นายอาทิตย์ วุฒิคะโร ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวในพิธีเปิดการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ “สอจ. …การเปลี่ยนแปลงที่ท้าทาย” ว่า ภาคอุตสาหกรรมไทยกำลังก้าวเข้าสู่ยุคที่ 4 (Industry 4.0) กล่าวคือ การเชื่อมโยงทุกภาคส่วน เช่น สายการผลิตในโรงงาน การจัดจำหน่าย และผลิตภัณฑ์ผ่านทางอินเตอร์เน็ต ทำให้สินค้ามีความหลากหลาย และตรงตามความต้องการของผู้บริโภคมากขึ้น ซึ่งในการขับเคลื่อนจะต้องให้เกิดความสมดุลทั้งเชิงเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และสังคม โดยกระทรวงอุตสาหกรรมจะทำหน้าที่กำกับ ดูแล ส่งเสริม รวมทั้งสร้างความเข้าใจ และมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับภาคอุตสาหกรรมและกลุ่ม NGO ตลอดจนหน่วยงานในสังกัด เพื่อผลักดันให้งานพัฒนาอุตสาหกรรมไทยปรับตัวและสามารถเปลี่ยนผ่านสู่ Industry 4.0 อย่างไม่มีปัญหา

“สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด (สอจ.) จะเป็นหน่วยงานที่อยู่ทุกจังหวัดในส่วนภูมิภาค จึงเป็นกลไกแรกที่ต้องปรับเปลี่ยนบทบาท เพราะใกล้ชิดกับผู้ประกอบการมากที่สุด แบ่งเป็น 4 ด้าน คือ 1.การส่งเสริมพัฒนาอุตสาหกรรม (Promoter) เน้นทำให้ธุรกิจเกิดขึ้นและอยู่รอด ปัจจุบันขับเคลื่อนผ่านโครงการต่าง ๆ โดยเฉพาะโครงการปรับแผนธุรกิจฯ ต้องเป็นหูเป็นตา ติดตามด้วย 2.การกำกับดูแลโรงงานและเหมืองแร่ตามกฎหมาย (Regulator) ขอให้เอาใจใส่ในเรื่องที่เป็นข่าวไม่ว่าจะเป็นเรื่องจริงต้องตรวจสอบ ติดตามอย่างต่อเนื่อง และทันเหตุการณ์ นอกจากนี้ ยังต้องเชื่อมโยงทำความเข้าใจกับกลุ่มต่าง ๆ 3.การบริหารจัดการองค์การ (Organizer) ที่พบปัญหาการขาดช่วงของบุคลากร จะต้องมีการจัดระบบพี่สอนน้องเพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ และสร้างระบบบริหาร ระบบรายงานแบบออนไลน์ขึ้น และ 4.การช่วยขับเคลื่อนนโยบายสำคัญเร่งด่วนของรัฐบาล เช่น การผลักดันอุตสาหกรรมเป้าหมายแห่งอนาคต คลัสเตอร์ และการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษในพื้นที่” นายอาทิตย์ กล่าว

ทั้งนี้ นายสมพล รัตนาภิบาล ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า “แนวทางที่ สอจ. ควรเปลี่ยนแปลงการปฏิบัติงาน เช่น การบริหารจัดการแบบบูรณาการให้สอดรับกับคน งบประมาณ วิธีทำงาน เทคโนโลยี เวลา และการมีส่วนร่วม เพื่อให้การทำงานเป็นไปอย่าง Smart และปฏิรูปสู่ Smart Office ในที่สุดการเกิดขึ้นของ Thailand Digital Gateway จะเกี่ยวข้องในการต่ออายุใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน (ร.ง.4) ที่ได้รับการชมเชยจากหลายฝ่ายว่ามีความรวดเร็วเป็นตัวอย่างของความสำเร็จ เพราะได้ปรับระยะเวลาการพิจารณาออกใบอนุญาต ร.ง.4 เหลือ 30 วันไปก่อนหน้านี้แล้ว”

การสัมมนาดังกล่าว ยังได้เปิดโอกาสให้ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรมทุกท่าน และคณะผู้บริหารกระทรวงอุตสาหกรรมทุกกรมได้ร่วมเสวนา พร้อมมอบแนวทางการทำงานร่วมกัน เช่น สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม เกี่ยวกับการถ่ายโอนงานการตรวจติดตามสินค้ามาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ ชี้แจงสรุปเกี่ยวกับ พ.ร.บ.เหมืองแร่ฉบับใหม่ สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย เรื่องการโซนนิ่งพืชเกษตร สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม ให้ความรู้เกี่ยวกับการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจอุตสาหกรรม Industry 4.0 โครงการ Spring up นโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษในรูปแบบคลัสเตอร์ กรมโรงงานอุตสาหกรรม การพิจารณาออกใบอนุญาต ร.ง.4 และการจัดการกากขยะอุตสาหกรรม

ทั้งนี้ การจัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการนี้มีทั้งหมด 4 ครั้งใน 4 ภูมิภาค ครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 4 มีกลุ่มเป้าหมายคือ สอจ. 14 จังหวัดในภาคใต้.

เว็บไซต์  Bankaonews.com