พบกระทิงป่าเพศผู้ หนักกว่า 1 ตัน ตายในป่าแก่งกระจาน หัวหน้าอุทยานฯนำกำลังเจ้าหน้าที่พร้อมสัตวแพทย์และพิสูจน์หลักฐาน เข้าผ่าพิสูจน์ พบร่องรอยการสู้กันเองจนบาดเจ็บ และติดเชื้อในกระแสเลือดจนตาย
วันที่ 24 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 23 เม.ย. นายมานะ เพิ่มพูน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี เปิดเผยว่า ได้ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีรับแจ้งมีกระทิงเสียชีวิต ตามที่ได้มีพลเมืองดีมาแจ้งเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจทัพพระยาเสือ ว่า พบกระทิงบาดเจ็บสาหัสอยู่ในป่า จากนั้นเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจทัพพระยาเสือ ได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานทราบ จึงได้ร่วมกันเข้าไปลาดตระเวนตามหากระทิงตามที่ได้รับแจ้งมา จนกระทั่งเวลา 14.30 น. วานนี้ เจ้าหน้าที่ได้พบ กระทิงตัวที่บาดเจ็บดังกล่าว นอนอยู่ในป่า สภาพบาดเจ็บสาหัส แต่ยังมีชีวิตอยู่ คณะเจ้าหน้าที่ จึงเฝ้าดูอาการอยู่ห่างๆ เนื่องจากกระทิงยังมีชีวิตอยู่ อาจจะเกิดอันตรายได้
จนกระทั่งเวลา 16.00 น. (23 เม.ย.) คณะเจ้าหน้าที่ ได้สังเกตเห็นกระทิงตัวดังกล่าวนอนแน่นิ่ง จึงตัดสินใจเข้าไปตรวจสอบ ปรากฏพบว่า กระทิงได้เสียชีวิตแล้ว จึงได้ส่งกำลังออกมานอกพื้นที่เพื่อรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ เพื่อทำการประสานสัตวแพทย์ พนักงานสอบสวน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบ แต่ขณะนั้นเป็นเวลาที่ใกล้เข้ายามยามวิกาลแล้ว จึงไม่สามารถดำเนินการตรวจสอบต่อได้ทันที จึงกลับเข้าไปที่เกิดเหตุอีกครั้ง เพื่อทำการนอนเฝ้าสถานที่เกิดเหตุ
กระทั่งต่อมา วันนี้ 24 เม.ย. 2560 เวลา 10.00 น. หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จึงนำคณะเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน สัตวแพทย์หญิงจากสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ ที่ 3 (บ้านโป่ง) เจ้าหน้าที่จากสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยทราย เจ้าหน้าที่จากสำนักงานพิสูจน์หลักฐานจังหวัดเพชรบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรอำเภอแก่งกระจาน เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน เจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจทัพพระยาเสือ เข้าตรวจสอบ และทำการผ่าพิสูจน์ซาก พบกระทิงนอนเสียชีวิต บริเวณ พิกัด 47P 554106 1405059
จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่า เป็นกระทิงเพศผู้ อายุประมาณ 15 – 20 ปี ความสูงประมาณ 1.70 เมตร มีความยาวลำตัว 2.70 เมตร น้ำหนักประมาณ 1,200 กิโลกรัม ลักษณะนอนตายตะแคงด้านขวา มีร่องรอยแผลเป็นรูเปิดบริเวณขาหลังด้านซ้าย จำนวน 2 รู และขาหน้าซ้าย จำนวน 1 รู อวัยวะทุกส่วนครบถ้วน คณะพนักงานเจ้าหน้าที่ ที่เข้าทำการตรวจสอบจึงร่วมกันลงความเห็น ให้ทำการผ่าพิสูจน์ซากกระทิงอย่างละเอียด โดยการนำของสัตวแพทย์หญิงจากสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) และเจ้าหน้าที่จากสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยทราย ผลปรากฏ พบชิ้นกล้ามเนื้อบริเวณขาหน้าซ้ายถึงช่องอก มีลักษณะเนื้อเน่าและเนื้อตายเป็นบริเวณกว้าง กระดูกบริเวณสันอกแตกละเอียดบางส่วน อวัยวะภายใน พบปอดมีลักษณะอักเสบแดง และช้ำเลือด อาจเกิดจากระบบหายใจล้มเหลว บริเวณหัวใจพบเลือดคั่ง
ในเบื้องต้น สันนิษฐานว่า สาเหตุการเสียชีวิตน่าจะเกิดจาก ภาวะอาการช็อค การหายใจล้มเหลว และติดเชื้อในกระแสเลือด ไม่พบโลหะในซากกระทิง ทั้งนี้ เพื่อให้ทราบถึงสาเหตุการตายที่แท้จริงของกระทิง คณะสัตวแพทย์หญิงจากสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) จึงได้ทำการเก็บตัวอย่างชิ้นเนื้อ เพื่อส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการต่อไป แต่ในเบื้องต้นคณะพนักงานเจ้าหน้าที่ ได้ร่วมกันพิจารณาบาดแผลที่เป็นรูบริเวณขาหลังด้านซ้าย จำนวน 2 รู และขาหน้าซ้าย จำนวน 1 รู ของซากกระทิงโดยละเอียด จึงได้ลงความเห็นร่วมกันว่า บาดแผลที่เกิดขึ้นบนตัวซากกระทิงนั้น เกิดจากการต่อสู้ของกระทิงด้วยกันเอง เมื่อดำเนินการผ่าพิสูจน์ซากกระทิงแล้วเสร็จ คณะพนักงานเจ้าหน้าที่ฯ จึงร่วมกันพิจารณาเพื่อดำเนินการจัดการกับซากกระทิงตัวนี้ จึงได้ร่วมกันลงความเห็นให้ดำเนินการทำลายซากกระทิงในส่วนลำตัวและขาทั้ง 4 ข้าง ด้วยวิธีการฝังกลบเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค ในส่วนของหัวและเขาของซากกระทิงนั้น ได้นำมาเก็บรักษาไว้ ณ ที่ทำการอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เพื่อเป็นประโยชน์ในการศึกษาและวิจัยต่อไป
อนึ่ง ในการจัดการกับซากกระทิงตัวนี้ ก่อนที่จะมีการดำเนินการนั้น ได้รับความเห็นชอบจาก สัตวแพทย์และพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรอำเภอแก่งกระจานและหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานแล้ว ทั้งนี้ได้มอบให้เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน นำบันทึกฉบับนี้ไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานต่อสถานีตำรวจภูธรอำเภอแก่งกระจาน.
December 5, 2025
December 4, 2025
December 3, 2025
ชื่อ-สกุล*
อีเมล์*
เว็ปไซต์
แสดงความคิดเห็น
Notify me of follow-up comments by email.
Notify me of new posts by email.
Δ
พบกระทิงป่า หนักกว่า 1 ตัน ตายในป่าแก่งกระจาน ชี้ สู้กันเอง
พบกระทิงป่าเพศผู้ หนักกว่า 1 ตัน ตายในป่าแก่งกระจาน หัวหน้าอุทยานฯนำกำลังเจ้าหน้าที่พร้อมสัตวแพทย์และพิสูจน์หลักฐาน เข้าผ่าพิสูจน์ พบร่องรอยการสู้กันเองจนบาดเจ็บ และติดเชื้อในกระแสเลือดจนตาย
วันที่ 24 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 23 เม.ย. นายมานะ เพิ่มพูน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี เปิดเผยว่า ได้ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีรับแจ้งมีกระทิงเสียชีวิต ตามที่ได้มีพลเมืองดีมาแจ้งเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจทัพพระยาเสือ ว่า พบกระทิงบาดเจ็บสาหัสอยู่ในป่า จากนั้นเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจทัพพระยาเสือ ได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานทราบ จึงได้ร่วมกันเข้าไปลาดตระเวนตามหากระทิงตามที่ได้รับแจ้งมา จนกระทั่งเวลา 14.30 น. วานนี้ เจ้าหน้าที่ได้พบ กระทิงตัวที่บาดเจ็บดังกล่าว นอนอยู่ในป่า สภาพบาดเจ็บสาหัส แต่ยังมีชีวิตอยู่ คณะเจ้าหน้าที่ จึงเฝ้าดูอาการอยู่ห่างๆ เนื่องจากกระทิงยังมีชีวิตอยู่ อาจจะเกิดอันตรายได้
จนกระทั่งเวลา 16.00 น. (23 เม.ย.) คณะเจ้าหน้าที่ ได้สังเกตเห็นกระทิงตัวดังกล่าวนอนแน่นิ่ง จึงตัดสินใจเข้าไปตรวจสอบ ปรากฏพบว่า กระทิงได้เสียชีวิตแล้ว จึงได้ส่งกำลังออกมานอกพื้นที่เพื่อรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ เพื่อทำการประสานสัตวแพทย์ พนักงานสอบสวน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบ แต่ขณะนั้นเป็นเวลาที่ใกล้เข้ายามยามวิกาลแล้ว จึงไม่สามารถดำเนินการตรวจสอบต่อได้ทันที จึงกลับเข้าไปที่เกิดเหตุอีกครั้ง เพื่อทำการนอนเฝ้าสถานที่เกิดเหตุ
กระทั่งต่อมา วันนี้ 24 เม.ย. 2560 เวลา 10.00 น. หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จึงนำคณะเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน สัตวแพทย์หญิงจากสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ ที่ 3 (บ้านโป่ง) เจ้าหน้าที่จากสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยทราย เจ้าหน้าที่จากสำนักงานพิสูจน์หลักฐานจังหวัดเพชรบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรอำเภอแก่งกระจาน เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน เจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจทัพพระยาเสือ เข้าตรวจสอบ และทำการผ่าพิสูจน์ซาก พบกระทิงนอนเสียชีวิต บริเวณ พิกัด 47P 554106 1405059
จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่า เป็นกระทิงเพศผู้ อายุประมาณ 15 – 20 ปี ความสูงประมาณ 1.70 เมตร มีความยาวลำตัว 2.70 เมตร น้ำหนักประมาณ 1,200 กิโลกรัม ลักษณะนอนตายตะแคงด้านขวา มีร่องรอยแผลเป็นรูเปิดบริเวณขาหลังด้านซ้าย จำนวน 2 รู และขาหน้าซ้าย จำนวน 1 รู อวัยวะทุกส่วนครบถ้วน คณะพนักงานเจ้าหน้าที่ ที่เข้าทำการตรวจสอบจึงร่วมกันลงความเห็น ให้ทำการผ่าพิสูจน์ซากกระทิงอย่างละเอียด โดยการนำของสัตวแพทย์หญิงจากสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) และเจ้าหน้าที่จากสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยทราย ผลปรากฏ พบชิ้นกล้ามเนื้อบริเวณขาหน้าซ้ายถึงช่องอก มีลักษณะเนื้อเน่าและเนื้อตายเป็นบริเวณกว้าง กระดูกบริเวณสันอกแตกละเอียดบางส่วน อวัยวะภายใน พบปอดมีลักษณะอักเสบแดง และช้ำเลือด อาจเกิดจากระบบหายใจล้มเหลว บริเวณหัวใจพบเลือดคั่ง
ในเบื้องต้น สันนิษฐานว่า สาเหตุการเสียชีวิตน่าจะเกิดจาก ภาวะอาการช็อค การหายใจล้มเหลว และติดเชื้อในกระแสเลือด ไม่พบโลหะในซากกระทิง ทั้งนี้ เพื่อให้ทราบถึงสาเหตุการตายที่แท้จริงของกระทิง คณะสัตวแพทย์หญิงจากสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) จึงได้ทำการเก็บตัวอย่างชิ้นเนื้อ เพื่อส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการต่อไป แต่ในเบื้องต้นคณะพนักงานเจ้าหน้าที่ ได้ร่วมกันพิจารณาบาดแผลที่เป็นรูบริเวณขาหลังด้านซ้าย จำนวน 2 รู และขาหน้าซ้าย จำนวน 1 รู ของซากกระทิงโดยละเอียด จึงได้ลงความเห็นร่วมกันว่า บาดแผลที่เกิดขึ้นบนตัวซากกระทิงนั้น เกิดจากการต่อสู้ของกระทิงด้วยกันเอง
เมื่อดำเนินการผ่าพิสูจน์ซากกระทิงแล้วเสร็จ คณะพนักงานเจ้าหน้าที่ฯ จึงร่วมกันพิจารณาเพื่อดำเนินการจัดการกับซากกระทิงตัวนี้ จึงได้ร่วมกันลงความเห็นให้ดำเนินการทำลายซากกระทิงในส่วนลำตัวและขาทั้ง 4 ข้าง ด้วยวิธีการฝังกลบเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค ในส่วนของหัวและเขาของซากกระทิงนั้น ได้นำมาเก็บรักษาไว้ ณ ที่ทำการอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เพื่อเป็นประโยชน์ในการศึกษาและวิจัยต่อไป
อนึ่ง ในการจัดการกับซากกระทิงตัวนี้ ก่อนที่จะมีการดำเนินการนั้น ได้รับความเห็นชอบจาก สัตวแพทย์และพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรอำเภอแก่งกระจานและหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานแล้ว ทั้งนี้ได้มอบให้เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน นำบันทึกฉบับนี้ไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานต่อสถานีตำรวจภูธรอำเภอแก่งกระจาน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
มูลนิธินายช่างไทยฯ ผนึกกำลังจิตอาสา กฟผ. ระดมกำลังเร่งฟื้นฟูระบบไฟฟ้าในพื้นที่ประสบอุทกภัย จ.สงขลา
December 5, 2025
ท่าอากาศยานหาดใหญ่ (ทหญ.) จัดการแสดงดนตรีบรรเลงเพลงพระราชนิพนธ์ เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ...
December 4, 2025
ท่าอากาศยานหาดใหญ่ส่งต่อถุงยังชีพ AOT ให้ชุมชนรอบสนามบิน
December 3, 2025
โรงเรียน นานาชาติ The American School of Bangkok ...
December 3, 2025