“…เราไม่ควรให้ปลาแก่เขา แต่ควรให้เบ็ดตกปลาและสอนให้รู้จักวิธีตกปลาจะดีกว่า…” พระราชดำรัสในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลดุลยเดช ในเรื่องความพอเพียงและการรู้จักพึ่งพาตนเอง ที่โรงเรียนบ้านไร่ อ.ท่าแพ จ.สตูล น้อมนำเข้าสู่การจัดการเรียนการสอนในโรงเรียน เพื่อให้นักเรียนมีความรู้ มีทักษะอาชีพที่พึ่งพาตนเองอย่างพอเพียงภายใต้วิถีชีวิตท้องถิ่นอยู่อาศัย และมีจิตสำนึกรักบ้านเกิด
นางสาวสุชดา แซ่ตั้ง ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านไร่ จึงได้นำการทำไซปู หรืออุปกรณ์ดักปู อาชีพหนึ่งในวิถีชีวิตชาวชุมชนบ้านไร่ เข้าสู่กระบวนการเรียนการสอนในกิจกรรมลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ ภายใต้แนวคิดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อให้นักเรียนมีทักษะอาชีพและสืบสานวีถีชีวิตท้องถิ่นให้คงอยู่ รู้จักใช้ประโยชน์จากป่าชายเลนทรัพยากร ธรรมชาติอย่างรู้คุณค่า มีความรักและหวงแหนท้องถิ่นของตนเอง
นายมะดาโอ๊ะ สาและ ภูมิปัญญาท้องถิ่น ที่อาสามาช่วยสอนการทำไซปูให้กับนักเรียน สำหรับไซปูที่สอนเป็นไซที่ใช้ดักปูดำ มีลักษณะเป็นรูปทรงกลม เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 40 เซนติเมตร สูง 20-25 เซนติเมตร สามารถพับเก็บง่าย ส่วนวัสดุที่ใช้ทำไซ ประกอบด้วย ลวดขนาดใหญ่ อวนเส้นใหญ่ตาขนาดกลาง ด้ายเย็บอวน และไม้ไผ่สำหรับหลักวางไซ
เมื่อนักเรียนทำไซปูได้จนชำนาญแล้ว “นายมะดาโอ๊ะ” จะพานักเรียนไปยังป่าชายเลน บริเวณคลองในหมู่บ้าน ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากโรงเรียนบ้านไร่มากนัก เพื่อสอนวิธีการวางไซดักปูดำซึ่งทำได้ไม่ยากแค่ดูค่ำของดวงจันทร์ว่ากี่ค่ำ ซึ่งต้องเป็นช่วงน้ำใหญ่ คือ 11 ค่ำ จนถึง 5 ค่ำ เพราะน้ำเดินปูจะได้กลิ่นปลาสดที่ใช้เป็นเหยื่อล่อดักในไซ ส่วนวิธีการวางไซต้องไห้ปากของไซหันไปด้านเดียวกับน้ำ เมื่อปูได้กลิ่นเหยื่อก็จะเดินเข้ากับดักที่วางไว้
สำหรับปูดำที่นักเรียนวางไซได้ จะนำไปขายให้พ่อค้าคนกลางในราคา กิโลกรัมละ 100 บาท ทำให้มีรายได้ช่วยเหลือครอบครัว เฉลี่ยวันละ 200 บาท แต่การวางไซดักปูดำ ไม่ใช่จะทำได้ทุกวัน จะทำได้ก็เฉพาะช่วงน้ำใหญ่เท่านั้น
นายคอเล็ด บังเตะ ครู โรงเรียนบ้านไร่ กล่าวว่า การสอนทำไซปู เป็นการเสริมประสบการณ์วิชาชีพนอกห้องเรียน เพื่อให้นักเรียนได้เรียนรู้อาชีพในท้องถิ่น รู้จักใช้เวลาว่างช่วงปิดเทอมไปทำไซดักปู เนื่องจากชุมชนบ้านไร่ เป็นหมู่บ้านที่ติดป่าชายเลนที่อุดมสมบูรณ์และมีคลองไหลผ่าน ซึ่งนักเรียนสามารถนำความรู้ที่ได้ไปใช้ในชีวิตประจำวันได้จริง สามารถต่อยอดเป็นอาชีพเสริมได้ในอนาคต สนองพระราชดำรัส “…เราไม่ควรให้ปลาแก่เขา แต่ควรให้เบ็ดตกปลาและสอนให้รู้จักวิธีตกปลาจะดีกว่า…” แห่งองค์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลดุลยเดช
เชื่อแน่ว่า! นักเรียนบ้านไร่ จะสามารถประกอบอาชีพที่พึ่งพาตนเองด้วยวิถีชีวิตพอเพียงในท้องถิ่น.
November 21, 2025
November 19, 2025
November 18, 2025
November 17, 2025
ชื่อ-สกุล*
อีเมล์*
เว็ปไซต์
แสดงความคิดเห็น
Notify me of follow-up comments by email.
Notify me of new posts by email.
Δ
นักเรียนบ้านไร่ อ.ท่าแพ เรียนรู้การทำไซดักปูดำ วิถีชีวิตพอเพียงในท้องถิ่น
“…เราไม่ควรให้ปลาแก่เขา แต่ควรให้เบ็ดตกปลาและสอนให้รู้จักวิธีตกปลาจะดีกว่า…” พระราชดำรัสในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลดุลยเดช ในเรื่องความพอเพียงและการรู้จักพึ่งพาตนเอง ที่โรงเรียนบ้านไร่ อ.ท่าแพ จ.สตูล น้อมนำเข้าสู่การจัดการเรียนการสอนในโรงเรียน เพื่อให้นักเรียนมีความรู้ มีทักษะอาชีพที่พึ่งพาตนเองอย่างพอเพียงภายใต้วิถีชีวิตท้องถิ่นอยู่อาศัย และมีจิตสำนึกรักบ้านเกิด
นางสาวสุชดา แซ่ตั้ง ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านไร่ จึงได้นำการทำไซปู หรืออุปกรณ์ดักปู อาชีพหนึ่งในวิถีชีวิตชาวชุมชนบ้านไร่ เข้าสู่กระบวนการเรียนการสอนในกิจกรรมลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ ภายใต้แนวคิดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อให้นักเรียนมีทักษะอาชีพและสืบสานวีถีชีวิตท้องถิ่นให้คงอยู่ รู้จักใช้ประโยชน์จากป่าชายเลนทรัพยากร ธรรมชาติอย่างรู้คุณค่า มีความรักและหวงแหนท้องถิ่นของตนเอง
นายมะดาโอ๊ะ สาและ ภูมิปัญญาท้องถิ่น ที่อาสามาช่วยสอนการทำไซปูให้กับนักเรียน สำหรับไซปูที่สอนเป็นไซที่ใช้ดักปูดำ มีลักษณะเป็นรูปทรงกลม เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 40 เซนติเมตร สูง 20-25 เซนติเมตร สามารถพับเก็บง่าย ส่วนวัสดุที่ใช้ทำไซ ประกอบด้วย ลวดขนาดใหญ่ อวนเส้นใหญ่ตาขนาดกลาง ด้ายเย็บอวน และไม้ไผ่สำหรับหลักวางไซ
เมื่อนักเรียนทำไซปูได้จนชำนาญแล้ว “นายมะดาโอ๊ะ” จะพานักเรียนไปยังป่าชายเลน บริเวณคลองในหมู่บ้าน ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากโรงเรียนบ้านไร่มากนัก เพื่อสอนวิธีการวางไซดักปูดำซึ่งทำได้ไม่ยากแค่ดูค่ำของดวงจันทร์ว่ากี่ค่ำ ซึ่งต้องเป็นช่วงน้ำใหญ่ คือ 11 ค่ำ จนถึง 5 ค่ำ เพราะน้ำเดินปูจะได้กลิ่นปลาสดที่ใช้เป็นเหยื่อล่อดักในไซ ส่วนวิธีการวางไซต้องไห้ปากของไซหันไปด้านเดียวกับน้ำ เมื่อปูได้กลิ่นเหยื่อก็จะเดินเข้ากับดักที่วางไว้
สำหรับปูดำที่นักเรียนวางไซได้ จะนำไปขายให้พ่อค้าคนกลางในราคา กิโลกรัมละ 100 บาท ทำให้มีรายได้ช่วยเหลือครอบครัว เฉลี่ยวันละ 200 บาท แต่การวางไซดักปูดำ ไม่ใช่จะทำได้ทุกวัน จะทำได้ก็เฉพาะช่วงน้ำใหญ่เท่านั้น
นายคอเล็ด บังเตะ ครู โรงเรียนบ้านไร่ กล่าวว่า การสอนทำไซปู เป็นการเสริมประสบการณ์วิชาชีพนอกห้องเรียน เพื่อให้นักเรียนได้เรียนรู้อาชีพในท้องถิ่น รู้จักใช้เวลาว่างช่วงปิดเทอมไปทำไซดักปู เนื่องจากชุมชนบ้านไร่ เป็นหมู่บ้านที่ติดป่าชายเลนที่อุดมสมบูรณ์และมีคลองไหลผ่าน ซึ่งนักเรียนสามารถนำความรู้ที่ได้ไปใช้ในชีวิตประจำวันได้จริง สามารถต่อยอดเป็นอาชีพเสริมได้ในอนาคต สนองพระราชดำรัส “…เราไม่ควรให้ปลาแก่เขา แต่ควรให้เบ็ดตกปลาและสอนให้รู้จักวิธีตกปลาจะดีกว่า…” แห่งองค์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลดุลยเดช
เชื่อแน่ว่า! นักเรียนบ้านไร่ จะสามารถประกอบอาชีพที่พึ่งพาตนเองด้วยวิถีชีวิตพอเพียงในท้องถิ่น.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ม.ทักษิณ เปิดสนามประลองไอเดียธุรกิจ TSU Premier Pitch 2025 ดันนิสิตสู่ธุรกิจสตาร์ทอัพ
November 21, 2025
มรภ.สงขลา เยือน มรภ.วไลยอลงกรณ์ฯ จัดอบรมใช้งานระบบ “Big Data” ครั้งที่ ...
November 19, 2025
สกสว. จัดงาน Thailand Talent Summit 2025 รวมพลนักวิจัยไทยกว่า ...
November 18, 2025
มรภ.สงขลา มอบประกาศนียบัตรบัณฑิตพันธุ์ใหม่ หลักสูตรประยุกต์ใช้เทคโนโลยีอัจฉริยะเพื่อพัฒนาสื่อการเรียนการสอนดิจิทัลฯ ยกระดับขีดความสามารถบุคลากรทางการศึกษา พัฒนาผู้เรียนอย่างยั่งยืน
November 17, 2025