ทัพนักกีฬา มรภ.สงขลา สู้ศึกกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 44 สุรนารีเกมส์ ทำผลงานยอดเยี่ยมคว้า 2 เหรียญเงิน 5 เหรียญทองแดง ครองอันดับ 53 จาก 107 สถาบัน เตรียมศึกษาความเป็นไปได้เฟ้นหาช้างเผือกทางกีฬา ให้โควตาเรียนฟรี

นายอิบรอฮิม ยี่สุ่นทรง อาจารย์ประจำโปรแกรมวิชาพลศึกษา คณะครุศาสตร์ ประธานฝ่ายกีฬาและนันทนาการ กองพัฒนานักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา (มรภ.สงขลา) เปิดเผยถึงผลงานนักกีฬา มรภ.สงขลา ในการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 44 สุรนารีเกมส์ เมื่อเร็วๆ นี้ว่า สามารถคว้า 2 เหรียญเงิน 5 เหรียญทองแดง จากกีฬาปันจักสีลัต เหรียญเงิน นายนนท์ปวิธ ปานกล่อม นักศึกษาปี 3 โปรแกรมวิชาภาษาอังกฤษคณะครุศาสตร์ ในรุ่น F น้ำหนักไม่เกิน 75 กก. เหรียญทองแดงจาก น.ส.นรินทิรา เรืองโรจน์ ปี 2 โปรแกรมวิชาพลศึกษา คณะครุศาสตร์ ในรุ่น C น้ำหนักไม่เกิน 60 กก. และ น.ส.ธีรดา ปานแก้ว ปี 1 จากโปรแกรมวิชาเดียวกัน ในรุ่น C น้ำหนักไม่เกิน 65 กก. กีฬามวยไทยสมัครเล่น เหรียญเงิน นายธวัชชัย ชูคง ปี 1 โปรแกรมวิชาพลศึกษา ในการชกรุ่นเฟเธอร์เวท น้ำหนักไม่เกิน 57 กก. เหรียญทองแดง นายอภิสิทธิ์ หวังสู ปี 1 โปรแกรมวิชาพลศึกษา จากรุ่นซุปเปอร์ไลท์เวท น้ำหนักไม่เกิน 50.3 กิโลกรัม จาก และ นายณัฐพงศ์ ศรีนุ่นวิเชียร ปี 2 โปรแกรมวิชาเทคโนโลยีไฟฟ้าอุตสาหกรรม คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม จากรุ่นเวลเตอร์เวท น้ำหนักไม่เกิน 67 กก. นอกจากนั้น ยังได้รับเหรียญรางวัลจากการแข่งขันเปตองเป็นครั้งแรก ด้วยผลงาน 1 เหรียญทองแดงจาก นายนัทธพงศ์ ชีวะวงศธร ปี 2 โปรแกรมวิชาคอมพิวเตอร์ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ภายใต้การนำของโค้ช สัตตกมล บุญศิริ

นายอิบรอฮิม กล่าวว่า ในปีนี้นักกีฬา มรภ.สงขลา สามารถทำผลงานได้อย่างน่าพอใจ ได้รับเหรียญรางวัลเพิ่มมากขึ้น นักกีฬาที่ได้เหรียญเมื่อปีที่แล้วยังคงทำผลงานได้ดี ส่วนกีฬาอื่นๆ แม้จะไม่ได้เหรียญแต่ก็มีการพัฒนามากยิ่งขึ้นเกือบทุกชนิดกีฬา ซึ่งในครั้งนี้เรามีเงินรางวัลเป็นทุนการศึกษามอบให้กับนักกีฬา โดยผู้ได้รับเหรียญเงิน จะได้รับทุนการศึกษา 15,000 บาท และเหรียญทองแดงได้รับทุนการศึกษา 7,500 บาท พร้อมทั้งมอบเสื้อสามารถและโล่แก่นักกีฬาที่ได้รับเหรียญรางวัลทุกคน รวมถึงนักกีฬาที่เข้าแข่งขันรอบคัดโซนและทำผลงานผ่านเข้ารอบมหกรรมแต่ไม่ได้รับเหรียญ เราจะมีเกียรติบัตรเชิดชูเกียรติแก่นักกีฬาด้วย ตลอดจนผู้จัดการทีมและผู้ฝึกสอนที่นำนักกีฬาไปคว้าเหรียญรางวัล จะได้รับโล่เชิดชูเกียรติด้วย ทั้งนี้ เพื่อให้การสร้างนักกีฬามีความเข้มแข็งต่อเนื่อง ตนอยากให้มหาวิทยาลัยมีนโยบายสนับสนุนหรือแรงจูงใจในการรับนักกีฬาเก่งๆ เข้ามาเรียน ซึ่งในอนาคตมีความเป็นไปได้ที่ฝ่ายกีฬาฯ จะเสนอให้มีโควตาเรียนฟรีสำหรับนักศึกษากลุ่มนี้ เพื่อให้มีนักกีฬาเก่งๆ มาเรียนที่ มรภ.สงขลา มากขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมาปัญหาคือกระบวนการรับ เด็กเก่งกีฬาสอบไม่ติด ส่วนเด็กที่ได้มาจะอยู่ในระดับ B หรือ C และอยากให้มหาวิทยาลัยมีนโยบายให้ทุกโปรแกรมวิชารับโควต้านักกีฬาเพิ่ม จากเดิมที่มีอยู่บ้างแล้ว และอยากให้เห็นความสำคัญทางด้านกีฬามากขึ้นด้วย

ด้าน นายธวัชชัย ชูคง เจ้าของเหรียญเงินมวยไทยสมัครเล่น กล่าวถึงแรงบันดาลในการเป็นนักกีฬาใจ ว่า ตอนเข้ามาเรียนเห็นรุ่นพี่ได้รับเสื้อสามารถบนเวทีในวันปฐมนิเทศ ทำให้คิดว่าสักวันต้องไปยืนตรงนั้นให้ได้ และตนก็ทำได้จริงๆ แม้จะรู้สึกเสียดายที่ไม่ได้เหรียญทอง แต่ความพ่ายแพ้ครั้งนี้ทำให้เรียนรู้ว่าในการแข่งขันต้องมีสมาธิ ไม่ประมาท ประกอบกับเพิ่งชกเป็นปีแรกจึงยังขาดประสบการณ์ แต่ในการแข่งขันปีหน้าตนจะต้องทำให้ดีกว่าเดิม อยากให้น้องๆ รุ่นใหม่หันมาเล่นกีฬา เพราะทำให้ร่างกายแข็งแรงและจะทำให้มหาวิทยาลัยของเรามีชื่อเสียงในด้านกีฬา

นายอภิสิทธิ์ หวังสู นักกีฬามวยไทยสมัครเล่นอีกคนหนึ่ง กล่าวบ้างว่า กีฬามีแพ้มีชนะ ขึ้นอยู่กับว่านักกีฬามีความพร้อมและการพัฒนาตัวเองมากแค่ไหน ไม่สำคัญว่าจะมาจากมหาวิทยาลัยใด แม้จะเป็นมหาวิทยาลัยในภูมิภาคแต่หากนักกีฬามีความมุ่งมั่นและขยันฝึกซ้อม ก็ย่อมสร้างผลงานที่ดีได้ ซึ่งการได้รับโอกาสให้เข้าร่วมแข่งขันกีฬาในครั้งนี้ทำให้ตนได้เห็นข้อด้อยของตนเอง และจะนำมาพัฒนาฝีมือให้ดียิ่งขึ้นเพื่อจะได้เข้าร่วมแข่งขันในครั้งต่อไป

นายณัฐพงศ์ ศรีนุ่นวิเชียร นักชกเจ้าของเหรียญทองแดง กล่าวว่า สำหรับตนการมีน้ำใจต่อคู่แข่งถือเป็นสิ่งสำคัญ ขณะอยู่บนเวทีไม่ว่าจะชกกันหนักแค่ไหน แต่เมื่อแข่งเสร็จเราก็กอดกันจับมือกันเป็นพี่เป็นน้อง ตนเชื่อว่ากีฬาสร้างคนให้มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ แถมยังทำให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงอีกด้วย ดังนั้น จึงอยากเชิญชวนน้องๆ คนรุ่นใหม่ มาสมัครเป็นนักกีฬามหาวิทยาลัยกันเยอะๆ เพื่อที่ปีหน้าจะได้ไปคว้าชัยชนะกลับมาด้วยกัน

ส่วน นายนนท์ปวิธ ปานกล่อม เหรียญเงินกีฬาปันจักสีลัต กล่าวว่า การได้รับเหรียญรางวัลมาจากปัจจัยหลายอย่าง ไม่ใช่ตัวเองเพียงคนเดียว แต่รวมถึงผู้ที่คอยช่วยเหลือหรือแม้แต่ให้กำลังใจ แม้วันนี้ตนจะพลาดเหรียญทอง แต่ความผิดหวังจะเป็นแรงผลักดันให้ตนต้องยิ่งพยายามฝึกซ้อมให้มากขึ้น ในการเล่นกีฬาทุกคนย่อมมีจุดมุ่งหมายที่จะได้รับชัยชนะ แต่ระหว่างทางที่จะไปถึงจุดมุ่งหมายมีสิ่งต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นมิตรภาพ สุขภาพ ซึ่งล้วนแต่เป็นผลดีกับตัวเราทั้งสิ้น

น.ส.นรินทิรา เรืองโรจน์ นักกีฬาปันจักสีลัตอีกคนหนึ่ง กล่าวบ้างว่า สิ่งสำคัญสำหรับนักกีฬาคือต้องมีวินัยในการซ้อม และฝึกฝนอย่างต่อเนื่องเพื่อรักษาระดับความสามารถของตนเอง ทุกครั้งที่ลงแข่งตนจะทำอย่างเต็มที่ อาจมีแพ้หรือชนะบ้างแต่ไม่เคยคิดทิ้งความฝันการเป็นนักกีฬา เพราะคิดเสมอว่าที่แพ้เพราะฝีมือเราอาจสู้อีกฝ่ายไม่ได้จริงๆ ซึ่งก็ไม่เป็นไร ครั้งหน้ายังมีโอกาสให้แก้ตัวใหม่เสมอ การที่เราพ่ายแพ้ให้กับใครสักคน เราก็สามารถกลับมาชนะคนๆ นั้นได้เช่นกัน อยากบอกไปถึงเด็กรุ่นใหม่ว่าโอกาสไม่ได้มีตลอดเวลา เมื่อเรามีโอกาสก็ควรใช้มันให้เกิดประโยชน์

ขณะที่ น.ส.ธีรดา ปานแก้ว กล่าวเสริมว่า ไม่ว่าผลการแข่งขันจะออกมาเช่นไร เราต้องคิดในทางที่ดี ไม่ควรกดดันตนเอง เพราะจะทำเสียสมาธิได้ แม้วันนี้ชัยชนะจะยังไม่ใช่ของเรา แต่เชื่อว่าหากกลับไปฝึกฝนในส่วนที่ยังบกพร่อง วันหนึ่งจะสามารถขึ้นไปยืนอยู่ในจุดสูงสุดได้ สิ่งสำคัญที่ได้เรียนรู้จากการแข่งขันคือ การที่เราสามารถชนะใจตัวเอง รวมทั้งได้ประสบการณ์ใหม่ๆ ได้เรียนรู้ทักษะการฝึกซ้อมจากเพื่อนต่างสถาบัน และยังได้เพื่อนใหม่เพิ่มขึ้นอีกด้วย จึงอยากให้เยาวชนรุ่นใหม่หันมาสนใจกีฬา เพราะกีฬาให้อะไรมากกว่าที่คิด เป็นเหมือนการเรียนรู้อีกรูปแบบหนึ่งที่ไม่ได้จำกัดแค่ในห้องสี่เหลี่ยม

ปิดท้ายด้วย นายนัทธพงศ์ ชีวะวงศธร กล่าวว่า ดีใจมากที่สามารถคว้าเหรียญรางวัลจากกีฬาเปตองได้เป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นผลจากการที่ตนตั้งใจฝึกซ้อม มีวินัย และเชื่อฟังสิ่งที่โค้ชคอยสอน อยากขอบคุณโค้ชที่ให้โอกาสอีกครั้ง และยังเชื่อใจเสมอ เพราะปีที่แล้วตนทำผลงานได้ไม่ดีเลย ขอฝากไปถึงน้องๆ ว่าการเล่นกีฬาไม่ว่าจะเพื่อแข่งขันหรือไม่ก็ตาม อย่างน้อยก็ทำให้ได้ออกกำลังกาย และไม่เอาเวลาไปมั่วสุมอยู่กับสิ่งเสพติด.