ตำรวจหาดใหญ่จับกุมกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุใช้อาวุธปืน 2 กระบอกปล้นทรัพย์เหยื่อและทำร้ายได้รับบาดเจ็บ คาแฟลตหรูกลางเมืองหาดใหญ่ พร้อมของกลางครบชุด ภาพวงจรปิดขณะลงมือก่อเหตุมัดแน่นแจ้ง 4 ข้อหาหนัก

วันนี้ (29 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณี 3 คนร้ายขับรถจักรยานยนต์ ใช้อาวุธปืน 2 กระบอกปล้นและทำร้าย นายชัชพล มากสวัสดิ์ อายุ 25 ปี โดยใช้ปืนตีเข้าที่เบ้าตาจนคิ้วแตก และชิงกระเป๋าสะพายซึ่งมีโทรศัพท์มือถือไอโฟน 6 และเงินสด 1,200 บาทหลบหนีไปเหตุเกิด ที่ข้างห้างโลตัสเอกเพรส ปากซอยชื่นอุทิศพัฒนา ถนนพลพิชัย เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ เมื่อช่วง 02.30 น. คืนวันที่ 28 พฤษภาคม ที่ผ่านมา

ล่าสุดตำรวจ สภ.หาดใหญ่ นำโดย พ.ต.อ.กิตติชัย สังขถาวร ผกก.พ.ต.ท.เอกรัฐ สวนแสน รอง ผกก.สส. ร.ต.อ.อนันต์ สุคนธา รอง สว.สส. สามารถติดตามจับกุมคนร้ายได้แล้ว 2 คน ประกอบด้วย นายธนพัฒน์ หรือกาย สุขพัฒน์ อายุ 20 ปี ชาวจ.นราธิวาส และนายอลิส วิลาวัลย์ อายุ 19 ปี ชาวอ.หาดใหญ่ ขณะกบดานอยู่ที่ห้องพักหมายเลข 2212 ชั้น 22 แฟลตนภาลัย ถนนราษฎร์ยินดี เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ ส่วนคนร้ายอีกคนหลบหนีไปได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่รู้ตัวแล้วและกำลังเร่งติดตามจับกุม

โดยการจับกุมคนร้ายในคดีนี้เจ้าหน้าที่ตามแกะรอยหาเบาะแสจากภาพกล้องวงจรปิด ที่บันทึกภาพเหตุการณ์ขณะลงมือก่อเหตุได้อย่างชัดเจน รวมทั้งเส้นทางหลบหนีและพบว่าพักอยู่ที่แฟลตนภาลัย ซึ่งเป็นแฟลตหรูกลางเมืองหาดใหญ่ พร้อมกับยึดของกลางทั้งปืนกลมือซึ่งเป็นอาวุธสงครามได้ 1 กระบอก และกระสุน 11 มม. 4 นัด ปืนลูกโม่ขนาด .22 พร้อมกระสุน .22 อีก6 นัด รถจักรยานยนต์ฮอนด้าสกู๊ปปี้สีฟ้า-ขาว ไม่ติดแผนป้ายทะเบียนที่ขับก่อเหตุ บัตรประชาชาชนและบัตรเอทีเอ็มของ นายชัชพล ผู้เสียหาย ส่วนเงินสด 1,200 บาท และเงินที่ไปกดจากบัตรเอทีเอ็มของผู้เสียหายจากการสุ่มรหัสปีเกิดของบัตรประชาชนอีก 5,000 บาทได้นำไปแบ่งกันใช้จ่ายหมดแล้ว แต่โทรศัพท์มือถือไอโฟน 6 คนร้ายปฏิเสธว่าไม่ได้เอาไป

จากการสอบสวนคนร้ายทั้งสองคนยอมรับสารภาพ ในช่วงเกิดเหตุได้ตระเวนขับรถจักรยานยนต์กันมา 3 คนพร้อมอาวุธปืน 2 กระบอก ตระเวนหาเหยื่อเพื่อที่จะชิงทรัพย์และมาพบ นายชัชพล กำลังยืนคุยอยู่กับเพื่อนบริเวณจุดเกิดเหตุพอดี จึงจอดรถและลงไปทำร้ายโดยใช้อาวุธปืนตีเข้าตีใบหน้า เพื่อไม่ให้ขัดขืนหรือคิดต่อสู้ ก่อนที่จะแย่งกระเป๋าสะพายหลบหนีไป โดยเงินที่ได้บางส่วนจะนำไปใช้จ่ายรวมทั้งซื้อใบกระท่อมมาเสพ และบอกว่าเพิ่งทำเป็นครั้งแรก แต่เจ้าหน้าที่คาดว่าจากพฤติการณ์ในการลงมือก่อเหตุ เชื่อว่าน่าจะเป็นโจรอาชีพและก่อเหตุในลักษณะนี้มาแล้วหลายครั้ง

เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาดำเนินคดีใน 4 ข้อหาหนัก ทั้งร่วมกันปล้นทรัพย์ฯ, ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ, ร่วมกันพกพาอาวุธปืนฯ และร่วมกันมีและใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ.

โดย MGR Online