ความสำเร็จจากโครงการบ่มเพาะคนดี รุ่นที่ ๑ เมื่อปี 2554 ต่อยอดสู่การจัดโครงการในครั้งที่ 2 ด้วยเจตจำนงของ มรภ.สงขลา ที่มุ่งหวังบ่มเพาะคนให้เป็นคนดี น่าปลื้มใจอย่างยิ่งว่า กิจกรรมในครั้งนี้ ได้เปลี่ยนความคิดของเยาวชนที่เข้ารับการอบรม ให้รู้จักการหยิบยื่นโอกาสที่ดีแก่ผู้อื่น
เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา (มรภ.สงขลา) ได้จัดโครงการบ่มเพาะคนดี ครั้งที่ 2 โดยในงานมีกิจกรรมต่างๆ มากมาย เพื่อให้นักเรียนที่ร่วมกิจกรรมได้ฝึกฝน และสร้างจิตสำนึกการเป็นคนดี รวมถึงกิจกรรม Walk Rally ซึ่งช่วยสร้างสัมพันธภาพ และแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เสริมสร้างทักษะในการเป็นผู้นำ การแก้ปัญหา และความเสียสละ โดยได้รับเกียรติจากนายสุรพล พนัสอำพล รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานในพิธีปิด และมอบเกียรติบัตรแก่นักเรียนในโครงการ
กรกฎ ทองเอม “น้องเท็น” นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนมหาวชิราวุธ จ.สงขลา บอกถึงความรู้สึกที่ได้เข้าร่วมโครงการในครั้งนี้ว่า ดีใจมากที่ได้เข้าร่วมกิจกรรมบ่มเพาะคนดี โครงการนี้เป็นโครงการที่ดีมาก เป็นการจุดประกายให้เรามีความคิดที่ดี ตอนที่ตัดสินใจมาอยู่ค่ายไม่ได้คิดอะไรมากมาย แต่เมื่อได้ทำกิจกรรมต่างๆ ในค่าย ทำให้เราเรียนรู้การทำเพื่อผู้อื่น หยิบยื่นโอกาสที่ดีให้แก่ผู้อื่น และมีความรับผิดชอบต่อตัวเองมากขึ้น
ด้าน วรภัทร ปาละพัน “น้องไอซ์” นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4โรงเรียนเทศบาล 5 (วัดหัวป้อมนอก) กล่าวว่า ตนเป็นนักดนตรีของโรงเรียน ซึ่งปกติก็ทำกิจกรรมอยู่ตลอด แต่การได้มาร่วมทำกิจกรรมในค่าย ทำให้มุมมองของตนกว้างขึ้น เมื่อก่อนเคยคิดว่าฐานะทางบ้านลำบาก แต่เมื่อได้ทำกิจกรรมที่สถานสงเคราะห์บ้านเด็กสงขลา ก็ได้เห็นว่ายังมีคนที่ลำบากกว่าเราอีกมาก ที่ยังต้องการความช่วยเหลือ ซึ่งตนรู้สึกว่าการได้ช่วยเหลือผู้อื่นทำให้มีความสุข และจะส่งผลกลับมายังตัวเราทำให้มีจิตสำนึกที่ดี อยากขอบคุณ มรภ.สงขลา ที่จัดโครงการนี้ขึ้นมา ทำให้ตนได้รู้ในสิ่งที่ไม่เคยรู้ ได้รู้จักดูแลตัวเอง ได้ร่วมทำกิจกรรมกับเด็กด้อยโอกาส และได้นำข้อคิดต่างๆ ที่ได้รับ ไปใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวัน
ธนพร วุฒิกระพันธ์ “น้องการ์ตูน” นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนสงขลาวิทยาคม บอกเล่าถึงความรู้สึกว่า ปกตินักเรียนที่จะมาค่ายต้องเป็นนักเรียนทุนของ ฯพณฯ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ซึ่งตนไม่ใช่นักเรียนทุน แต่อยากมาค่ายครั้งนี้มาก เพราะเพื่อนๆ ที่เคยมาในรุ่นที่ 1 บอกว่าโครงการบ่มเพาะคนดี เป็นโครงการดีและสนุกมาก จึงอยากมาร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ และได้ขออาจารย์มาอยู่ค่าย ซึ่งอาจารย์ก็อนุญาตให้มาได้ กิจกรรมในครั้งนี้ทำให้ได้เรียนรู้ถึงสิ่งดีๆ ใกล้ตัว เช่น หอประวัติศาสตร์ ที่นั่งรถผ่านไปมาเกือบทุกวัน แต่ไม่เคยรู้ว่ามีสาระความรู้ที่เป็นประโยชน์อย่างมาก และการได้ร่วมทำกิจกรรมที่สถานสงเคราะห์เด็กบ้านสงขลา ทำให้ได้เห็นว่ายังมีคนอื่นที่ลำบากกว่าเราอยู่อีกมาก นอกจากนั้น ยังทำให้เรามีจิตสำนึกที่ดีในการอยู่ในสังคมปัจจุบัน มีความกตัญญูต่อพ่อแม่ ซึ่งจากที่ได้มาอยู่ค่าย คิดว่าจะนำกิจกรรมต่างๆ ที่ได้รับ ไปเผยแพร่และจัดกิจกรรมในแบบที่คล้ายกันแก่น้องๆ ที่โรงเรียนต่อไป
ในขณะที่ นายสุรพล กล่าวในตอนท้ายของการฝึกอบรมว่า ขอแสดงความยินดีกับลูกๆ หลานๆ ทุกคนที่ผ่านการอบรม และขอให้เป็นผู้ใหญ่ที่ดีในวันข้างหน้า แต่การรักษาความดีนั้นยากยิ่งกว่าการเรียน การสอบแข่งขัน ซึ่งในปัจจุบันสังคมเรามีความแตกแยก แบ่งพรรคแบ่งฝ่ายชัดเจนทั้งที่เป็นคนไทยด้วยกัน เมื่อมีความแตกแยกสิ่งที่มีความคิดเห็นไม่ตรงกันก็นำมาต่อสู้กัน ทำสิ่งไม่ดีต่อกัน ไม่ยึดหลักศาสนาและพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ลูกๆ หลานๆ ทุกคนโชคดีที่เป็นคนสงขลา เพราะเรามีต้นแบบที่ดีที่คนสงขลาภาคภูมิใจ เป็นความดีที่ให้เราทำเป็นแบบอย่างได้ วันนี้เรามีหน้าที่เรียนหนังสือ ต้องเชื่อฟังพ่อแม่ ครูบาอาจารย์ ต้องกตัญญูรู้คุณต่อผู้มีพระคุณ กตัญญูต่อแผ่นดิน และต้องเป็นคนที่มีระเบียบวินัยในตัวเอง การเป็นคนดีไม่สร้างปัญหาให้พ่อแม่และสังคม ก็ถือว่าเป็นการตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน
ครอบครัว สังคม ประเทศชาติ จักธำรงอยู่อย่างยั่งยืนได้ด้วยการอบรมบ่มเพาะให้คนเป็นคนดี กล่าวคือ เป็นคนดีตามหลักศีลธรรมของศาสนาที่ตนนับถือ และเป็นคนดีของแผ่นดิน ตามหลักธรรมซึ่ง ฯพณฯ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ แสดงปาฐกถาพิเศษไว้.
ชื่อ-สกุล*
อีเมล์*
เว็ปไซต์
แสดงความคิดเห็น
Notify me of follow-up comments by email.
Notify me of new posts by email.
Δ
มรภ.สงขลา สานต่อบ่มเพาะคนดี เปลี่ยนชีวิต คิดเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น
ความสำเร็จจากโครงการบ่มเพาะคนดี รุ่นที่ ๑ เมื่อปี 2554 ต่อยอดสู่การจัดโครงการในครั้งที่ 2 ด้วยเจตจำนงของ มรภ.สงขลา ที่มุ่งหวังบ่มเพาะคนให้เป็นคนดี น่าปลื้มใจอย่างยิ่งว่า กิจกรรมในครั้งนี้ ได้เปลี่ยนความคิดของเยาวชนที่เข้ารับการอบรม ให้รู้จักการหยิบยื่นโอกาสที่ดีแก่ผู้อื่น
เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา (มรภ.สงขลา) ได้จัดโครงการบ่มเพาะคนดี ครั้งที่ 2 โดยในงานมีกิจกรรมต่างๆ มากมาย เพื่อให้นักเรียนที่ร่วมกิจกรรมได้ฝึกฝน และสร้างจิตสำนึกการเป็นคนดี รวมถึงกิจกรรม Walk Rally ซึ่งช่วยสร้างสัมพันธภาพ และแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เสริมสร้างทักษะในการเป็นผู้นำ การแก้ปัญหา และความเสียสละ โดยได้รับเกียรติจากนายสุรพล พนัสอำพล รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานในพิธีปิด และมอบเกียรติบัตรแก่นักเรียนในโครงการ
กรกฎ ทองเอม “น้องเท็น” นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนมหาวชิราวุธ จ.สงขลา บอกถึงความรู้สึกที่ได้เข้าร่วมโครงการในครั้งนี้ว่า ดีใจมากที่ได้เข้าร่วมกิจกรรมบ่มเพาะคนดี โครงการนี้เป็นโครงการที่ดีมาก เป็นการจุดประกายให้เรามีความคิดที่ดี ตอนที่ตัดสินใจมาอยู่ค่ายไม่ได้คิดอะไรมากมาย แต่เมื่อได้ทำกิจกรรมต่างๆ ในค่าย ทำให้เราเรียนรู้การทำเพื่อผู้อื่น หยิบยื่นโอกาสที่ดีให้แก่ผู้อื่น และมีความรับผิดชอบต่อตัวเองมากขึ้น
ด้าน วรภัทร ปาละพัน “น้องไอซ์” นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4โรงเรียนเทศบาล 5 (วัดหัวป้อมนอก) กล่าวว่า ตนเป็นนักดนตรีของโรงเรียน ซึ่งปกติก็ทำกิจกรรมอยู่ตลอด แต่การได้มาร่วมทำกิจกรรมในค่าย ทำให้มุมมองของตนกว้างขึ้น เมื่อก่อนเคยคิดว่าฐานะทางบ้านลำบาก แต่เมื่อได้ทำกิจกรรมที่สถานสงเคราะห์บ้านเด็กสงขลา ก็ได้เห็นว่ายังมีคนที่ลำบากกว่าเราอีกมาก ที่ยังต้องการความช่วยเหลือ ซึ่งตนรู้สึกว่าการได้ช่วยเหลือผู้อื่นทำให้มีความสุข และจะส่งผลกลับมายังตัวเราทำให้มีจิตสำนึกที่ดี อยากขอบคุณ มรภ.สงขลา ที่จัดโครงการนี้ขึ้นมา ทำให้ตนได้รู้ในสิ่งที่ไม่เคยรู้ ได้รู้จักดูแลตัวเอง ได้ร่วมทำกิจกรรมกับเด็กด้อยโอกาส และได้นำข้อคิดต่างๆ ที่ได้รับ ไปใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวัน
ธนพร วุฒิกระพันธ์ “น้องการ์ตูน” นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนสงขลาวิทยาคม บอกเล่าถึงความรู้สึกว่า ปกตินักเรียนที่จะมาค่ายต้องเป็นนักเรียนทุนของ ฯพณฯ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ซึ่งตนไม่ใช่นักเรียนทุน แต่อยากมาค่ายครั้งนี้มาก เพราะเพื่อนๆ ที่เคยมาในรุ่นที่ 1 บอกว่าโครงการบ่มเพาะคนดี เป็นโครงการดีและสนุกมาก จึงอยากมาร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ และได้ขออาจารย์มาอยู่ค่าย ซึ่งอาจารย์ก็อนุญาตให้มาได้ กิจกรรมในครั้งนี้ทำให้ได้เรียนรู้ถึงสิ่งดีๆ ใกล้ตัว เช่น หอประวัติศาสตร์ ที่นั่งรถผ่านไปมาเกือบทุกวัน แต่ไม่เคยรู้ว่ามีสาระความรู้ที่เป็นประโยชน์อย่างมาก และการได้ร่วมทำกิจกรรมที่สถานสงเคราะห์เด็กบ้านสงขลา ทำให้ได้เห็นว่ายังมีคนอื่นที่ลำบากกว่าเราอยู่อีกมาก นอกจากนั้น ยังทำให้เรามีจิตสำนึกที่ดีในการอยู่ในสังคมปัจจุบัน มีความกตัญญูต่อพ่อแม่ ซึ่งจากที่ได้มาอยู่ค่าย คิดว่าจะนำกิจกรรมต่างๆ ที่ได้รับ ไปเผยแพร่และจัดกิจกรรมในแบบที่คล้ายกันแก่น้องๆ ที่โรงเรียนต่อไป
ในขณะที่ นายสุรพล กล่าวในตอนท้ายของการฝึกอบรมว่า ขอแสดงความยินดีกับลูกๆ หลานๆ ทุกคนที่ผ่านการอบรม และขอให้เป็นผู้ใหญ่ที่ดีในวันข้างหน้า แต่การรักษาความดีนั้นยากยิ่งกว่าการเรียน การสอบแข่งขัน ซึ่งในปัจจุบันสังคมเรามีความแตกแยก แบ่งพรรคแบ่งฝ่ายชัดเจนทั้งที่เป็นคนไทยด้วยกัน เมื่อมีความแตกแยกสิ่งที่มีความคิดเห็นไม่ตรงกันก็นำมาต่อสู้กัน ทำสิ่งไม่ดีต่อกัน ไม่ยึดหลักศาสนาและพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ลูกๆ หลานๆ ทุกคนโชคดีที่เป็นคนสงขลา เพราะเรามีต้นแบบที่ดีที่คนสงขลาภาคภูมิใจ เป็นความดีที่ให้เราทำเป็นแบบอย่างได้ วันนี้เรามีหน้าที่เรียนหนังสือ ต้องเชื่อฟังพ่อแม่ ครูบาอาจารย์ ต้องกตัญญูรู้คุณต่อผู้มีพระคุณ กตัญญูต่อแผ่นดิน และต้องเป็นคนที่มีระเบียบวินัยในตัวเอง การเป็นคนดีไม่สร้างปัญหาให้พ่อแม่และสังคม ก็ถือว่าเป็นการตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน
ครอบครัว สังคม ประเทศชาติ จักธำรงอยู่อย่างยั่งยืนได้ด้วยการอบรมบ่มเพาะให้คนเป็นคนดี กล่าวคือ เป็นคนดีตามหลักศีลธรรมของศาสนาที่ตนนับถือ และเป็นคนดีของแผ่นดิน ตามหลักธรรมซึ่ง ฯพณฯ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ แสดงปาฐกถาพิเศษไว้.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
There is no related posts.