ชุดสืบสวน กก.สส.บก.น4 รวบสองหนุ่มแสบ อ้างเป็น “ผบก.น.4” หลอกเอาเงินเจ้าของร้านอาหารแห่งหนึ่ง โดยอ้างว่าขอเงินสนับสนุนช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้
สน.บางชัน – เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 1 มีนาคม 2560 พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ผบก.น.4 พร้อมด้วย พ.ต.อ.มานพ น่วมลิวงศ์ รองผบก.น.4 พ.ต.อ.ศุภชัชจ์ เปี่ยมมนัส ผกก.สส.บก.น.4 พ.ต.อ.อดิศักดิ์ ชูพันธ์ ผกก.สน.บางชัน ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมนายเอกภพ สุขหอม หรือเบ้ อายุ 27 ปี และนายครองราชย์ จิตจำนงค์ หรือฟิว อายุ 21 ปี ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นผู้อื่น” โดยผู้ต้องหาแอบอ้างเป็น ผบก.น.4 โทรศัพท์หลอกประชาชนโอนเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้
พล.ต.ต.นันทชาติ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ นายคมสัน แซ่ตัง เจ้าของร้านอาหารวีว่า ร้านชื่อดัง ย่านซอยรามคำแหง100 แขวงและเขตสะพานสูง กรุงเทพมหานคร ผู้เสียหายเข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่ สน.บางชัน ให้ดำเนินคดีกับคนร้ายที่แอบอ้างเป็นบุคคลอื่น โดยเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ มีบุคคลได้ใช้เบอร์โทรศัพท์หมายเลข 064-278-3996 โทรหานายคมสัน อ้างว่าเป็นผู้บังคับการตำรวจนครบาล 4 (ผบก.น.4) ขอรับการสนับสนุนช่วยเหลือโรงเรียนทางภาคใต้ จำนวน 25,000 บาท โดยในโอนเงินดังกล่าวผ่านทางธนาคาร
ทั้งนี้ นายคมสัน เชื่อว่าปลายสายคือ ผบก.น.4 เป็นคนที่โทรศัพท์มาจริง เนื่องจากมีเสียงที่คล้ายกัน และนายคมสัน เคยพบกับ ผบก.น.4 เพียงไม่กี่ครั้ง และด้วยความเกรงใจจึงตัดสินใจโอนเงินผ่านโทรศัพท์มือถือ และได้ส่งหลักฐานไปยันยืน ภายหลังการโอนเงินนายคมสัน และคนร้าย ก็มีการติดต่อกันตลอด ต่อมาวันที่ 24 กุมภาพันธ์ คนร้ายได้โทรกลับไปหานายคมสัน อีกครั้งเพื่อของเงินสนับสนุนอีก พร้อมกับอ้างว่าเป็นค่าน้ำร้อนน้ำชา จำนวน 35,000 บาท นายคมสัน ก็โอนเงินดังกล่าวให้ไปอีก กระทั่งวันที่ 25 กุมภาพันธ์ คนร้ายได้ส่งข้อความมาของยืมเงินจำนวน 50,000 บาท นายคมสัน จึงสงสัยบุคคลที่โทรศัพท์มาข้างต้นว่าใช่ ผบก.น.4 จริงหรือไม่ เมื่อตรวจสอบพบว่าไม่ใช่ ผบก.น.4 จึงเดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่ สน.บางชัน
จากการตรวจสอบพบว่าหมายเลขดังกล่าวเป็นของนายเอกภพ และนายเอกภพเป็นบุคคลที่โทรศัพท์ไปขอเงินจากนายคมสัน ทั้ง 3 ครั้ง ได้เงินไปจำนวน 85,000 บาท โดยจะให้นายคมสัน โอนเงินเข้าบัญชีของนายครองราชย์ ชุดสืบสวนจึงได้ทำการติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองมาดำเนินคดี
พล.ต.ต.นันทชาติ กล่าวว่า จากการสอบปากคำผู้ต้องหาให้การรับสารว่า เป็นผู้โทรศัพท์ไปจริง โดยจะหาเบอร์กลุ่มเป้าหมายจากทางอินเตอร์เน็ตแล้วจากนั้นจึงโทรศัพท์ไปทำทีท่าจะขอเงิน ทั้งนี้นายเอกภพเป็นบุคคลที่ปลอมตัวเป็น ผบก.น.4 และนายครองราชย์ทำหน้าที่เป็นนายเวร โดยจะโทรศัพท์ไปเร่งรัดให้ผู้เสียหายโอนเงิน และเมื่อได้เงินแล้วทั้งสองก็จะนำเงินไปเล่นการพนันและเสพยา ทั้งนี้ จากการตรวจสอบประวัติพบว่า นายเอกภพ เพิ่งออกจากคุกเมื่อเดือนสิงหาคม 2559 ในข้อหาฉ้อโกงเช่นกัน และนายครองราชย์ มีหมายศาลติดในคดียาเสพติดอีกด้วย นอกจากนี้ยังพบว่านายเอกภพ ทางบ้านมีกิจการทำนิตยสาร“โล่สยาม” เกี่ยวตำรวจและสื่อจึงทำให้มีข้อมูลเกี่ยวกับตำแหน่งของตำรวจจำนวนมาก
“โดยส่วนตัวตนไม่เคยโทรศัพท์ไปขอเงินสนับสนุนใดๆ จากใคร ดังนั้นเป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นตน การกระทำดังกล่าว ทำให้ตนและตำรวจได้รับความเสียหาย ใครที่ไม่รู้ก็ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจถูกเกลียดชัง อย่างไรก็ตาม อยากฝากไปถึงพี่น้องประชาชนให้ระวังตัวอย่าหลงเชื่อ เพราะจะเกิดความเสียหายตามมา สำหรับเรื่องของคดีตนจะดำเนินการให้ถึงที่สุด และจะไม่ปล่อยให้คนแบบนี้อยู่ในสังคมต่อไป “ พล.ต.ต.นันทชาติ กล่าวทิ้งท้าย.
November 21, 2024
November 20, 2024
November 19, 2024
ชื่อ-สกุล*
อีเมล์*
เว็ปไซต์
แสดงความคิดเห็น
Notify me of follow-up comments by email.
Notify me of new posts by email.
Δ
สองหนุ่มแสบอ้างเป็นผู้การ 4 เรี่ยไรเงิน
ชุดสืบสวน กก.สส.บก.น4 รวบสองหนุ่มแสบ อ้างเป็น “ผบก.น.4” หลอกเอาเงินเจ้าของร้านอาหารแห่งหนึ่ง โดยอ้างว่าขอเงินสนับสนุนช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้
สน.บางชัน – เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 1 มีนาคม 2560 พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ผบก.น.4 พร้อมด้วย พ.ต.อ.มานพ น่วมลิวงศ์ รองผบก.น.4 พ.ต.อ.ศุภชัชจ์ เปี่ยมมนัส ผกก.สส.บก.น.4 พ.ต.อ.อดิศักดิ์ ชูพันธ์ ผกก.สน.บางชัน ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมนายเอกภพ สุขหอม หรือเบ้ อายุ 27 ปี และนายครองราชย์ จิตจำนงค์ หรือฟิว อายุ 21 ปี ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นผู้อื่น” โดยผู้ต้องหาแอบอ้างเป็น ผบก.น.4 โทรศัพท์หลอกประชาชนโอนเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้
พล.ต.ต.นันทชาติ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ นายคมสัน แซ่ตัง เจ้าของร้านอาหารวีว่า ร้านชื่อดัง ย่านซอยรามคำแหง100 แขวงและเขตสะพานสูง กรุงเทพมหานคร ผู้เสียหายเข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่ สน.บางชัน ให้ดำเนินคดีกับคนร้ายที่แอบอ้างเป็นบุคคลอื่น โดยเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ มีบุคคลได้ใช้เบอร์โทรศัพท์หมายเลข 064-278-3996 โทรหานายคมสัน อ้างว่าเป็นผู้บังคับการตำรวจนครบาล 4 (ผบก.น.4) ขอรับการสนับสนุนช่วยเหลือโรงเรียนทางภาคใต้ จำนวน 25,000 บาท โดยในโอนเงินดังกล่าวผ่านทางธนาคาร
ทั้งนี้ นายคมสัน เชื่อว่าปลายสายคือ ผบก.น.4 เป็นคนที่โทรศัพท์มาจริง เนื่องจากมีเสียงที่คล้ายกัน และนายคมสัน เคยพบกับ ผบก.น.4 เพียงไม่กี่ครั้ง และด้วยความเกรงใจจึงตัดสินใจโอนเงินผ่านโทรศัพท์มือถือ และได้ส่งหลักฐานไปยันยืน ภายหลังการโอนเงินนายคมสัน และคนร้าย ก็มีการติดต่อกันตลอด ต่อมาวันที่ 24 กุมภาพันธ์ คนร้ายได้โทรกลับไปหานายคมสัน อีกครั้งเพื่อของเงินสนับสนุนอีก พร้อมกับอ้างว่าเป็นค่าน้ำร้อนน้ำชา จำนวน 35,000 บาท นายคมสัน ก็โอนเงินดังกล่าวให้ไปอีก กระทั่งวันที่ 25 กุมภาพันธ์ คนร้ายได้ส่งข้อความมาของยืมเงินจำนวน 50,000 บาท นายคมสัน จึงสงสัยบุคคลที่โทรศัพท์มาข้างต้นว่าใช่ ผบก.น.4 จริงหรือไม่ เมื่อตรวจสอบพบว่าไม่ใช่ ผบก.น.4 จึงเดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่ สน.บางชัน
จากการตรวจสอบพบว่าหมายเลขดังกล่าวเป็นของนายเอกภพ และนายเอกภพเป็นบุคคลที่โทรศัพท์ไปขอเงินจากนายคมสัน ทั้ง 3 ครั้ง ได้เงินไปจำนวน 85,000 บาท โดยจะให้นายคมสัน โอนเงินเข้าบัญชีของนายครองราชย์ ชุดสืบสวนจึงได้ทำการติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองมาดำเนินคดี
พล.ต.ต.นันทชาติ กล่าวว่า จากการสอบปากคำผู้ต้องหาให้การรับสารว่า เป็นผู้โทรศัพท์ไปจริง โดยจะหาเบอร์กลุ่มเป้าหมายจากทางอินเตอร์เน็ตแล้วจากนั้นจึงโทรศัพท์ไปทำทีท่าจะขอเงิน ทั้งนี้นายเอกภพเป็นบุคคลที่ปลอมตัวเป็น ผบก.น.4 และนายครองราชย์ทำหน้าที่เป็นนายเวร โดยจะโทรศัพท์ไปเร่งรัดให้ผู้เสียหายโอนเงิน และเมื่อได้เงินแล้วทั้งสองก็จะนำเงินไปเล่นการพนันและเสพยา ทั้งนี้ จากการตรวจสอบประวัติพบว่า นายเอกภพ เพิ่งออกจากคุกเมื่อเดือนสิงหาคม 2559 ในข้อหาฉ้อโกงเช่นกัน และนายครองราชย์ มีหมายศาลติดในคดียาเสพติดอีกด้วย นอกจากนี้ยังพบว่านายเอกภพ ทางบ้านมีกิจการทำนิตยสาร“โล่สยาม” เกี่ยวตำรวจและสื่อจึงทำให้มีข้อมูลเกี่ยวกับตำแหน่งของตำรวจจำนวนมาก
“โดยส่วนตัวตนไม่เคยโทรศัพท์ไปขอเงินสนับสนุนใดๆ จากใคร ดังนั้นเป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นตน การกระทำดังกล่าว ทำให้ตนและตำรวจได้รับความเสียหาย ใครที่ไม่รู้ก็ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจถูกเกลียดชัง อย่างไรก็ตาม อยากฝากไปถึงพี่น้องประชาชนให้ระวังตัวอย่าหลงเชื่อ เพราะจะเกิดความเสียหายตามมา สำหรับเรื่องของคดีตนจะดำเนินการให้ถึงที่สุด และจะไม่ปล่อยให้คนแบบนี้อยู่ในสังคมต่อไป “ พล.ต.ต.นันทชาติ กล่าวทิ้งท้าย.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
โรงไฟฟ้าขนอม ร่วมสืบสานประเพณีลอยกระทง สร้างความสุขทั่วอำเภอขนอม
November 21, 2024
โรงไฟฟ้าขนอม ร่วมส่งเสริมสุขภาพชุมชน สนับสนุนอบรม อสม.ใหม่/ทดแทน
November 21, 2024
อบจ.สงขลา ร่วมรับรางวัลประกาศเกียรติคุณ “ค่าของแผ่นดิน” ประจำปี 2566 ด้านการพัฒนาสังคมและส่งเสริมคุณภาพชีวิต จากโครงการ ...
November 20, 2024
อโกด้าเผย หาดใหญ่คว้าแชมป์เมืองท่องเที่ยวที่คุ้มค่าที่สุดในไทย ช่วงเทศกาลส่งท้ายปี
November 19, 2024