ผศ.ดร.ฆนัท ธาตุทอง อาจารย์ประจำโปรแกรมวิชาหลักสูตรและการจัดการเรียนรู้ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา
จากการสำรวจความต้องการครูที่จะทดแทนอัตราเกษียณอายุราชการตั้งแต่ปีพ.ศ.2557-2562 ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) แยกตามสาขาพบว่าสาขาคณิตศาสตร์มีความต้องการครูทดแทนสูงที่สุด (14,399 อัตรา) รองลงมาคือสาขาภาษาอังกฤษ(13,852 อัตรา) ประกอบกับผล O-Net ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา 2558 ในสังกัดสพฐ. ภาษาอังกฤษต่ำสุด (36.61) คณิตศาสตร์ 41.76 วิทยาศาสตร์ 41.55
นั่นเป็นส่วนหนึ่งของที่มาในการที่กระทรวงศึกษาธิการต้องเร่งรีบแก้ปัญหา เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษา โดยการให้ผู้ที่จบการศึกษาในสาขาเฉพาะและยังไม่มีวุฒิครู ได้มีสิทธิ์สมัครสอบเข้ารับการคัดเลือกเพื่อแต่งตั้งให้เป็นครูผู้ช่วย ในขณะที่หน่วยผลิตครูอย่างเช่น คณะครุศาสตร์ คณะศึกษาศาสตร์ ได้ออกมาคัดค้าน ด้วยเห็นว่าวิชาชีพครูเป็นวิชาชีพชั้นสูง และนักศึกษาครูได้เข้าสู่ระบบการพัฒนาให้เป็นผู้ที่มีความพร้อมในการเป็นครู ตาม 11 เกณฑ์มาตรฐานของคุรุสภา ซึ่งใช้เวลาเรียน 5 ปี แล้วอยู่ ๆ ก็มีการเปิดโอกาสให้ผู้เรียน 4 ปี ในสาขาเฉพาะที่ไม่มีวุฒิครูมีสิทธิ์สมัครสอบได้ เมื่อได้แล้วค่อยส่งเข้าอบรมหลักสูตร ป.บัณฑิตวิชาชีพครู ซึ่งเห็นว่านักศึกษาครูมีความเสียเปรียบ เสียโอกาส ถูกแย่งงานจากผู้ที่เรียนมาแค่ 4 ปีนั้น ก็เป็นเหตุผลที่รับฟังได้
ประเด็น คือ จะทำอย่างไรที่ให้ประเทศชาติได้ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะสาขามาเป็นครู เพื่อแก้ปัญหาและช่วยยกระดับคุณภาพการศึกษา โดยที่ไม่กระทบกับระบบการผลิตครูและเป็นไปตามข้อบังคับคุรุสภาว่าด้วยการรับรองความรู้และประสบการณ์วิชาชีพ เพื่อการประกอบวิชาชีพทางการศึกษา พ.ศ.2550 กับข้อบังคับคุรุสภาว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพและจรรยาบรรณวิชาชีพ พ.ศ.2548 โดยที่หน่วยผลิตครูและนักศึกษาครูไม่เกิดความรู้สึกว่าเสียโอกาสหรือถูกเอารัดเอาเปรียบทางวิชาชีพ วิทยาชาญ โมเดล มีฐานคิด ดังนี้ 1. วิชาชีพครูเป็นวิชาชีพชั้นสูง ที่ต้องพัฒนานักศึกษาครูทั้งเรื่องวิชาครู วิชาเอก และวิชาพื้นฐาน โดยมุ่งหวังให้ได้ครูดี ครูเก่ง สอนดี สอนเก่ง ดังภาพ 1
ภาพ 1 การพัฒนาครูให้เป็นวิชาชีพชั้นสูง เมื่อพิจารณาวิชาครู จะพบว่าหลักสูตรที่หน่วยผลิตสร้างหรือพัฒนาขึ้น ต้องมีความสอดคล้องและเป็นไปตาม 11 มาตรฐานที่คุรุสภากำหนด ประกอบกับยังต้องมีการปลูกฝังด้านจรรยาบรรณวิชาชีพครู และการปฏิบัติงาน ดังภาพ 2
2. ความลุ่มลึกในวิชาเอก จากการที่โครงสร้างหลักสูตรได้มีเนื้อหาตามเงื่อนไขที่มากพอสมควร จึงต้องแบ่งสัดส่วนของเนื้อหาและเวลาในการจัดการเรียนการสอนตามรายวิชาครู วิชาเอกและวิชาพื้นฐาน ให้ลงตัว ตรงนี้ต้องยอมรับว่าในความลุ่มลึกในศาสตร์สาขาเฉพาะของครู เมื่อเทียบหลักสูตรต่อหลักสูตรแล้วจะพบว่า ผู้ที่เรียนสาขาเฉพาะ (4 ปี) มีเนื้อหาในรายวิชาที่ลุ่มลึก สลับซับซ้อน มากกว่าของนักศึกษาครู 3. คุณภาพการศึกษาของประเทศต้องได้รับการยกระดับ ด้วยเหตุที่มาจากที่ได้ผลการประเมิน O-Net, PISA แสดงให้เห็นแนวโน้มในอนาคตทางการศึกษาไทยได้อย่างชัดเจน ด้วยสาเหตุและปัจจัยดังกล่าว ผู้เขียนจึงขอเสนอทางออกให้กับทุกฝ่ายด้วย “วิทยาชาญ โมเดล” ดังภาพ 3
ภาพ 3 วิทยาชาญ โมเดล
คำว่า “วิทยาชาญ” มาจาก “วิทยากร” ที่ทำหน้าที่เป็น “ครู-อาจารย์” ที่มีความ “เชี่ยวชาญในสาขาเฉพาะ” รูปแบบการแก้ปัญหาเพื่อบรรจุผู้ที่ไม่มีวุฒิครูให้เป็นครูนี้ มี 4 ขั้นตอน ดังนี้
ขั้นที่ 1 สอบคัดเลือกวิทยาชาญ จากบุคคลที่มีความรู้ความสามารถเฉพาะสาขา แต่ไม่ได้มีวุฒิครู โดยที่ยังไม่ได้บรรจุแต่งตั้งให้เป็นครูผู้ช่วยในทันที
ขั้นที่ 2 ปฏิบัติการสอน โดยที่วิทยาชาญที่ผ่านการคัดเลือกในขั้นที่ 1 ต้องปฏิบัติงานสอนในสถานศึกษาเป็นระยะเวลา 1 ปีการศึกษา และในระหว่างนั้นต้องเข้ารับการอบรมในหลักสูตร ป.บัณฑิตวิชาชีพครู
ทั้งนี้ ในการประเมินการปฏิบัติการสอน ให้มีการประเมินเกี่ยวกับการปฏิบัติกิจกรรมทางวิชาการ การตัดสินใจ ความมุ่งมั่นพัฒนาผู้เรียน การพัฒนาแผนการสอน การพัฒนาสื่อการเรียนการสอน การจัดกิจกรรมการเรียนการสอน การรายงานผลการพัฒนาคุณภาพของผู้เรียน การปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดี ความร่วมมือกับผู้อื่นในสถานศึกษาและในชุมชน การแสวงหาและใช้ข้อมูลข่าวสารในการพัฒนา และการสร้างโอกาสให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ในทุกสถานการณ์ ซึ่งเป็นสิ่งเดียวกับที่นักศึกษาครูได้รับการพัฒนา สำหรับการอบรมในหลักสูตร ป.บัณฑิตวิชาชีพครู นั้น เป็นการพัฒนาตนเองให้เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานวิชาชีพที่คุรุสภากำหนด ซึ่งก็จะเป็นสิ่งเดียวกับที่นักศึกษาครูได้รับการพัฒนาเช่นกัน
ขั้นที่ 3 ประเมินความเป็นครู ในขั้นตอนนี้ให้มีการประเมินจิตวิญญาณความเป็นครู และจรรยาบรรณวิชาชีพ คุณธรรม จริยธรรม ต่อตนเอง ต่อวิชาชีพ ต่อผู้รับบริการ ต่อผู้ร่วมประกอบวิชาชีพและต่อสังคม
ขั้นที่ 4 การบรรจุแต่งตั้งให้เป็นครูผู้ช่วย โดยพิจารณาจากผลการดำเนินงานในขั้นตอนที่ 2 และ 3 ทั้งนี้ ไม่ต้องมีการทดลองปฏิบัติราชการแล้ว เพราะในระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมา นั่นถือว่าได้เป็นการทดลองราชการแล้ว หากทำได้เช่นนี้ จะมีความเท่าเทียมกันระหว่างวิทยาชาญกับนักศึกษาครู ดังตาราง 1
บทสรุป วิทยาชาญ โมเดล เป็นรูปแบบการแก้ปัญหาเพื่อบรรจุผู้ที่ไม่มีวุฒิครูให้เป็นครู ด้วยการดำเนินการ 4 ขั้น โดยที่ทั้งวิทยาชาญและนักศึกษาครู จะได้รับการพัฒนาให้เป็นไปตามมาตรฐานวิชาชีพที่คุรุสภากำหนดเช่นกัน ประกอบกับเป็นการแก้ปัญหาเพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาของประเทศไทย ที่ทุกฝ่ายหันหน้าเข้าหากัน เพื่อให้สมกับหลักการที่ว่า “ครูเป็นวิชาชีพชั้นสูง”.
May 25, 2025
ชื่อ-สกุล*
อีเมล์*
เว็ปไซต์
แสดงความคิดเห็น
Notify me of follow-up comments by email.
Notify me of new posts by email.
Δ
วิทยาชาญ โมเดล: รูปแบบการแก้ปัญหาเพื่อบรรจุผู้ที่ไม่มีวุฒิครูให้เป็นครู
ผศ.ดร.ฆนัท ธาตุทอง อาจารย์ประจำโปรแกรมวิชาหลักสูตรและการจัดการเรียนรู้ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา
จากการสำรวจความต้องการครูที่จะทดแทนอัตราเกษียณอายุราชการตั้งแต่ปีพ.ศ.2557-2562 ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) แยกตามสาขาพบว่าสาขาคณิตศาสตร์มีความต้องการครูทดแทนสูงที่สุด (14,399 อัตรา) รองลงมาคือสาขาภาษาอังกฤษ(13,852 อัตรา) ประกอบกับผล O-Net ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา 2558 ในสังกัดสพฐ. ภาษาอังกฤษต่ำสุด (36.61) คณิตศาสตร์ 41.76 วิทยาศาสตร์ 41.55
นั่นเป็นส่วนหนึ่งของที่มาในการที่กระทรวงศึกษาธิการต้องเร่งรีบแก้ปัญหา เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษา โดยการให้ผู้ที่จบการศึกษาในสาขาเฉพาะและยังไม่มีวุฒิครู ได้มีสิทธิ์สมัครสอบเข้ารับการคัดเลือกเพื่อแต่งตั้งให้เป็นครูผู้ช่วย ในขณะที่หน่วยผลิตครูอย่างเช่น คณะครุศาสตร์ คณะศึกษาศาสตร์ ได้ออกมาคัดค้าน ด้วยเห็นว่าวิชาชีพครูเป็นวิชาชีพชั้นสูง และนักศึกษาครูได้เข้าสู่ระบบการพัฒนาให้เป็นผู้ที่มีความพร้อมในการเป็นครู ตาม 11 เกณฑ์มาตรฐานของคุรุสภา ซึ่งใช้เวลาเรียน 5 ปี แล้วอยู่ ๆ ก็มีการเปิดโอกาสให้ผู้เรียน 4 ปี ในสาขาเฉพาะที่ไม่มีวุฒิครูมีสิทธิ์สมัครสอบได้ เมื่อได้แล้วค่อยส่งเข้าอบรมหลักสูตร ป.บัณฑิตวิชาชีพครู ซึ่งเห็นว่านักศึกษาครูมีความเสียเปรียบ เสียโอกาส ถูกแย่งงานจากผู้ที่เรียนมาแค่ 4 ปีนั้น ก็เป็นเหตุผลที่รับฟังได้
ประเด็น คือ จะทำอย่างไรที่ให้ประเทศชาติได้ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะสาขามาเป็นครู เพื่อแก้ปัญหาและช่วยยกระดับคุณภาพการศึกษา โดยที่ไม่กระทบกับระบบการผลิตครูและเป็นไปตามข้อบังคับคุรุสภาว่าด้วยการรับรองความรู้และประสบการณ์วิชาชีพ เพื่อการประกอบวิชาชีพทางการศึกษา พ.ศ.2550 กับข้อบังคับคุรุสภาว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพและจรรยาบรรณวิชาชีพ พ.ศ.2548 โดยที่หน่วยผลิตครูและนักศึกษาครูไม่เกิดความรู้สึกว่าเสียโอกาสหรือถูกเอารัดเอาเปรียบทางวิชาชีพ
วิทยาชาญ โมเดล มีฐานคิด ดังนี้
1. วิชาชีพครูเป็นวิชาชีพชั้นสูง ที่ต้องพัฒนานักศึกษาครูทั้งเรื่องวิชาครู วิชาเอก และวิชาพื้นฐาน โดยมุ่งหวังให้ได้ครูดี ครูเก่ง สอนดี สอนเก่ง ดังภาพ 1
ภาพ 1 การพัฒนาครูให้เป็นวิชาชีพชั้นสูง
เมื่อพิจารณาวิชาครู จะพบว่าหลักสูตรที่หน่วยผลิตสร้างหรือพัฒนาขึ้น ต้องมีความสอดคล้องและเป็นไปตาม 11 มาตรฐานที่คุรุสภากำหนด ประกอบกับยังต้องมีการปลูกฝังด้านจรรยาบรรณวิชาชีพครู และการปฏิบัติงาน ดังภาพ 2
2. ความลุ่มลึกในวิชาเอก จากการที่โครงสร้างหลักสูตรได้มีเนื้อหาตามเงื่อนไขที่มากพอสมควร จึงต้องแบ่งสัดส่วนของเนื้อหาและเวลาในการจัดการเรียนการสอนตามรายวิชาครู วิชาเอกและวิชาพื้นฐาน ให้ลงตัว ตรงนี้ต้องยอมรับว่าในความลุ่มลึกในศาสตร์สาขาเฉพาะของครู เมื่อเทียบหลักสูตรต่อหลักสูตรแล้วจะพบว่า ผู้ที่เรียนสาขาเฉพาะ (4 ปี) มีเนื้อหาในรายวิชาที่ลุ่มลึก สลับซับซ้อน มากกว่าของนักศึกษาครู
3. คุณภาพการศึกษาของประเทศต้องได้รับการยกระดับ ด้วยเหตุที่มาจากที่ได้ผลการประเมิน O-Net, PISA แสดงให้เห็นแนวโน้มในอนาคตทางการศึกษาไทยได้อย่างชัดเจน
ด้วยสาเหตุและปัจจัยดังกล่าว ผู้เขียนจึงขอเสนอทางออกให้กับทุกฝ่ายด้วย “วิทยาชาญ โมเดล” ดังภาพ 3
ภาพ 3 วิทยาชาญ โมเดล
คำว่า “วิทยาชาญ” มาจาก “วิทยากร” ที่ทำหน้าที่เป็น “ครู-อาจารย์” ที่มีความ “เชี่ยวชาญในสาขาเฉพาะ” รูปแบบการแก้ปัญหาเพื่อบรรจุผู้ที่ไม่มีวุฒิครูให้เป็นครูนี้ มี 4 ขั้นตอน ดังนี้
ขั้นที่ 1 สอบคัดเลือกวิทยาชาญ จากบุคคลที่มีความรู้ความสามารถเฉพาะสาขา แต่ไม่ได้มีวุฒิครู โดยที่ยังไม่ได้บรรจุแต่งตั้งให้เป็นครูผู้ช่วยในทันที
ขั้นที่ 2 ปฏิบัติการสอน โดยที่วิทยาชาญที่ผ่านการคัดเลือกในขั้นที่ 1 ต้องปฏิบัติงานสอนในสถานศึกษาเป็นระยะเวลา 1 ปีการศึกษา และในระหว่างนั้นต้องเข้ารับการอบรมในหลักสูตร ป.บัณฑิตวิชาชีพครู
ทั้งนี้ ในการประเมินการปฏิบัติการสอน ให้มีการประเมินเกี่ยวกับการปฏิบัติกิจกรรมทางวิชาการ การตัดสินใจ ความมุ่งมั่นพัฒนาผู้เรียน การพัฒนาแผนการสอน การพัฒนาสื่อการเรียนการสอน การจัดกิจกรรมการเรียนการสอน การรายงานผลการพัฒนาคุณภาพของผู้เรียน การปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดี ความร่วมมือกับผู้อื่นในสถานศึกษาและในชุมชน การแสวงหาและใช้ข้อมูลข่าวสารในการพัฒนา และการสร้างโอกาสให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ในทุกสถานการณ์ ซึ่งเป็นสิ่งเดียวกับที่นักศึกษาครูได้รับการพัฒนา
สำหรับการอบรมในหลักสูตร ป.บัณฑิตวิชาชีพครู นั้น เป็นการพัฒนาตนเองให้เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานวิชาชีพที่คุรุสภากำหนด ซึ่งก็จะเป็นสิ่งเดียวกับที่นักศึกษาครูได้รับการพัฒนาเช่นกัน
ขั้นที่ 3 ประเมินความเป็นครู ในขั้นตอนนี้ให้มีการประเมินจิตวิญญาณความเป็นครู และจรรยาบรรณวิชาชีพ คุณธรรม จริยธรรม ต่อตนเอง ต่อวิชาชีพ ต่อผู้รับบริการ ต่อผู้ร่วมประกอบวิชาชีพและต่อสังคม
ขั้นที่ 4 การบรรจุแต่งตั้งให้เป็นครูผู้ช่วย โดยพิจารณาจากผลการดำเนินงานในขั้นตอนที่ 2 และ 3 ทั้งนี้ ไม่ต้องมีการทดลองปฏิบัติราชการแล้ว เพราะในระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมา นั่นถือว่าได้เป็นการทดลองราชการแล้ว
หากทำได้เช่นนี้ จะมีความเท่าเทียมกันระหว่างวิทยาชาญกับนักศึกษาครู ดังตาราง 1
บทสรุป
วิทยาชาญ โมเดล เป็นรูปแบบการแก้ปัญหาเพื่อบรรจุผู้ที่ไม่มีวุฒิครูให้เป็นครู ด้วยการดำเนินการ 4 ขั้น โดยที่ทั้งวิทยาชาญและนักศึกษาครู จะได้รับการพัฒนาให้เป็นไปตามมาตรฐานวิชาชีพที่คุรุสภากำหนดเช่นกัน ประกอบกับเป็นการแก้ปัญหาเพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาของประเทศไทย ที่ทุกฝ่ายหันหน้าเข้าหากัน เพื่อให้สมกับหลักการที่ว่า “ครูเป็นวิชาชีพชั้นสูง”.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
มรภ.สงขลา ส่ง นศ.-บุคลากร เข้าค่าย “ผู้นำเยาวชน คนราชภัฏ 2025 ...
May 25, 2025
มรภ.สงขลา ลงนามความร่วมมือ รพ.กรุงเทพหาดใหญ่ ให้บริการทางการแพทย์ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้านสุขภาพ
May 25, 2025
มรภ.สงขลา บันทึกเทปถวายพระพร เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี
May 25, 2025
“เกษตร” มรภ.สงขลา จัดอบรมผลิตผักยกแคร่อินทรีย์ครบวงจร ประยุกต์ใช้ภูมิปัญญาแก้ปัญหาน้ำท่วมแปลงผัก ต่อยอดสร้างรายได้ ขยายผลสู่ชุมชน
May 25, 2025