วันที่ 17 พฤษภาคม 2560 เวลา 08.30 นาฬิกา ณ ห้องกมลทิพย์ 1 และ 2 ชั้น 2 โรงแรม เดอะ สุโกศล กรุงเทพฯ คณะกรรมาธิการการคมนาคม สภานิติบัญญัติแห่งชาติ โดยคณะอนุกรรมาธิการศึกษาด้านโลจิสติกส์ จัดสัมมนาร่วมกับการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ในหัวข้อเรื่อง “ Eastern Economic Corridor and SEZs : The new investment opportunity in Thailand” โดยมี พลเอกวรพงษ์ สง่าเนตร รองประธานคณะกรรมาธิการการคมนาคม สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ในฐานะประธานอนุกรรมาธิการศึกษาด้านโลจิสติกส์ กล่าวรายงาน และพลโทจเรศักณิ์ อานุภาพ ประธานคณะกรรมาธิการการคมนาคม สภานิติบัญญัติแห่งชาติ กล่าวเปิดการสัมมนา
ทั้งนี้ การจัดสัมมนาดังกล่าวมีขึ้นเพื่อให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องรับทราบถึงความต้องการของภาคเอกชนที่เป็นสมาคมต่างชาติ นักลงทุนและนักธุรกิจชาวไทย ในการที่จะส่งเสริมการค้าและการลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor : EEC) และเขตพัฒนาเศรษฐกิจชายแดน เนื่องจากคณะกรรมาธิการการคมนาคมได้พิจารณาเห็นว่าแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบโลจิสติกส์ของไทย ฉบับที่ 2 (2556 – 2560) มีส่วนเกี่ยวข้องกับด้านคมนาคม คือ ยุทธศาสตร์ที่ 3 พัฒนาบริการขนส่งและเครือข่ายโลจิสติกส์ตามเส้นทางยุทธศาสตร์ ซึ่งทางคณะอนุกรรมาธิการฯ ได้มีการศึกษาเรื่องระบบโลจิสติกส์ของประเทศ เช่น เรื่องของการเชื่อมต่อของท่าเรือแหลมฉบัง ท่าเรือมาบตาพุดและด่านการค้าที่สำคัญต่างๆ โดยเน้นเรื่องการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ที่เชื่อมต่อพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน กับแหล่งการผลิตต่างๆ รวมถึงการเชื่อมต่อกับแหล่งชายแดนที่สำคัญ โดยจะเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลข้อเท็จจริงว่าจะเป็นปัญหามากน้อยแค่ไหน เนื่องจากพื้นที่ภาคตะวันออกของประเทศไทยเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพในการพัฒนาเศรษฐกิจและเป็นที่ตั้งของนิคมอุตสาหกรรมจำนวนมาก มีท่าเรือแหลมฉบัง ท่าเรือมาบตาพุด ที่เป็นประตูการค้า มีการส่งออกนำเข้าสินค้าสำคัญของประเทศ อีกทั้งมีสนามบินอู่ตะเภาที่รองรับการเดินทางและการขนส่งสินค้าอากาศยาน ซึ่งขณะนี้รัฐบาลได้เปิดโครงการนำร่องไปแล้วในสนามบินอู่ตะเภา นอกจากนั้นจะมีอีกหลายส่วนที่อยู่ในแผนการพัฒนาเศรษฐกิจตามนโยบายของรัฐบาล ทั้งหมดนี้ก็เพื่อเป็นการนำประเทศไทยไปสู่ Thailand 4.0 ให้ประเทศไทยก้าวข้ามกับดักประเทศที่มีรายได้ขั้นปานกลางไปสู่ประเทศที่รายได้ขั้นสูงต่อไป ซึ่งผลที่คาดว่าจะได้รับคือทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลเกี่ยวกับการพัฒนาและมีทิศทางที่ชัดเจนในการส่งเสริมการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ตลอดจนได้รับข้อมูลอันเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินงานของคณะกรรมาธิการการคมนาคม สภานิติบัญญัติแห่งชาติ เพื่อสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลในการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ต่อไป.
December 5, 2025
December 4, 2025
December 3, 2025
ชื่อ-สกุล*
อีเมล์*
เว็ปไซต์
แสดงความคิดเห็น
Notify me of follow-up comments by email.
Notify me of new posts by email.
Δ
สนช.จัดสัมมนาร่วมกับการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ในหัวข้อเรื่อง “ Eastern Economic Corridor and SEZs : The new investment opportunity in Thailand”
วันที่ 17 พฤษภาคม 2560 เวลา 08.30 นาฬิกา ณ ห้องกมลทิพย์ 1 และ 2 ชั้น 2 โรงแรม เดอะ สุโกศล กรุงเทพฯ คณะกรรมาธิการการคมนาคม สภานิติบัญญัติแห่งชาติ โดยคณะอนุกรรมาธิการศึกษาด้านโลจิสติกส์ จัดสัมมนาร่วมกับการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ในหัวข้อเรื่อง “ Eastern Economic Corridor and SEZs : The new investment opportunity in Thailand” โดยมี พลเอกวรพงษ์ สง่าเนตร รองประธานคณะกรรมาธิการการคมนาคม สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ในฐานะประธานอนุกรรมาธิการศึกษาด้านโลจิสติกส์ กล่าวรายงาน และพลโทจเรศักณิ์ อานุภาพ ประธานคณะกรรมาธิการการคมนาคม สภานิติบัญญัติแห่งชาติ กล่าวเปิดการสัมมนา
ทั้งนี้ การจัดสัมมนาดังกล่าวมีขึ้นเพื่อให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องรับทราบถึงความต้องการของภาคเอกชนที่เป็นสมาคมต่างชาติ นักลงทุนและนักธุรกิจชาวไทย ในการที่จะส่งเสริมการค้าและการลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor : EEC) และเขตพัฒนาเศรษฐกิจชายแดน เนื่องจากคณะกรรมาธิการการคมนาคมได้พิจารณาเห็นว่าแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบโลจิสติกส์ของไทย ฉบับที่ 2 (2556 – 2560) มีส่วนเกี่ยวข้องกับด้านคมนาคม คือ ยุทธศาสตร์ที่ 3 พัฒนาบริการขนส่งและเครือข่ายโลจิสติกส์ตามเส้นทางยุทธศาสตร์ ซึ่งทางคณะอนุกรรมาธิการฯ ได้มีการศึกษาเรื่องระบบโลจิสติกส์ของประเทศ เช่น เรื่องของการเชื่อมต่อของท่าเรือแหลมฉบัง ท่าเรือมาบตาพุดและด่านการค้าที่สำคัญต่างๆ โดยเน้นเรื่องการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ที่เชื่อมต่อพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน กับแหล่งการผลิตต่างๆ รวมถึงการเชื่อมต่อกับแหล่งชายแดนที่สำคัญ โดยจะเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลข้อเท็จจริงว่าจะเป็นปัญหามากน้อยแค่ไหน เนื่องจากพื้นที่ภาคตะวันออกของประเทศไทยเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพในการพัฒนาเศรษฐกิจและเป็นที่ตั้งของนิคมอุตสาหกรรมจำนวนมาก มีท่าเรือแหลมฉบัง ท่าเรือมาบตาพุด ที่เป็นประตูการค้า มีการส่งออกนำเข้าสินค้าสำคัญของประเทศ อีกทั้งมีสนามบินอู่ตะเภาที่รองรับการเดินทางและการขนส่งสินค้าอากาศยาน ซึ่งขณะนี้รัฐบาลได้เปิดโครงการนำร่องไปแล้วในสนามบินอู่ตะเภา นอกจากนั้นจะมีอีกหลายส่วนที่อยู่ในแผนการพัฒนาเศรษฐกิจตามนโยบายของรัฐบาล ทั้งหมดนี้ก็เพื่อเป็นการนำประเทศไทยไปสู่ Thailand 4.0 ให้ประเทศไทยก้าวข้ามกับดักประเทศที่มีรายได้ขั้นปานกลางไปสู่ประเทศที่รายได้ขั้นสูงต่อไป ซึ่งผลที่คาดว่าจะได้รับคือทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลเกี่ยวกับการพัฒนาและมีทิศทางที่ชัดเจนในการส่งเสริมการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ตลอดจนได้รับข้อมูลอันเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินงานของคณะกรรมาธิการการคมนาคม สภานิติบัญญัติแห่งชาติ เพื่อสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลในการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ต่อไป.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
มูลนิธินายช่างไทยฯ ผนึกกำลังจิตอาสา กฟผ. ระดมกำลังเร่งฟื้นฟูระบบไฟฟ้าในพื้นที่ประสบอุทกภัย จ.สงขลา
December 5, 2025
ท่าอากาศยานหาดใหญ่ (ทหญ.) จัดการแสดงดนตรีบรรเลงเพลงพระราชนิพนธ์ เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ...
December 4, 2025
ท่าอากาศยานหาดใหญ่ส่งต่อถุงยังชีพ AOT ให้ชุมชนรอบสนามบิน
December 3, 2025
โรงเรียน นานาชาติ The American School of Bangkok ...
December 3, 2025