สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงบราซิเลีย ประเทศบราซิล เมื่อวันที่ 28 เม.ย.ว่าสหภาพแรงงานบราซิลจัดการผละงานประท้วงครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2539 ในทั้ง 26 รัฐของบราซิล เพื่อคัดค้านมาตรการรัดเข็มขัดของรัฐบาล โดยเฉพาะในส่วนของการปรับเพิ่มเพดานการเกษียณอายุจาก 60 ปีสำหรับผู้ชาย และ 55 ปีสำหรับผู้หญิง ขึ้นเป็น 65 ปี และ 62 ปีตามลำดับ ส่งผลให้ระบบขนส่งสาธารณะ สถานศึกษา และสถาบันการเงินแทบทุกแห่งในประเทศต้องหยุดให้บริการชั่วคราว เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยสถานการณ์รุนแรงอยู่ที่กรุงบราซิเลียซึ่งเป็นเมืองหลวง เมืองรีโอเดจาเนโร เมืองเบโล ฮอริเซอนเต และเมืองเซาเปาลูซึ่งเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและเป็นบ้านเกิดของประธานาธิบดีมิเชล เตเมร์
ทั้งนี้ มีรายงานกลุ่มผู้ประท้วงจุดไฟเผาทำลายรถประจำทางและยางรถยนต์ ในขณะที่ตำรวจปราบจลาจลระดมยิงกระสุนยางและแก๊สน้ำตาเพื่อควบคุมฝูงชน ด้านเตเมร์กล่าวประณามสถานการณ์รุนแรงที่เกิดขึ้น และยืนยันว่ารัฐบาลจำเป็นต้องใช้มาตรการรัดเข็มขัดเพื่อรักษาเสถียรภาพของบราซิลในฐานะประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในอเมริกาใต้ ซึ่งกลังเผชิญกับอัตราว่างงานที่สูงเป็นประวัติการณ์ 13.7% หรือคิดเป็นมากกว่า 14 ล้านคน และผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ ( จีดีพี ) ที่มีแนวโน้มหดตัวอีกในปีนี้ หลังชะลอตัว 3.5% เมื่อปีที่แล้ว
นอกจากนี้ การชุมนุมประท้วงของสหภาพแรงงานยังเกิดขึ้นท่ามกลางวิกฤติภายในคณะรัฐบาลของเตเมร์ ที่รัฐมนตรี 8 จาก 22 คนถูกสอบสวนฐานมีส่วนเกี่ยวข้องกับเครือข่ายการคอร์รัปชั่นที่เชื่อมโยงถึงบริษัทก่อสร้างยักษ์ใหญ่ ” โอเดเบรชต์” และยังโยงใยถึงบริษัท “เปโตรบราส” รัฐวิสาหกิจด้านน้ำมันรายใหญ่ที่สุดในลาตินอเมริกา ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในบราซิล.
ภาพ/ข่าว เดลินิวส์
December 5, 2025
December 4, 2025
December 3, 2025
ชื่อ-สกุล*
อีเมล์*
เว็ปไซต์
แสดงความคิดเห็น
Notify me of follow-up comments by email.
Notify me of new posts by email.
Δ
สหภาพแรงงานบราซิลประท้วงใหญ่ที่สุดในรอบ 20 ปี
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงบราซิเลีย ประเทศบราซิล เมื่อวันที่ 28 เม.ย.ว่าสหภาพแรงงานบราซิลจัดการผละงานประท้วงครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2539 ในทั้ง 26 รัฐของบราซิล เพื่อคัดค้านมาตรการรัดเข็มขัดของรัฐบาล โดยเฉพาะในส่วนของการปรับเพิ่มเพดานการเกษียณอายุจาก 60 ปีสำหรับผู้ชาย และ 55 ปีสำหรับผู้หญิง ขึ้นเป็น 65 ปี และ 62 ปีตามลำดับ ส่งผลให้ระบบขนส่งสาธารณะ สถานศึกษา และสถาบันการเงินแทบทุกแห่งในประเทศต้องหยุดให้บริการชั่วคราว เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยสถานการณ์รุนแรงอยู่ที่กรุงบราซิเลียซึ่งเป็นเมืองหลวง เมืองรีโอเดจาเนโร เมืองเบโล ฮอริเซอนเต และเมืองเซาเปาลูซึ่งเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและเป็นบ้านเกิดของประธานาธิบดีมิเชล เตเมร์
ทั้งนี้ มีรายงานกลุ่มผู้ประท้วงจุดไฟเผาทำลายรถประจำทางและยางรถยนต์ ในขณะที่ตำรวจปราบจลาจลระดมยิงกระสุนยางและแก๊สน้ำตาเพื่อควบคุมฝูงชน ด้านเตเมร์กล่าวประณามสถานการณ์รุนแรงที่เกิดขึ้น และยืนยันว่ารัฐบาลจำเป็นต้องใช้มาตรการรัดเข็มขัดเพื่อรักษาเสถียรภาพของบราซิลในฐานะประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในอเมริกาใต้ ซึ่งกลังเผชิญกับอัตราว่างงานที่สูงเป็นประวัติการณ์ 13.7% หรือคิดเป็นมากกว่า 14 ล้านคน และผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ ( จีดีพี ) ที่มีแนวโน้มหดตัวอีกในปีนี้ หลังชะลอตัว 3.5% เมื่อปีที่แล้ว
นอกจากนี้ การชุมนุมประท้วงของสหภาพแรงงานยังเกิดขึ้นท่ามกลางวิกฤติภายในคณะรัฐบาลของเตเมร์ ที่รัฐมนตรี 8 จาก 22 คนถูกสอบสวนฐานมีส่วนเกี่ยวข้องกับเครือข่ายการคอร์รัปชั่นที่เชื่อมโยงถึงบริษัทก่อสร้างยักษ์ใหญ่ ” โอเดเบรชต์” และยังโยงใยถึงบริษัท “เปโตรบราส” รัฐวิสาหกิจด้านน้ำมันรายใหญ่ที่สุดในลาตินอเมริกา ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในบราซิล.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
มูลนิธินายช่างไทยฯ ผนึกกำลังจิตอาสา กฟผ. ระดมกำลังเร่งฟื้นฟูระบบไฟฟ้าในพื้นที่ประสบอุทกภัย จ.สงขลา
December 5, 2025
ท่าอากาศยานหาดใหญ่ (ทหญ.) จัดการแสดงดนตรีบรรเลงเพลงพระราชนิพนธ์ เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ...
December 4, 2025
ท่าอากาศยานหาดใหญ่ส่งต่อถุงยังชีพ AOT ให้ชุมชนรอบสนามบิน
December 3, 2025
โรงเรียน นานาชาติ The American School of Bangkok ...
December 3, 2025