเสือ-พยัคฆ์ไพร-ฉลามขาว เปิดปฏิบัติการทวงคืนผืนป่า นำกำลัง ปูพรมจัดระเบียบแพพักริมอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ เจอปล่อยน้ำเสีย รุกอุทยานฯ ไหวตัวลากหนี ใช้ไม้สักหรูก่อสร้าง ลุยตรวจสอบเรือสำราญ และไม้สัก 700 ท่อนแช่น้ำ
เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. นายฐิติ โสมภีร์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ กล่าวถึงแผนปฏิบัติการทวงคืนผืนป่า และผืนป่าอนุรักษ์ ตามภารกิจ พญาเสือ 60 เพื่อตรวจสอบแพพักและรีสอร์ท ในเขตอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ทั้งหมด โดยมีนายยรรยง เลขาวิจิตร ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าหน่วยเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษ ผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่า (หน.ชุดพญาเสือ) เจ้าหน้าที่ชุดพยัคฆ์ไพร (กรมป่าไม้) เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษฉลามขาว (กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง) พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำกำลังกว่า 100 นายเข้าร่วมปฏิบัติการ ระหว่างวันที่ 1-2 มิ.ย. รวม 2 วัน
สำหรับวันแรกได้เปิดปฏิบัติการทวงคืนผืนป่า ริมอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ บ้านเจาะเลาะ ต.นาสวน อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี ในพื้นที่เป้าหมาย 3 จุด บริเวณที่ 1 บ้านปลายนาสวน หมู่ 1 บริเวณที่ 2 บ้านเจาะเหลาะ หมู่ที่ 5 และบริเวณที่ 3 บ้านน้ำพุ (น้ำเอ่อ) หมู่ที่ 2 ต.นาสวน ทั้งนี้ได้พบแพพักจำนวน 3 แห่ง ไม่ถูกสุขลักษณะมีการปล่อยน้ำเสียลงแหล่งน้ำ โดยไม่มีการบำบัดและทิ้งสิ่งปฏิกูลในเขตอุทยานฯจึงได้ทำการเปรียบเทียบปรับ ตามมาตรา 16 มาตรา 18 และมาตรา 28 แห่ง พรบ.อุทยานฯ ระวางโทษเปรียบเทียบปรับไม่เกิน 1,000 บาท
นอกจากนี้ยังพบแพอีก 1 แห่ง เข้าไปหาประโยชน์ในเขตอุทยานฯ โดยไม่ได้รับอนุญาต มีความผิดตาม ม.16 ม.17 ม.28 พ.ร.บ. อุทยานฯ จึงได้เปรียบเทียบปรับไม่เกิน 500 บาท อีกรายตรวจยึดแพ 2 ชั้นทำจากไม้สักเกือบทั้งหลัง ได้ต่อแพขึ้นมาใหม่ในเขตอุทยานฯ โดยไม่มีการขออนุญาต ซึ่งไม้พื้นทำจากไม้สัก และมีบางส่วนเป็นไม้เรือนเก่า เช่น ไม้ประดู่ ไม้แดง ฯลฯ ซึ่งผู้ดูแลได้นำหนังสือกำกับไม้แปรรูปจำนวน 7 ใบมาแสดง จึงได้ทำการตรวจยึดดำเนินคดีแพดังกล่าว ส่วนไม้ที่นำมาก่อสร้างแพ จะทำการตรวจสอบที่มาว่าถูกต้องหรือไม่
ส่วนพื้นที่บ้านน้ำพุ พบว่าแพหลายราย ได้เคลื่อนย้ายหลบหนีการตรวจสอบไปอยู่ที่ ต.ท่ากระดาน อ.ศรีสวัสดิ์ ซึ่งหากนำกลับเข้ามาในพื้นที่อุทยานฯอีก ทางเจ้าหน้าที่จะทำการจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมาย
ทั้งนี้การตรวจสอบแพ มีวัตถุประสงค์เพื่อจัดระเบียบแพพักให้มีความเหมาะสมภายใต้ พ.ร.บ.อุทยานฯ จากนั้นคณะทั้งหมดได้เจ้าตรวจสอบที่ภูฟ้าอิงน้ำ รีสอร์ท หมู่ 5 ต.นาสวน ซึ่งถูกจับดำเนินคดี ตั้งแต่ ปี 2551 จนคดีสิ้นสุด จึงเข้าไปประสานให้รื้อถอนภายใน 30 วัน ก่อนเดินทางไปจุดจอดเรือท่องเที่ยว หรือเรือสำราญทำจากเหล็กสามชั้นขนาดใหญ่ 2 ลำที่จอดในพื้นที่หมู่ 3 ต.ด่านแม่แฉลบ และตรวจสอบกองไม้สัก 700 ท่อนที่ถูกขนไปแช่น้ำไว้ขอบอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรันครินทร์ ซึ่งเจ้าของเรือและไม้สัก ต่างแจ้งว่ามีเอกสารการครอบครองถูกต้องจะนำมาแสดงในวันศุกร์ที่ 2 มิ.ย.นี้.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
มูลนิธินายช่างไทยฯ ผนึกกำลังจิตอาสา กฟผ. ระดมกำลังเร่งฟื้นฟูระบบไฟฟ้าในพื้นที่ประสบอุทกภัย จ.สงขลา
December 5, 2025
ท่าอากาศยานหาดใหญ่ (ทหญ.) จัดการแสดงดนตรีบรรเลงเพลงพระราชนิพนธ์ เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ...
December 4, 2025
ท่าอากาศยานหาดใหญ่ส่งต่อถุงยังชีพ AOT ให้ชุมชนรอบสนามบิน
December 3, 2025
โรงเรียน นานาชาติ The American School of Bangkok ...
December 3, 2025