เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2559 สื่อมวลชนจากส่วนกลางและสื่อหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น ได้รับการร้องเรียนจากนายชัยพร กอเจริญรัตน์ เจ้าของร้านไทยฮั้วกระจกอลูมิเนียม ตั้งอยู่บ้านเลขที่ 555/1 ม.6 ต.ท่ายาง อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ว่าอาจจะถูกผู้มีอิทธิพลเบี้ยวค่าติดตั้งกระจกอลูมิเนียมเกือบ 2 ล้าน ส่วนคดีก็ยังไม่คืบหน้า อายุความก็ใกล้จะหมด จึงได้ให้ทนายยื่นฟ้องไปแล้ว และมาร้องกับสื่อเพื่อให้สังคมได้รับรู้และไม่ตกเป็น ” เหยื่อ ” เหมือนกับตน
โดยนายชัยพร กอเจริญรัตน์ ได้เล่าให้สื่อมวลชนฟังทั้งน้ำตาว่า ได้รู้จักกับ พ.ต.ท.นิรัตน์ เจริญพานิช ในนามลูกค้าที่มาติดตั้งกระจกอลูมิเนียมตั้งแต่ปี 2545 โดยครั้งแรก พ.ต.ท.นิรัตน์ เจริญพานิช จะจ่ายเป็นเงินสด พอมาครั้งหลังๆจะพานางอุไร ขวัญเมือง ซึ่งเป็นภรรยามาด้วย มาสั่งติดตั้งกระจกและนางอุไรจะเป็นคนจ่ายค่ากระจกให้ทุกครั้งจนเป็นลูกค้ามานานหลายปี ทำให้มีความเชื่อถือกันมาตลอด ต่อมาได้มีการติดตั้งกระจกอลูมิเนียมเป็นจำนวน 10 กว่าโครงการ โดยส่วนใหญ่จะเป็นโครงการหมู่บ้าน สวป. พอช่วงปี 2550 นางอุไรเริ่มที่จะค้างจ่ายเป็นบางส่วน พอปี 2551 – 2554 ก็เริ่มที่จะค้างจ่ายมากขึ้น พอปี 2555 กลางปีเริ่มที่จะค้างจ่ายทั้งหมด พอไปทวงถามก็จะบอกว่าจะเอาบ้านที่สร้างเสร็จแล้วไปกู้ธนาคารมาจ่ายให้ แต่พอมีโครงการใหม่ก็ต้องไปทำการติดตั้งกระจกให้ เพราะถ้าไม่ไปติดตั้งให้ นางอุไรก็จะอ้างว่า ถ้าไม่ไปติดตั้งให้ก็ไม่มี้งินจะจ่าย ตนเลยไปติดตั้งให้ ทำให้นางอุไรค้างชำระงินให้ตนเพิ่มขึ้นมาก โดยนางอุไรจะเขียนเช็คไว้ล่วงหน้าครั้งละ 6 เดือน พอถึงเวลาเช็คธนาคาร นางอุไรก็จะโทรมาบอกว่าอย่าเพิ่งไปเบิกเช็คเพราะยังไม่มีเงินในบัญชี
นายชัยพรเล่าต่อว่า หลังจากนั้นก็โทรมาบอดให้ช่วยไปติดตั้งกระจกอลูมิเนียมอีก แต่ตนบอกว่าต้องขอเบิกเงินก่อนเพราะไม่มีเงินจะไปซื้ออุปกรณ์ให้แล้ว นางอุไรจึงให้ช่างกระจกคนอื่นไปติดตั้งแทน ส่วนเช็คที่เขียนไว้ได้ถึงกำหนด นางอุไรก็จะบอกว่ายังไม่มีเงินขอต่อเวลาเช็คไปอีก 6 เดือน จนกระทั่งวันที่ 18 มิถุนายน 2558 ตนได้นำเช็คของนางอุไร ไปเบิกที่ธนาคารกรุงไทย สาขา สุราษฎร์ธานี แต่ธนาคารปฎิเสธการจ่ายเงิน ตนจึงไปแจ้งความดำเนินคดีกับนางอุไร ขวัญเมือง ที่ สภ.สุราษฎร์ธานี จนถึงวันนี้อัยการก็ยังไม่ได้ดำเนินการแต่อย่างได้ลย และตนกลัวว่าคดีความกำลังจะหมดอายุ ตนจึงให้ทนายความยื่นฟ้องเอง แต่นางอุไรก็ยังไม่เคยไปที่ศาลเลย ตนจึงได้มาร้องทุกข์กับสื่อมวลชน เพื่อให้สังคมได้รับรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นกับตนเพราะความที่เชื่อใจกัน นายชัยพร กล่าวในที่สุด และได้มอบหลักฐานทั้งหมดให้กับสื่อมวลชนด้วย.
เว็บไซต์ Bankaonews.com
July 18, 2025
ชื่อ-สกุล*
อีเมล์*
เว็ปไซต์
แสดงความคิดเห็น
Notify me of follow-up comments by email.
Notify me of new posts by email.
Δ
พ่อค้า ทุ่งใหญ่ หลั่งน้ำตา โดน ” อิทธิพล ” เบี้ยวเกือบ 2 ล้าน
เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2559 สื่อมวลชนจากส่วนกลางและสื่อหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น ได้รับการร้องเรียนจากนายชัยพร กอเจริญรัตน์ เจ้าของร้านไทยฮั้วกระจกอลูมิเนียม ตั้งอยู่บ้านเลขที่ 555/1 ม.6 ต.ท่ายาง อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ว่าอาจจะถูกผู้มีอิทธิพลเบี้ยวค่าติดตั้งกระจกอลูมิเนียมเกือบ 2 ล้าน ส่วนคดีก็ยังไม่คืบหน้า อายุความก็ใกล้จะหมด จึงได้ให้ทนายยื่นฟ้องไปแล้ว และมาร้องกับสื่อเพื่อให้สังคมได้รับรู้และไม่ตกเป็น ” เหยื่อ ” เหมือนกับตน
โดยนายชัยพร กอเจริญรัตน์ ได้เล่าให้สื่อมวลชนฟังทั้งน้ำตาว่า ได้รู้จักกับ พ.ต.ท.นิรัตน์ เจริญพานิช ในนามลูกค้าที่มาติดตั้งกระจกอลูมิเนียมตั้งแต่ปี 2545 โดยครั้งแรก พ.ต.ท.นิรัตน์ เจริญพานิช จะจ่ายเป็นเงินสด พอมาครั้งหลังๆจะพานางอุไร ขวัญเมือง ซึ่งเป็นภรรยามาด้วย มาสั่งติดตั้งกระจกและนางอุไรจะเป็นคนจ่ายค่ากระจกให้ทุกครั้งจนเป็นลูกค้ามานานหลายปี ทำให้มีความเชื่อถือกันมาตลอด ต่อมาได้มีการติดตั้งกระจกอลูมิเนียมเป็นจำนวน 10 กว่าโครงการ โดยส่วนใหญ่จะเป็นโครงการหมู่บ้าน สวป. พอช่วงปี 2550 นางอุไรเริ่มที่จะค้างจ่ายเป็นบางส่วน พอปี 2551 – 2554 ก็เริ่มที่จะค้างจ่ายมากขึ้น พอปี 2555 กลางปีเริ่มที่จะค้างจ่ายทั้งหมด พอไปทวงถามก็จะบอกว่าจะเอาบ้านที่สร้างเสร็จแล้วไปกู้ธนาคารมาจ่ายให้ แต่พอมีโครงการใหม่ก็ต้องไปทำการติดตั้งกระจกให้ เพราะถ้าไม่ไปติดตั้งให้ นางอุไรก็จะอ้างว่า ถ้าไม่ไปติดตั้งให้ก็ไม่มี้งินจะจ่าย ตนเลยไปติดตั้งให้ ทำให้นางอุไรค้างชำระงินให้ตนเพิ่มขึ้นมาก โดยนางอุไรจะเขียนเช็คไว้ล่วงหน้าครั้งละ 6 เดือน พอถึงเวลาเช็คธนาคาร นางอุไรก็จะโทรมาบอกว่าอย่าเพิ่งไปเบิกเช็คเพราะยังไม่มีเงินในบัญชี
นายชัยพรเล่าต่อว่า หลังจากนั้นก็โทรมาบอดให้ช่วยไปติดตั้งกระจกอลูมิเนียมอีก แต่ตนบอกว่าต้องขอเบิกเงินก่อนเพราะไม่มีเงินจะไปซื้ออุปกรณ์ให้แล้ว นางอุไรจึงให้ช่างกระจกคนอื่นไปติดตั้งแทน ส่วนเช็คที่เขียนไว้ได้ถึงกำหนด นางอุไรก็จะบอกว่ายังไม่มีเงินขอต่อเวลาเช็คไปอีก 6 เดือน จนกระทั่งวันที่ 18 มิถุนายน 2558 ตนได้นำเช็คของนางอุไร ไปเบิกที่ธนาคารกรุงไทย สาขา สุราษฎร์ธานี แต่ธนาคารปฎิเสธการจ่ายเงิน ตนจึงไปแจ้งความดำเนินคดีกับนางอุไร ขวัญเมือง ที่ สภ.สุราษฎร์ธานี จนถึงวันนี้อัยการก็ยังไม่ได้ดำเนินการแต่อย่างได้ลย และตนกลัวว่าคดีความกำลังจะหมดอายุ ตนจึงให้ทนายความยื่นฟ้องเอง แต่นางอุไรก็ยังไม่เคยไปที่ศาลเลย ตนจึงได้มาร้องทุกข์กับสื่อมวลชน เพื่อให้สังคมได้รับรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นกับตนเพราะความที่เชื่อใจกัน นายชัยพร กล่าวในที่สุด และได้มอบหลักฐานทั้งหมดให้กับสื่อมวลชนด้วย.
เว็บไซต์ Bankaonews.com
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บริษัท ผลิตไฟฟ้าขนอม จำกัด ต้อนรับคณะอาจารย์และนักศึกษา ม.วลัยลักษณ์ ศึกษาดูงานด้านสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม
July 18, 2025
OR เปิดศูนย์การเรียนรู้ “Together รักษ์ แอท ท่าเสา” ขับเคลื่อนชุมชนด้วยพลังความร่วมมืออย่างยั่งยืน
July 18, 2025
บริษัท ผลิตไฟฟ้าขนอม จำกัด ต้อนรับคณะวิทยาลัยการปกครอง ศึกษาดูงานการผลิตพลังงานเพื่อชุมชน
July 18, 2025
บริษัท ผลิตไฟฟ้าขนอม จำกัด สานต่อ โครงการ ส่งเสริมทักษะภาษาอังกฤษ “Khanom ...
July 18, 2025