สำนักงานตำรวจแห่งชาติ/ วันที่ 20 ก.พ. 60 เวลา 10.30 น. พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. เป็นประธานแถลงข่าวการจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดรายสำคัญ จำนวน 3 คดี โดยมี พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ร่วมแถลงข่าว ณ ห้องศรียานนท์ ชั้น 2 อาคาร 1 ตร.
กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ภายใต้อำนวยการของของ พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข ผบช.ปส., พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผบช.ภ.5, พล.ท.วิจักขฐ์ สิริบรรสพ แม่ทัพภาคที่ 3, พล.ท.ธนา จารุวัต แม่ทัพน้อยที่ 3/ผอ.ศป.ปส.ชน., พล.ท.ดร.ธนเกียรติ ชอบชื่นชม ผบ.ศรภ., นายศิรินทร์ยา สิทธิชัย เลขาธิการป.ป.ส., พล.ต.ต.ศุภกิจ ศรีจันทรนนท์, พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์, พล.ต.ต.ทนงศักดิ์ ทั่งทอง, พล.ต.ต.ชาตรี ไพศาลศิลป์ รอง ผบช.ปส., พล.ต.ต.สุรศักดิ์ ขุนณรงค์ ผบก.ปส.1, พล.ต.ต.ทีฆโชติ สุวรรณาคม ผบก.ปส.2, พล.ต.ต.วุฒิพงศ์ เพ็ชรกำเหนิด ผบก.ปส.3, พล.ต.ต.ดุษฎี ชูสังกิจ ผบก.ปส.4, พล.ต.ต.ทนัย อภิชาติเสนีย์ ผบก.สกส., พล.ต.ต.ชยพจน์ หาสุณหะ ผบก.ขส.บช.ปส., พล.ต.ต.ภาณุวิชญ์ ทองยิ้ม ผบก.อก.บช.ปส., พล.ต.ต.สุนทร เฉลิมเกียรติ ผบก.ประจำ บช.ปส. (ทำหน้าที่โฆษก บช.ปส.) และ พ.ต.อ.อานันทพงศ์ เชิดเกียรติกุล หน.สง.ผบช.ปส., พ.อ.อนุรักษ์ ทับคล้าย หัวหน้าศูนย์ข่าวยาเสพติด กองทัพภาคที่ 3, พ.อ.ประดิยุทธ์ กลิ่นศรีสุข ผอ.กอง 12 ศรภ. ได้ร่วมกันอำนวยการสืบสวนเร่งรัดผู้ใต้บังคับบัญชาเพื่อปฏิบัติการสืบสวนปราบปรามยาเสพติด ตามนโยบายของรัฐบาล ปรากฏผล การจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดรายสำคัญ จำนวน 2 คดี ดังนี้
คดีที่ 1 เมื่อวันที่ 17 ก.พ. 2560 เวลาประมาณ 15.40 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติด (บก.สกส.บช.ปส.) ร่วมกับ สภ.แม่พริก, สภ.เวียงมอก, สภ.เถิน, ร้อย ร.ส. ที่ 2 (ร.17 พัน 2), เจ้าหน้าที่สำนักปราบปรามยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส. และ บก.ขส.บช.ปส. ได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา จำนวน 1 ราย คือ 1. นายชาตรี แซ่เฮ้อ อายุ 24 ปี จว.เชียงราย พร้อมด้วยของกลาง 1. ยาบ้า รวมประมาณ 5,880,000 เม็ด โดยตรวจยึดจากรถยนต์กระบะ 2 คัน 1.1 ยาบ้า ประมาณ 3,420,000 เม็ด (ยึดจากคันที่ 1) 1.2 ยาบ้า ประมาณ 2,460,000 เม็ด (ยึดจากคันที่ 2) 2. ไอซ์ จำนวน 20 กก. (ยึดจากคันที่ 1) 3. รถยนต์กระบะ ทะเบียน 3 กฎ 8666 กทม. ยี่ห้อฟอร์ด สีดำ จำนวน 1 คัน (คันที่ 1) 4. รถยนต์กระบะ ทะเบียน ก-1436 ปทุมธานี ป้ายแดง ยี่ห้ออีซูซุ สีเทา จำนวน 1 คัน (คันที่ 2) 5. รถยนต์กระบะ ทะเบียน บร 2902 พระนครศรีอยุธยา ยี่ห้อเชฟโรเลท สีขาว จำนวน 1 คัน (คันที่ 3) 6. โทรศัพท์มือถือ จำนวน 2 เครื่อง สถานที่จับกุม ทางหลวงจังหวัดลำปางหมายเลข 1048 (เถิน-ทุ่งเสลี่ยม) ต.แม่มอก อ.เถิน จ.ลำปาง
โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันกับพวกที่หลบหนีมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต” พฤติการณ์แห่งคดี เมื่อวันที่ 17 ก.พ. 2560 เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติด (บก.สกส.บช.ปส.) ได้รับแจ้งจากสายลับว่า จะมีกลุ่มคนไทยเชื้อสายม้งที่ใช้รถยนต์กระบะลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากทางด้านจังหวัดเชียงราย เพื่อนำเข้าสู่ตอนในของประเทศ โดยได้ใช้เส้นทางหลบด่าน X-ray แม่พริก จว.ลำปาง เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้แสดงตัวขอตรวจค้น ไม่ยอมหยุดให้ตรวจค้นโดยเร่งความเร็วหลบหนีไป เจ้าหน้าที่ตำรวจฯ จึงได้ขับรถไล่ติดตามและใช้อาวุธปืนพกยิงยางรถกระบะคัน ทะเบียน 2กฎ 8666 กทม. ยี่ห้อฟอร์ด สีดำ แตกทั้ง 4 เส้น จึงหยุดรถไว้ได้ แต่ ผู้ต้องหาได้เปิดประตูรถหนีเข้าป่าข้างทางไป และตรวจค้นในรถคันดังกล่าวพบยาบ้าของกลางในลำดับที่ 1.1 และได้ติดตามรถยนต์กระบะคันทะเบียน ก-1436 ปทุมธานี ป้ายแดง เข้าไปในป่าตามเส้นทางหลบหนีพบนำของกลางในลำดับที่ 1.2 ทิ้งไว้ ในป่าข้างทางและทิ้งรถไว้ใกล้กันและคนในรถหลบหนีไป และสามารถจับกุมนายชาตรี แซ่เฮ้อ ซึ่งพร้อมรถยนต์กระบะคัน ทะเบียน บร 2902 พระนครศรีอยุธยา ยี่ห้อเชฟโรเลท สีขาว ที่ขับสำรวจเส้นทางไว้ได้ขณะแยกย้ายกันหลบหนี
คดีที่ 2 เมื่อวันที่ 16 ก.พ. 2560 ระหว่างเวลาประมาณ 19.00 น.-12.00 น. ของวันที่ 17 ก.พ. 2560 เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปส.3 ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สวข.ชม.บก.ขส.บช.ปส., เจ้าหน้าที่สำนักปราบปรามยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส. ได้ร่วมกันจับกุม ขบวนการค้ายาเสพติด ผู้ต้องหารวม 3 คน คือ 1. นายเรวัต หรือนน ยินดี อายุ 17 ปี (เยาวชน) จ.สมุทรปราการ (ผู้ต้องหาที่ 1) 2. นายณัฐพงษ์ หรือบูม ทองสุข อายุ 21 ปี จ.ร้อยเอ็ด (ผู้ต้องหาที่ 2) 3. นายทิวากร ปานจันทร์ดี อายุ 23 ปี จ.สมุทรปราการ (ผู้ต้องหาที่ 3) พร้อมของกลาง 1. ยาบ้า จำนวน 139 มัด กับ 9 ถุง รวมประมาณ 279,760 เม็ด 2. ไอซ์ ประมาณ 16.55 กิโลกรัม 3. ยาเค หรือ เคตามีน รวมน้ำหนักทั้งหมดประมาณ 3.20 กิโลกรัม 4. รถจักรยานยนต์ จำนวน 3 คัน 5. โทรศัพท์มือถือ จำนวน 3 เครื่อง สถานที่จับกุม จับกุมผู้ต้องหาที่ 1 และ 3 บริเวณลานจอดรถศูนย์แสดงสินค้าไบเทคบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร สถานที่เกิดเหตุ/จับกุม จับกุม นายณัฐพงษ์ หรือบูมฯ (ผู้ต้องหาที่ 2) ที่ปากซอยพระรามที่ 2 ซอย 25 แขวงบางมด เขตจอมทอง กรุงเทพฯ ต่อเนื่องจับกุม นายเรวัต หรือนนท์ฯ (ผู้ต้องหาที่ 1) ที่ริมถนนพุทธบูชา ซอย 5 ถนนพุทธบูชา แขวงบางมด เขตจอมทอง กรุงเทพฯ และจับกุม นายทิวากรฯ (ผู้ต้องหาที่ 3) ที่หน้าบ้านเลขที่ 149/10 ซ.สุขสวัสดิ์ 26 แขวงบางประกอก เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ
โดยกล่าวหาว่า ผู้ต้องหาที่ 1 และ 2 “ ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาเสพติดของกลางลำดับที่ 1) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต ” กล่าวหาผู้ต้องหาที่ 1, 2 และ 3 “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาเสพติดของกลางลำดับที่ 2) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต” กล่าวหาผู้ต้องหาที่ 1 และ 2 “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาเสพติดของกลางลำดับที่ 3 และ 4) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต”
กล่าวหาผู้ต้องหาที่ 1 และ 2 “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 2 (ยาเสพติดของกลางลำดับที่ 5) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต” พฤติการณ์แห่งคดี ก่อนจับกุมชุดสืบสวนจับกุม ได้รับแจ้งจากสายลับว่า จะมีผู้ค้ายาเสพติด รายใหญ่ทางภาคเหนือ ส่งยาเสพติดจำนวนมากให้ กับเครือข่ายเจ๊หมวย เพื่อกระจายส่งต่อไปให้ลูกค้าในกรุงเทพฯ ย่านฝั่งธนบุรี และปริมณฑล โดยมีนายนนท์ หรือเรวัตฯ ผู้ต้องหาที่ 1 และนายบูม หรือณัฐพงษ์ฯ ทำหน้าที่เก็บพักยาเสพติดดังกล่าว แล้วให้ ผู้ต้องหาที่ 1 ใช้จักรยานยนต์เป็นพาหนะคอยกระจายส่งให้ลูกค้าตามคำสั่งการของผู้ว่าจ้าง กระทั่งต่อมาตามวันเวลาเกิดเหตุ พบผู้ต้องหาที่ 1 ใช้จักรยานยนต์ เป็นพาหนะ รับยาบ้า จาก นายบูม หรือณัฐพงษ์ฯ ที่ขับรถจักรยานยนต์ของตนมาพบ โดยรับยาบ้ากันที่ ปากซอย 25 ถนนพระราม 2ฯ จึงจับกุมผู้ต้องหาที่ 2 ไว้ แล้วติดตามผู้ต้องหาที่ 1 พบนำยาบ้า มาส่งมอบให้กับนายทิวากรฯ ผู้ต้องหาที่ 3 ที่ริมถนนพุทธบูชา ซอย 5ฯ จึงจับกุมผู้ต้องหาที่ 1 และ 3 ไว้ ตรวจค้นพบ ยาบ้า ในความครอบครองของผู้ต้องหาที่ 1 แล้วควบคุมตัวผู้ต้องหาที่ 2 เข้าตรวจค้นห้องพัก (81/40 ซ.สุขสวัสดิ์ 26ฯ) พบ ยาบ้า ยาบ้า, ไอซ์, เคตามีน จึงยึดไว้เป็นของกลาง แล้วควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสอง พร้อมของกลางทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวนกลุ่มงานสอบสวนฯ บก.ปส.3 บช.ปส. ดำเนินดคี กองบัญชาการตำรวจนครบาล ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุธีร์ เนรกัณฐี, พล.ต.ต.สมพงษ์ ชิงดวง, พล.ต.ต.สุรชัย ควรเดชะคุปต์, พล.ต.ต.ชัยพร พานิชอัตรา, พล.ต.ต.มนตรี ยิ้มแย้ม, พล.ต.ต.อำพล บัวรับพร, พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ หลักบุญ, พล.ต.ต.สมชาย นิตยบวรกุล, พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รอง ผบช.น., พล.ต.ต. สัมฤทธิ์ ตงเต๊า ผบก.น.8 พร้อมด้วย พ.ต.อ.ชูศักดิ์ เตชะรักษ์พงษ์, พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ อรัญวัฒน์, พ.ต.อ.ญาณพงศ์ โสมาภา, พ.ต.อ.โชคชัย งามวงศ์, พ.ต.อ.ศุภรกฤษฎิ์ ประชากิตติกุล, พ.ต.อ.มานพ สุคนธ์ธนพัฒน์ รอง ผบก.น.8 มอบหมายให้กองกำกับการสืบสวนสอบสวนนครบาล 8 โดย พ.ต.อ.ประสงค์ อานมณี ผกก.สส.บก.น.8, พ.ต.ท.วิชัย สนสกุล รอง ผกกฯ, พ.ต.ท.เลิศศักดิ์ เขียมทรัพย์ รอง ผกก.ฯ, พ.ต.ท.วาทิตย์ โรจน์ไพฑูรย์ รอง ผกก.ฯ, พ.ต.ท.ศุทรา หล่าสกุล สว.ฯ, พ.ต.ท.ณัตปภัทร สัมพันธ์สิทธิ์ สว.ฯ, พ.ต.ท.ทวิช เพ็ญอัมพร สว.ฯ, พ.ต.ต.สามารถ ด้วงทรง สว.ฯ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บก.น.8 ได้ร่วมกันทำการจับกุมยาเสพติดรายสำคัญ คือ 1. นาย ปราโมทย์ ไหมบัวเขียว ผู้ต้องหาที่ 1 อายุ 25 ปี จ.อุตรดิตถ์ 2. นาย สมชาย ทองประดิษฐ์ ผู้ต้องหาที่ 2 อายุ 52 ปี จ.อุตรดิตถ์ 3. น.ส.ศรัณยา ม่วงจันทร์ ผู้ต้องหาที่ 3 อายุ 23 ปี จ.อุตรดิตถ์ พร้อมด้วยของกลาง คือ 1. ยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาไอซ์) จำนวน 80 ห่อ น้ำหนักประมาณ 80 กิโลกรัม 2. ยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (เฮโรอีน) จำนวน 10 ก้อน (20 แท่ง) รวมน้ำหนักประมาณ 7.2 กิโลกรัม 3. รถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยี่ห้ออีซูซุ รุ่นมิว x สีขาว ทะเบียน 2 กบ 9669 กรุงเทพฯ จำนวน 1 คัน 4. โทรศัพท์เคลื่อนที่ใช้ในการติดต่อซื้อขายยาเสพติด จำนวน 5 เครื่อง โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาไอซ์ และ เฮโรอีน) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย” จับกุมที่บริเวณบ้านเลขที่ 100/63 โครงการเดอะเบสท์ (หทัยราษฎร์) ถ.ไทยเจริญ แขวงสามวาตะวันตก เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 18 ก.พ.60 เวลา 10.00 น.
พฤติการณ์การจับกุม สืบเนื่องจาก กก.สส.บก.น.8 ได้จับกุมยาเสพติดรายสำคัญก่อนหน้านี้ จึงได้ทำการสืบสวนขยายผลจนทราบว่า ผู้ต้องหาทั้งหมดข้างต้นมีพฤติการณ์เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มเครือข่ายยาเสพติด ร่วมกันรับยาเฮโรอีนและยาไอซ์ มาจากทางภาคเหนือ แล้วนำไปซุกซ่อนใส่กล่องแล้วนำส่งทางพัสดุไปให้ลูกค้าทางภาคใต้ โดยใช้วิธีฝากไปกับรถโดยสารประจำทาง ก่อนวันเวลาจับกุม เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเฝ้าติดตามดูพฤติการณ์ พบว่ากลุ่มผู้ต้องหาทั้งหมดดังกล่าว ได้นำยาเสพติด ของกลางมาเก็บไว้ที่บ้านเลขที่ดังกล่าวข้างต้น ต่อมาตามวันเวลาจับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าตรวจค้นจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมด พร้อมด้วยของกลางตามวันเวลาดังกล่าวข้างต้น ในส่วนเครือข่ายยาเสพติดที่เกี่ยวข้องจะได้สืบสวนขยายผลติดตามจับกุมต่อไป
อนึ่ง สำนักงานตำรวจแห่งชาติขอเรียนมายังพี่น้องประชาชนเพื่อโปรดช่วยกันสอดส่องดูแลการแพร่ระบาดของยาเสพติดอันจะก่อให้เกิดอันตรายต่อสังคม และหากพบเห็นหรือทราบเบาะแสในการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด สามารถแจ้งเบาะแสหรือข้อร้องเรียน มายังสายด่วน 191 และ 1599 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือที่ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด หมายเลขโทรศัพท์ 02 521 8266-75 www.thaidrugpolice.com.
November 21, 2024
November 20, 2024
November 19, 2024
ชื่อ-สกุล*
อีเมล์*
เว็ปไซต์
แสดงความคิดเห็น
Notify me of follow-up comments by email.
Notify me of new posts by email.
Δ
สำนักงานตำรวจแห่งชาติแถลงข่าวการจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดรายสำคัญ จำนวน 3 คดี
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ/ วันที่ 20 ก.พ. 60 เวลา 10.30 น. พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. เป็นประธานแถลงข่าวการจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดรายสำคัญ จำนวน 3 คดี โดยมี พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ร่วมแถลงข่าว ณ ห้องศรียานนท์ ชั้น 2 อาคาร 1 ตร.
กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ภายใต้อำนวยการของของ พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข ผบช.ปส., พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผบช.ภ.5, พล.ท.วิจักขฐ์ สิริบรรสพ แม่ทัพภาคที่ 3, พล.ท.ธนา จารุวัต แม่ทัพน้อยที่ 3/ผอ.ศป.ปส.ชน., พล.ท.ดร.ธนเกียรติ ชอบชื่นชม ผบ.ศรภ., นายศิรินทร์ยา สิทธิชัย เลขาธิการป.ป.ส., พล.ต.ต.ศุภกิจ ศรีจันทรนนท์, พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์, พล.ต.ต.ทนงศักดิ์ ทั่งทอง, พล.ต.ต.ชาตรี ไพศาลศิลป์ รอง ผบช.ปส., พล.ต.ต.สุรศักดิ์ ขุนณรงค์ ผบก.ปส.1, พล.ต.ต.ทีฆโชติ สุวรรณาคม ผบก.ปส.2, พล.ต.ต.วุฒิพงศ์ เพ็ชรกำเหนิด ผบก.ปส.3, พล.ต.ต.ดุษฎี ชูสังกิจ ผบก.ปส.4, พล.ต.ต.ทนัย อภิชาติเสนีย์ ผบก.สกส., พล.ต.ต.ชยพจน์ หาสุณหะ ผบก.ขส.บช.ปส., พล.ต.ต.ภาณุวิชญ์ ทองยิ้ม ผบก.อก.บช.ปส., พล.ต.ต.สุนทร เฉลิมเกียรติ ผบก.ประจำ บช.ปส. (ทำหน้าที่โฆษก บช.ปส.) และ พ.ต.อ.อานันทพงศ์ เชิดเกียรติกุล หน.สง.ผบช.ปส., พ.อ.อนุรักษ์ ทับคล้าย หัวหน้าศูนย์ข่าวยาเสพติด กองทัพภาคที่ 3, พ.อ.ประดิยุทธ์ กลิ่นศรีสุข ผอ.กอง 12 ศรภ. ได้ร่วมกันอำนวยการสืบสวนเร่งรัดผู้ใต้บังคับบัญชาเพื่อปฏิบัติการสืบสวนปราบปรามยาเสพติด ตามนโยบายของรัฐบาล ปรากฏผล การจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดรายสำคัญ จำนวน 2 คดี ดังนี้
คดีที่ 1 เมื่อวันที่ 17 ก.พ. 2560 เวลาประมาณ 15.40 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติด (บก.สกส.บช.ปส.) ร่วมกับ สภ.แม่พริก, สภ.เวียงมอก, สภ.เถิน, ร้อย ร.ส. ที่ 2 (ร.17 พัน 2), เจ้าหน้าที่สำนักปราบปรามยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส. และ บก.ขส.บช.ปส. ได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา จำนวน 1 ราย คือ
1. นายชาตรี แซ่เฮ้อ อายุ 24 ปี จว.เชียงราย
พร้อมด้วยของกลาง
1. ยาบ้า รวมประมาณ 5,880,000 เม็ด โดยตรวจยึดจากรถยนต์กระบะ 2 คัน
1.1 ยาบ้า ประมาณ 3,420,000 เม็ด (ยึดจากคันที่ 1)
1.2 ยาบ้า ประมาณ 2,460,000 เม็ด (ยึดจากคันที่ 2)
2. ไอซ์ จำนวน 20 กก. (ยึดจากคันที่ 1)
3. รถยนต์กระบะ ทะเบียน 3 กฎ 8666 กทม. ยี่ห้อฟอร์ด สีดำ จำนวน 1 คัน (คันที่ 1)
4. รถยนต์กระบะ ทะเบียน ก-1436 ปทุมธานี ป้ายแดง ยี่ห้ออีซูซุ สีเทา จำนวน 1 คัน (คันที่ 2)
5. รถยนต์กระบะ ทะเบียน บร 2902 พระนครศรีอยุธยา ยี่ห้อเชฟโรเลท สีขาว จำนวน 1 คัน (คันที่ 3)
6. โทรศัพท์มือถือ จำนวน 2 เครื่อง
สถานที่จับกุม ทางหลวงจังหวัดลำปางหมายเลข 1048 (เถิน-ทุ่งเสลี่ยม) ต.แม่มอก อ.เถิน จ.ลำปาง
โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันกับพวกที่หลบหนีมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต”
พฤติการณ์แห่งคดี เมื่อวันที่ 17 ก.พ. 2560 เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติด (บก.สกส.บช.ปส.) ได้รับแจ้งจากสายลับว่า จะมีกลุ่มคนไทยเชื้อสายม้งที่ใช้รถยนต์กระบะลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากทางด้านจังหวัดเชียงราย เพื่อนำเข้าสู่ตอนในของประเทศ โดยได้ใช้เส้นทางหลบด่าน X-ray แม่พริก จว.ลำปาง เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้แสดงตัวขอตรวจค้น ไม่ยอมหยุดให้ตรวจค้นโดยเร่งความเร็วหลบหนีไป เจ้าหน้าที่ตำรวจฯ จึงได้ขับรถไล่ติดตามและใช้อาวุธปืนพกยิงยางรถกระบะคัน ทะเบียน 2กฎ 8666 กทม. ยี่ห้อฟอร์ด สีดำ แตกทั้ง 4 เส้น จึงหยุดรถไว้ได้ แต่ ผู้ต้องหาได้เปิดประตูรถหนีเข้าป่าข้างทางไป และตรวจค้นในรถคันดังกล่าวพบยาบ้าของกลางในลำดับที่ 1.1 และได้ติดตามรถยนต์กระบะคันทะเบียน ก-1436 ปทุมธานี ป้ายแดง เข้าไปในป่าตามเส้นทางหลบหนีพบนำของกลางในลำดับที่ 1.2 ทิ้งไว้ ในป่าข้างทางและทิ้งรถไว้ใกล้กันและคนในรถหลบหนีไป และสามารถจับกุมนายชาตรี แซ่เฮ้อ ซึ่งพร้อมรถยนต์กระบะคัน ทะเบียน บร 2902 พระนครศรีอยุธยา ยี่ห้อเชฟโรเลท สีขาว ที่ขับสำรวจเส้นทางไว้ได้ขณะแยกย้ายกันหลบหนี
คดีที่ 2 เมื่อวันที่ 16 ก.พ. 2560 ระหว่างเวลาประมาณ 19.00 น.-12.00 น. ของวันที่ 17 ก.พ. 2560 เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปส.3 ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สวข.ชม.บก.ขส.บช.ปส., เจ้าหน้าที่สำนักปราบปรามยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส. ได้ร่วมกันจับกุม ขบวนการค้ายาเสพติด ผู้ต้องหารวม 3 คน คือ
1. นายเรวัต หรือนน ยินดี อายุ 17 ปี (เยาวชน) จ.สมุทรปราการ (ผู้ต้องหาที่ 1)
2. นายณัฐพงษ์ หรือบูม ทองสุข อายุ 21 ปี จ.ร้อยเอ็ด (ผู้ต้องหาที่ 2)
3. นายทิวากร ปานจันทร์ดี อายุ 23 ปี จ.สมุทรปราการ (ผู้ต้องหาที่ 3)
พร้อมของกลาง
1. ยาบ้า จำนวน 139 มัด กับ 9 ถุง รวมประมาณ 279,760 เม็ด
2. ไอซ์ ประมาณ 16.55 กิโลกรัม
3. ยาเค หรือ เคตามีน รวมน้ำหนักทั้งหมดประมาณ 3.20 กิโลกรัม
4. รถจักรยานยนต์ จำนวน 3 คัน
5. โทรศัพท์มือถือ จำนวน 3 เครื่อง
สถานที่จับกุม จับกุมผู้ต้องหาที่ 1 และ 3 บริเวณลานจอดรถศูนย์แสดงสินค้าไบเทคบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร
สถานที่เกิดเหตุ/จับกุม จับกุม นายณัฐพงษ์ หรือบูมฯ (ผู้ต้องหาที่ 2) ที่ปากซอยพระรามที่ 2 ซอย 25 แขวงบางมด เขตจอมทอง กรุงเทพฯ ต่อเนื่องจับกุม นายเรวัต หรือนนท์ฯ (ผู้ต้องหาที่ 1) ที่ริมถนนพุทธบูชา ซอย 5 ถนนพุทธบูชา แขวงบางมด เขตจอมทอง กรุงเทพฯ และจับกุม นายทิวากรฯ (ผู้ต้องหาที่ 3) ที่หน้าบ้านเลขที่ 149/10 ซ.สุขสวัสดิ์ 26 แขวงบางประกอก เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ
โดยกล่าวหาว่า ผู้ต้องหาที่ 1 และ 2 “ ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาเสพติดของกลางลำดับที่ 1) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต ”
กล่าวหาผู้ต้องหาที่ 1, 2 และ 3 “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาเสพติดของกลางลำดับที่ 2) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต”
กล่าวหาผู้ต้องหาที่ 1 และ 2 “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาเสพติดของกลางลำดับที่ 3 และ 4) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต”
กล่าวหาผู้ต้องหาที่ 1 และ 2 “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 2 (ยาเสพติดของกลางลำดับที่ 5) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต”
พฤติการณ์แห่งคดี ก่อนจับกุมชุดสืบสวนจับกุม ได้รับแจ้งจากสายลับว่า จะมีผู้ค้ายาเสพติด รายใหญ่ทางภาคเหนือ ส่งยาเสพติดจำนวนมากให้ กับเครือข่ายเจ๊หมวย เพื่อกระจายส่งต่อไปให้ลูกค้าในกรุงเทพฯ ย่านฝั่งธนบุรี และปริมณฑล โดยมีนายนนท์ หรือเรวัตฯ ผู้ต้องหาที่ 1 และนายบูม หรือณัฐพงษ์ฯ ทำหน้าที่เก็บพักยาเสพติดดังกล่าว แล้วให้ ผู้ต้องหาที่ 1 ใช้จักรยานยนต์เป็นพาหนะคอยกระจายส่งให้ลูกค้าตามคำสั่งการของผู้ว่าจ้าง กระทั่งต่อมาตามวันเวลาเกิดเหตุ พบผู้ต้องหาที่ 1 ใช้จักรยานยนต์ เป็นพาหนะ รับยาบ้า จาก นายบูม หรือณัฐพงษ์ฯ ที่ขับรถจักรยานยนต์ของตนมาพบ โดยรับยาบ้ากันที่ ปากซอย 25 ถนนพระราม 2ฯ จึงจับกุมผู้ต้องหาที่ 2 ไว้ แล้วติดตามผู้ต้องหาที่ 1 พบนำยาบ้า มาส่งมอบให้กับนายทิวากรฯ ผู้ต้องหาที่ 3 ที่ริมถนนพุทธบูชา ซอย 5ฯ จึงจับกุมผู้ต้องหาที่ 1 และ 3 ไว้ ตรวจค้นพบ ยาบ้า ในความครอบครองของผู้ต้องหาที่ 1 แล้วควบคุมตัวผู้ต้องหาที่ 2 เข้าตรวจค้นห้องพัก (81/40 ซ.สุขสวัสดิ์ 26ฯ) พบ ยาบ้า ยาบ้า, ไอซ์, เคตามีน จึงยึดไว้เป็นของกลาง แล้วควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสอง พร้อมของกลางทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวนกลุ่มงานสอบสวนฯ บก.ปส.3 บช.ปส. ดำเนินดคี
กองบัญชาการตำรวจนครบาล ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุธีร์ เนรกัณฐี, พล.ต.ต.สมพงษ์ ชิงดวง, พล.ต.ต.สุรชัย ควรเดชะคุปต์, พล.ต.ต.ชัยพร พานิชอัตรา, พล.ต.ต.มนตรี ยิ้มแย้ม, พล.ต.ต.อำพล บัวรับพร, พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ หลักบุญ, พล.ต.ต.สมชาย นิตยบวรกุล, พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รอง ผบช.น., พล.ต.ต. สัมฤทธิ์ ตงเต๊า ผบก.น.8 พร้อมด้วย พ.ต.อ.ชูศักดิ์ เตชะรักษ์พงษ์, พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ อรัญวัฒน์, พ.ต.อ.ญาณพงศ์ โสมาภา, พ.ต.อ.โชคชัย งามวงศ์, พ.ต.อ.ศุภรกฤษฎิ์ ประชากิตติกุล, พ.ต.อ.มานพ สุคนธ์ธนพัฒน์ รอง ผบก.น.8
มอบหมายให้กองกำกับการสืบสวนสอบสวนนครบาล 8 โดย พ.ต.อ.ประสงค์ อานมณี ผกก.สส.บก.น.8, พ.ต.ท.วิชัย สนสกุล รอง ผกกฯ, พ.ต.ท.เลิศศักดิ์ เขียมทรัพย์ รอง ผกก.ฯ, พ.ต.ท.วาทิตย์ โรจน์ไพฑูรย์ รอง ผกก.ฯ, พ.ต.ท.ศุทรา หล่าสกุล สว.ฯ, พ.ต.ท.ณัตปภัทร สัมพันธ์สิทธิ์ สว.ฯ, พ.ต.ท.ทวิช เพ็ญอัมพร สว.ฯ, พ.ต.ต.สามารถ ด้วงทรง สว.ฯ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บก.น.8 ได้ร่วมกันทำการจับกุมยาเสพติดรายสำคัญ คือ
1. นาย ปราโมทย์ ไหมบัวเขียว ผู้ต้องหาที่ 1 อายุ 25 ปี จ.อุตรดิตถ์
2. นาย สมชาย ทองประดิษฐ์ ผู้ต้องหาที่ 2 อายุ 52 ปี จ.อุตรดิตถ์
3. น.ส.ศรัณยา ม่วงจันทร์ ผู้ต้องหาที่ 3 อายุ 23 ปี จ.อุตรดิตถ์
พร้อมด้วยของกลาง คือ
1. ยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาไอซ์) จำนวน 80 ห่อ น้ำหนักประมาณ 80 กิโลกรัม
2. ยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (เฮโรอีน) จำนวน 10 ก้อน (20 แท่ง) รวมน้ำหนักประมาณ 7.2 กิโลกรัม
3. รถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยี่ห้ออีซูซุ รุ่นมิว x สีขาว ทะเบียน 2 กบ 9669 กรุงเทพฯ จำนวน 1 คัน
4. โทรศัพท์เคลื่อนที่ใช้ในการติดต่อซื้อขายยาเสพติด จำนวน 5 เครื่อง
โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาไอซ์ และ เฮโรอีน) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย”
จับกุมที่บริเวณบ้านเลขที่ 100/63 โครงการเดอะเบสท์ (หทัยราษฎร์) ถ.ไทยเจริญ แขวงสามวาตะวันตก เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 18 ก.พ.60 เวลา 10.00 น.
พฤติการณ์การจับกุม สืบเนื่องจาก กก.สส.บก.น.8 ได้จับกุมยาเสพติดรายสำคัญก่อนหน้านี้ จึงได้ทำการสืบสวนขยายผลจนทราบว่า ผู้ต้องหาทั้งหมดข้างต้นมีพฤติการณ์เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มเครือข่ายยาเสพติด ร่วมกันรับยาเฮโรอีนและยาไอซ์ มาจากทางภาคเหนือ แล้วนำไปซุกซ่อนใส่กล่องแล้วนำส่งทางพัสดุไปให้ลูกค้าทางภาคใต้ โดยใช้วิธีฝากไปกับรถโดยสารประจำทาง ก่อนวันเวลาจับกุม เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเฝ้าติดตามดูพฤติการณ์ พบว่ากลุ่มผู้ต้องหาทั้งหมดดังกล่าว ได้นำยาเสพติด ของกลางมาเก็บไว้ที่บ้านเลขที่ดังกล่าวข้างต้น ต่อมาตามวันเวลาจับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าตรวจค้นจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมด พร้อมด้วยของกลางตามวันเวลาดังกล่าวข้างต้น ในส่วนเครือข่ายยาเสพติดที่เกี่ยวข้องจะได้สืบสวนขยายผลติดตามจับกุมต่อไป
อนึ่ง สำนักงานตำรวจแห่งชาติขอเรียนมายังพี่น้องประชาชนเพื่อโปรดช่วยกันสอดส่องดูแลการแพร่ระบาดของยาเสพติดอันจะก่อให้เกิดอันตรายต่อสังคม และหากพบเห็นหรือทราบเบาะแสในการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด สามารถแจ้งเบาะแสหรือข้อร้องเรียน มายังสายด่วน 191 และ 1599 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือที่ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด หมายเลขโทรศัพท์ 02 521 8266-75 www.thaidrugpolice.com.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
โรงไฟฟ้าขนอม ร่วมสืบสานประเพณีลอยกระทง สร้างความสุขทั่วอำเภอขนอม
November 21, 2024
โรงไฟฟ้าขนอม ร่วมส่งเสริมสุขภาพชุมชน สนับสนุนอบรม อสม.ใหม่/ทดแทน
November 21, 2024
อบจ.สงขลา ร่วมรับรางวัลประกาศเกียรติคุณ “ค่าของแผ่นดิน” ประจำปี 2566 ด้านการพัฒนาสังคมและส่งเสริมคุณภาพชีวิต จากโครงการ ...
November 20, 2024
อโกด้าเผย หาดใหญ่คว้าแชมป์เมืองท่องเที่ยวที่คุ้มค่าที่สุดในไทย ช่วงเทศกาลส่งท้ายปี
November 19, 2024