สุดยอด! นักเรียนโรงเรียนอนุบาลละงู จ.สตูล ประดิษฐ์ “เครื่องตัดไข่ครอบ” หรือ“อุปกรณ์ ตัดเปลือกไข่เป็ดสำหรับการทำไข่ครอบ” สามารถพิชิตรางวัลเหรียญทองชนะเลิศการประกวดโครงงานวิทยาศาสตร์ ประเภทสิ่งประดิษฐ์ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 (กลุ่มโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา) ในงานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ระดับชาติ ครั้งที่ 66 ปีการศึกษา 2559 เวทีแห่งการแสดงศักยภาพทางการศึกษาขั้นพื้นฐานของนักเรียน ครู จากทุกภูมิภาคของประเทศ ซึ่งจัดโดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ระหว่างวันที่ 29-31 มกราคม 2560 ภายใต้แนวคิด “สืบสานศิลปหัตถกรรมไทยเลิศหล้า 5 แผ่นดิน” ณ ศูนย์ประชุมมหา วิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต จังหวัดปทุมธานี
เจ้าของโครงงานสิ่งประดิษฐ์ “เครื่องตัดไข่ครอบ” ที่กล่าวถึงนี้คือ ด.ช.ธีทัต เล่งเจ๊ะ ชั้นมัธยม ศึกษาปีที่ 1 ด.ญ.ชลธิชา แดหวัน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 และด.ญ.ศศิวิมล ปราบปัจจะ ชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 2 ซึ่งมีคุณครูอามาลีนา มานะกล้า และคุณครูนางสาวนิภา แอหลัง เป็นผู้ให้คำปรึกษาและแนะนำจนทำให้โครงงานประสบผลสำเร็จ
เครื่องตัดไข่ครอบที่เด็ก ๆ ประดิษฐ์ขึ้นนี้ สามารถตัดเปลือกไข่เป็ดสด ได้ครั้งละ 8 ฟอง ใช้เวลาเพียง 1 นาที โดย 1 ชั่วโมง สามารถตัดได้ 450 ฟอง อีกทั้งเปลือกไข่ที่ตัดจะมีขอบเรียบสวยทั้งเปลือกส่วนบนและเปลือกส่วนล่าง และขนาดเท่ากันทุกฟอง ขณะที่วิธีแบบเดิมๆ ใช้การกะเทาะเปลือกไข่ส่วนบนให้แตก แล้วใช้กรรไกรตัดแต่งเปลือกไข่ส่วนลางให้เรียบเสมอกัน
ส่วนกระบวนการทำไข่ของเด็ก ๆ จะนำไข่เป็ดจากการตัด มาแยกเอาเฉพาะไข่แดง และนำไปแช่น้ำเกลือในกะละมังสแตนเลส (ใช้เกลือป่นละลายในน้ำสะอาด) เด็ก ๆบอกว่าวิธีนี้จะทำให้ไข่แดงจับตัวและไม่แตก แช่ไว้ประมาณ 5-7 นาที หลังจากนั้นนำไข่แดง 2 ฟอง ใส่ในเปลือกไข่เป็ดส่วนล่างที่ล้างสะอาด หยอดเกลืออีกนิดหน่อย ปิดด้วยเปลือกไข่ส่วนบน แล้วนำไปนึ่งด้วยน้ำใส่ใบเตยประมาณ 7 นาที จะได้ไข่ครอบรสชาติแสนอร่อย น่ากิ๊น น่ากิน แถมมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของใบเตยด้วย
ด.ญ.ชลธิชา แดหวัน เล่าถึงเหตุผลที่คิดโครงงานประดิษฐ์ “เครื่องตัดไข่ครอบ” ว่าเกิดจากการไปทัศนศึกษาดูการผลิตไข่ครอบภูมิปัญญาท้องถิ่นหมู่บ้านแถบริมทะเลสาบสงขลา เมื่อกลับมาก็คิดว่าจะทำยังไงที่จะสามารถตัดไข่เป็ดให้ได้จำนวนมากและใช้เวลาให้น้อยลง เมื่อคุณครูให้ทำโครงงานก็นำความคิดนำเสนอ ช่วยกันคิด ช่วยกันศึกษาวิธีการ และลงมือทำ
“เครื่องตัดไข่ครอบ” ใช้เวลาในการคิดและทดลอง ประมาณ 2-3 เดือน วัสดุหลักที่ใช้ เช่น วงล้อรถจักรยานยนต์ ยางในล้อรถจักรยานยนต์ มอเตอร์พัดลมแอร์รถยนต์ มอเตอร์ที่ปัดน้ำฝนรถยนต์ ใบตัดหินแกรนิต โมเลย์เครื่องซักผ้า ลูกปืน กะละมัง ฯลฯ ใช้พื้นฐานความรู้ทางวิทยาศาสตร์แรงกิริยา แรงปฏิกิริยา แรงหมุน แรงสู่ศูนย์กลาง เป็นส่วนสำคัญในการประดิษฐ์ มีต้นทุนที่ 2,000 บาท
จากนั้นนำสู่กระบวนการทดลอง 5 ครั้ง โดยวางสมมติฐานว่าการตัดเปลือกไข่ด้วยเครื่องตัดเปลือกไข่ครอบและกรรไกร กับระยะเวลา 1 ชั่วโมง จะได้ปริมาณไข่กี่ฟองและการแตกของไข่แดงเป็นอย่างไร พบว่าในเวลา 1 ชั่วโมง ถ้าใช้เครื่องตัดเปลือกไข่ จะได้ 450 ฟอง ส่วนถ้าใช้กรรไกร จะได้เพียง 64 ฟอง ส่วนอัตราการแตกของไข่แดงจะเท่ากัน
ขณะที่ นายปริญญา ดำเต๊ะ ผู้อำนวยการโรงเรียน กล่าวว่า รู้สึกภูมิใจที่นักเรียนใช้ความรู้ ทักษะ และประสบการณ์ต่าง ๆ สร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ ที่สร้างชื่อเสียงมาสู่โรงเรียนและจังหวัด นับเป็นมิติที่ดีในการก้าวสู่ประเทศไทย 4.0 และสู่สากล เด็กๆ กลุ่มนี้ยังได้รับโอกาสที่ดีจากสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ให้ไปแลกเปลี่ยนเรียนรู้ที่ประเทศญี่ปุ่นในเร็วๆ นี้ ซึ่งในโอกาสต่อไป โรงเรียนจะขยายผลการเรียนรู้แบบโครงงานวิทยาศาสตร์ไปสู่นักเรียนทุกคน เพื่อผลิตพลเมืองไทยที่มีคุณภาพ ช่วยพัฒนาประเทศชาติให้เจริญก้าวหน้ายิ่งขึ้น.
November 21, 2025
November 19, 2025
November 18, 2025
November 17, 2025
ชื่อ-สกุล*
อีเมล์*
เว็ปไซต์
แสดงความคิดเห็น
Notify me of follow-up comments by email.
Notify me of new posts by email.
Δ
สุดยอด! ร.ร.อนุบาลละงู คว้ารางวัลเหรียญทองชนะเลิศสิ่งประดิษฐ์ “เครื่องตัดไข่ครอบ”
สุดยอด! นักเรียนโรงเรียนอนุบาลละงู จ.สตูล ประดิษฐ์ “เครื่องตัดไข่ครอบ” หรือ“อุปกรณ์ ตัดเปลือกไข่เป็ดสำหรับการทำไข่ครอบ” สามารถพิชิตรางวัลเหรียญทองชนะเลิศการประกวดโครงงานวิทยาศาสตร์ ประเภทสิ่งประดิษฐ์ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 (กลุ่มโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา) ในงานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ระดับชาติ ครั้งที่ 66 ปีการศึกษา 2559 เวทีแห่งการแสดงศักยภาพทางการศึกษาขั้นพื้นฐานของนักเรียน ครู จากทุกภูมิภาคของประเทศ ซึ่งจัดโดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ระหว่างวันที่ 29-31 มกราคม 2560 ภายใต้แนวคิด “สืบสานศิลปหัตถกรรมไทยเลิศหล้า 5 แผ่นดิน” ณ ศูนย์ประชุมมหา วิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต จังหวัดปทุมธานี
เจ้าของโครงงานสิ่งประดิษฐ์ “เครื่องตัดไข่ครอบ” ที่กล่าวถึงนี้คือ ด.ช.ธีทัต เล่งเจ๊ะ ชั้นมัธยม ศึกษาปีที่ 1 ด.ญ.ชลธิชา แดหวัน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 และด.ญ.ศศิวิมล ปราบปัจจะ ชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 2 ซึ่งมีคุณครูอามาลีนา มานะกล้า และคุณครูนางสาวนิภา แอหลัง เป็นผู้ให้คำปรึกษาและแนะนำจนทำให้โครงงานประสบผลสำเร็จ
เครื่องตัดไข่ครอบที่เด็ก ๆ ประดิษฐ์ขึ้นนี้ สามารถตัดเปลือกไข่เป็ดสด ได้ครั้งละ 8 ฟอง ใช้เวลาเพียง 1 นาที โดย 1 ชั่วโมง สามารถตัดได้ 450 ฟอง อีกทั้งเปลือกไข่ที่ตัดจะมีขอบเรียบสวยทั้งเปลือกส่วนบนและเปลือกส่วนล่าง และขนาดเท่ากันทุกฟอง ขณะที่วิธีแบบเดิมๆ ใช้การกะเทาะเปลือกไข่ส่วนบนให้แตก แล้วใช้กรรไกรตัดแต่งเปลือกไข่ส่วนลางให้เรียบเสมอกัน
ส่วนกระบวนการทำไข่ของเด็ก ๆ จะนำไข่เป็ดจากการตัด มาแยกเอาเฉพาะไข่แดง และนำไปแช่น้ำเกลือในกะละมังสแตนเลส (ใช้เกลือป่นละลายในน้ำสะอาด) เด็ก ๆบอกว่าวิธีนี้จะทำให้ไข่แดงจับตัวและไม่แตก แช่ไว้ประมาณ 5-7 นาที หลังจากนั้นนำไข่แดง 2 ฟอง ใส่ในเปลือกไข่เป็ดส่วนล่างที่ล้างสะอาด หยอดเกลืออีกนิดหน่อย ปิดด้วยเปลือกไข่ส่วนบน แล้วนำไปนึ่งด้วยน้ำใส่ใบเตยประมาณ 7 นาที จะได้ไข่ครอบรสชาติแสนอร่อย น่ากิ๊น น่ากิน แถมมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของใบเตยด้วย
ด.ญ.ชลธิชา แดหวัน เล่าถึงเหตุผลที่คิดโครงงานประดิษฐ์ “เครื่องตัดไข่ครอบ” ว่าเกิดจากการไปทัศนศึกษาดูการผลิตไข่ครอบภูมิปัญญาท้องถิ่นหมู่บ้านแถบริมทะเลสาบสงขลา เมื่อกลับมาก็คิดว่าจะทำยังไงที่จะสามารถตัดไข่เป็ดให้ได้จำนวนมากและใช้เวลาให้น้อยลง เมื่อคุณครูให้ทำโครงงานก็นำความคิดนำเสนอ ช่วยกันคิด ช่วยกันศึกษาวิธีการ และลงมือทำ
“เครื่องตัดไข่ครอบ” ใช้เวลาในการคิดและทดลอง ประมาณ 2-3 เดือน วัสดุหลักที่ใช้ เช่น วงล้อรถจักรยานยนต์ ยางในล้อรถจักรยานยนต์ มอเตอร์พัดลมแอร์รถยนต์ มอเตอร์ที่ปัดน้ำฝนรถยนต์ ใบตัดหินแกรนิต โมเลย์เครื่องซักผ้า ลูกปืน กะละมัง ฯลฯ ใช้พื้นฐานความรู้ทางวิทยาศาสตร์แรงกิริยา แรงปฏิกิริยา แรงหมุน แรงสู่ศูนย์กลาง เป็นส่วนสำคัญในการประดิษฐ์ มีต้นทุนที่ 2,000 บาท
จากนั้นนำสู่กระบวนการทดลอง 5 ครั้ง โดยวางสมมติฐานว่าการตัดเปลือกไข่ด้วยเครื่องตัดเปลือกไข่ครอบและกรรไกร กับระยะเวลา 1 ชั่วโมง จะได้ปริมาณไข่กี่ฟองและการแตกของไข่แดงเป็นอย่างไร พบว่าในเวลา 1 ชั่วโมง ถ้าใช้เครื่องตัดเปลือกไข่ จะได้ 450 ฟอง ส่วนถ้าใช้กรรไกร จะได้เพียง 64 ฟอง ส่วนอัตราการแตกของไข่แดงจะเท่ากัน
ขณะที่ นายปริญญา ดำเต๊ะ ผู้อำนวยการโรงเรียน กล่าวว่า รู้สึกภูมิใจที่นักเรียนใช้ความรู้ ทักษะ และประสบการณ์ต่าง ๆ สร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ ที่สร้างชื่อเสียงมาสู่โรงเรียนและจังหวัด นับเป็นมิติที่ดีในการก้าวสู่ประเทศไทย 4.0 และสู่สากล เด็กๆ กลุ่มนี้ยังได้รับโอกาสที่ดีจากสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ให้ไปแลกเปลี่ยนเรียนรู้ที่ประเทศญี่ปุ่นในเร็วๆ นี้ ซึ่งในโอกาสต่อไป โรงเรียนจะขยายผลการเรียนรู้แบบโครงงานวิทยาศาสตร์ไปสู่นักเรียนทุกคน เพื่อผลิตพลเมืองไทยที่มีคุณภาพ ช่วยพัฒนาประเทศชาติให้เจริญก้าวหน้ายิ่งขึ้น.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ม.ทักษิณ เปิดสนามประลองไอเดียธุรกิจ TSU Premier Pitch 2025 ดันนิสิตสู่ธุรกิจสตาร์ทอัพ
November 21, 2025
มรภ.สงขลา เยือน มรภ.วไลยอลงกรณ์ฯ จัดอบรมใช้งานระบบ “Big Data” ครั้งที่ ...
November 19, 2025
สกสว. จัดงาน Thailand Talent Summit 2025 รวมพลนักวิจัยไทยกว่า ...
November 18, 2025
มรภ.สงขลา มอบประกาศนียบัตรบัณฑิตพันธุ์ใหม่ หลักสูตรประยุกต์ใช้เทคโนโลยีอัจฉริยะเพื่อพัฒนาสื่อการเรียนการสอนดิจิทัลฯ ยกระดับขีดความสามารถบุคลากรทางการศึกษา พัฒนาผู้เรียนอย่างยั่งยืน
November 17, 2025