พ.ต.ท. ดร.วิระ บำรุงศรี เกิด 22 กันยายน 2505 ต.พยุหะ อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ คุณพ่อ รับราชการครู คุณแม่ ทำนา ปัจจุบันเสียชีวิตแล้วทั้ง 2 ท่าน เป็นลูกชายคนโต มีน้องชาย 2 คน 1. นายฤทธิพรรณ บำรุงศรี ทำธุรกิจสวนเกษตร “บ้านไร่บำรุงศรี” อ.แม่วงก์ จ.นครสวรรค์ จำหน่ายกิ่งพันธุ์ไม้ และรับจัดสวน 2. นายนิพนธ์ บำรุงศรี ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 5 ต.พยุหะ อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ ทำธุรกิจสวนเกษตรบ้านไร่ “บ้านไร่ บำรุงศรี คีรีเทพ” อ.ลาดยาว จ.นครสวรรค์
ชีวิตวัยเด็ก – ช่วยครอบครัวทำนา, ทำไร่, หล่อเสาปูนคอนกรีต, เก็บของเก่าตามกองขยะและข้างถนนขาย, พืชผัก ผลไม้ ทุกชนิด แถวบ้านที่ขายได้ก็จะเก็บไปขาย เพื่อนำรายได้มาช่วยพ่อแม่ – ชอบการร้องเพลงมาแต่เด็กเล็ก เนื่องจากพ่อเป็นครูสอนดนตรีไทย จึงได้รับการถ่ายทอดฝึกฝนตั้งแต่เด็ก
การศึกษา ประถม1-2 โรงเรียนประศาสตร์วิทย์ อ.พยุหะคีรี ประถม3-7 โรงเรียนพยุหะศึกษาคาร อ.พยุหะคีรี มัธยม 1-3 โรงเรียนนครสวรรค์ โรงเรียนประจำจังหวัด มัธยม 4-5 โรงเรียนอุทัยวิทยาคม จ.อุทัยธานี พ.ศ. 2524 สอบชิงทุนสาธารณสุข จ.นครสวรรค์ ไปเรียนหลักสูตรเจ้าหน้าที่สาธารณสุข (พนักงานอนามัย) ที่วิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธร จ.พิษณุโลก 2 ปี จบแล้วบรรจุเป็นข้าราชการเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ระดับ 1 ปฏิบัติงานที่สถานีอนามัย ต.เนินศาล อ.โกรกพระ จ.นครสวรรค์ เมื่อพ.ศ. 2526 ทำหน้าที่หมอจำเป็น เพราะไม่มีนายแพทย์ อยู่ประจำสถานีอนามัย ต้องตรวจโรครักษาคนไข้ วินิจฉัยโรค, ฉีดยา, จ่ายยา, เย็บแผล, ผ่าตัดเล็กๆ ทำคลอด คนไข้เลยเรียกหมอโดยปริยาย เคสไหนที่หนักเกิดขีดความสามารถจะส่งต่อไปยังโรงพยาบาลอำเภอ หรือจังหวัด
เมื่อ พ.ศ. 2527 ถูกย้ายไปอยู่สถานอนามัย บ้านตะเข้ค่าย ต.วังใหญ่ อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์ ลำบากมาก เพราะอยู่ไกลตัวอำเภอราว 40 กม. มีรถมอเตอร์ไซต์ประจำตำแหน่ง SUZUKI F70 เก่าๆ 1 คัน น้ำประปาไม่มี ไฟฟ้าไม่มี ถนนเป็นดินเหนียว หมู่บ้านนี้เป็นที่ลุ่ม น้ำท่วมบ่อยๆ อยู่ไม่ไกลจากบึงบอระเพ็ด หน้าฝนเข้าออกลำบาก ยิ่งรถมอเตอร์ไซต์จะลำบากมาก เพราะเป็นรถแบบผู้หญิง ดินเหนียวจะมายัดที่บังโคลนล้อเวลาวิ่ง ต้องใช้เหล็กแหลมๆ คอยแทงดินออกจึงจะไปต่อได้ ที่สำคัญถูกส่งไปอยู่คนเดียวตามลำพัง รับผิดชอบทั้งสถานี เป็นตั้งแต่ภารโรง ยันหัวหน้าสถานี ใหญ่สุดๆเลย แถมยังอยู่ติดกับวัดอีกต่างหาก ตอนเช้าเลยต้องเป็นลูกศิษย์วัด เดินบิณฑบาตไปกับพระ เลยได้อาศัยข้าววัดมื้อเช้ากับเพล อยู่ได้เกือบปี ถูกงัดสถานีอนามัย ขโมยยา, เครื่องมือแพทย์ ไปเกือบหมด…………………………………. เป็นหมื่นๆ ลำบากสุดๆ จากสภาพชีวิตที่ผ่านมา……………… ให้ผมมีความแข็งแกร่ง อดทน และทนอด ต่อสู้กับความลำบากได้ทุกรูปแบบ มีความกล้าในการตัดสินใจและแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ทันที หลังเคลียร์ปัญหาเสร็จได้ขอย้ายไปอยู่สถานีอนามัย ต.หนองพิกุล อ.ตากฟ้า จ.นครสวรรค์ ในปีพ.ศ. 2529 ช่วงนั้นรายการคอนเสิร์ตคอนเทส ทาง ททบ.5 ของบริษัท JSL กำลังดัง เป็นรายการประกวดร้องเพลงเพื่อคัดผู้ชนะไปอัดแผ่นเป็นศิลปินค่ายคีตาแผ่นเสียงและเทป ก็เหมือนกับการประกวด AF ในปัจจุบันนี้ คนชนะได้รางวัลเยอะ แถมได้เป็นนักร้องอัดแผ่นอีก การคัดเลือกผู้แข่งขันต้องอัดเสียงร้องของตัวเองส่งไปที่รายการแล้วเขาก็จะคัดเลือกจากทั่วประเทศ เหลือสัปดาห์ละ 10 คน มาแข่งกัน หาผู้ชนะ สัปดาห์ละ 1 คน ที่แหละคือจุดเปลี่ยนของชีวิตผมละ ผมเห็นช่องทางหาเงินแล้ว ผมส่งเทปเสียงไปเพื่อให้กรรมการคัดเลือกสัปดาห์นั้นเขาประกวดแนวเพลงคาราบาว ไม่ค่อยถนัดเท่าไหร่แต่เพื่ออยากได้เงินไม่ได้อยากเป็นนักร้องหรอก ปรากฏว่าถูกเรียกตัว เข้าไปแข่งขันตื่นเต้นน่าดู เพราะจะได้ออก T.V. ทำเต็มที่ได้แค่ที่ 2 ยังไม่ยอมแพ้ เดือนต่อไปผมส่งเพลงไปแข่งอีกคราวนี้เป็นแนวเพลงจรัล มโนเพชร ก็ได้ไปแข่งสมใจ และก็สมใจจริงๆ เพราะผมได้แชมป์ประจำสัปดาห์ ดีใจมาก ดังทั้งจังหวัดนครสวรรค์เลยละ เพราะอย่างที่บอกคนดูรายการนี้มากจริงๆ พอๆกับดูแข่ง AF นั่นแหละ เดือนต่อมาไปแข่งต่อเพื่อชิงแชมป์ประจำเดือน ปรากฏว่าแพ้ แต่ก็สมใจเพราะอยากได้แค่เงินเท่านั้น ไม่อยากเป็นนักร้องอาชีพ เพราะมองดูแล้วว่ายากมากๆ
เรื่องไม่จบง่ายๆ ซะแล้ว หลังจากแข่งขันจบประมาณ 3 เดือน จู่ๆ ก็มีโทรเลขจาก บ.คีตาแผ่นเสียงและเทป (พ.ศ.2530 โทรศัพท์มือถือยังไม่มี โทรศัพท์ก็มีบางบ้าน) ดังนั้นโทรเลขจึงมีความรวดเร็วที่สุด คีตาฯ เรียกตัวให้ผมไปเทสเสียงเพื่อทำเทปชุดใหม่ เอาเพลงสุนทราภรณ์มาทำใหม่ในนามวง เยื่อไม้ จากความคิดของคุณจิก ประภาส ชลศรานนท์ และคุณสมพงษ์ วิสิฏวานิช เจ้าของคีตา ไม่คิดว่าจะได้แต่ก็ได้อีก อายุขณะนั้นปี 2530 อายุ 25 ปี พอดี เอาไงหละทีนี้ เป็นข้าราชการด้วย จะเป็นนักร้องด้วย แล้วจะทำงานกันแบบไหนล่ะ ระหว่างกรุงเทพฯ กับนครสวรรค์ ชุดแรกที่ออกมา ชุดเยื่อไม้ 1 ดังระเบิดเถิดเทิง แต่คนจำหน้าไม่ได้ เพราหน้าปกเป็นภาพวาด งานแสดงที่ทางคีตารับไว้ เพิ่มมากขึ้น ต้องเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ทุกสัปดาห์ วันศุกร์บ่ายๆ ก็ขึ้นรถทัวร์ที่ บขส. ตาคลี มากรุงเทพฯ เพื่อมางาน ศุกร์เย็น – เสาร์-อาทิตย์ มาอาศัยอพาทเมนต์………. รามคำแหงเป็นที่นอน วันอาทิตย์งานเสร็จ 4-5 ทุ่ม ก็นั่งรถเข้าไปหมอชิตเลย เพื่อรอขึ้นรถทัวร์ตอนตี 5 กลับมาทำงานที่ อ.ตากฟ้า จ.นครสวรรค์ ผอมต้องนั่งรอเวลารถออกตอนตี 5 ผมก็หาที่นอนแถวนั้นเลย ก็เก้าอี้สีส้มที่เป็นแถวๆ ยาวๆ ไว้ให้ผู้โดยสารนั่งรอรถนั่นแหละ ผมนอนเหยียดยาวเลย ไม่มีใคร……….เลย ผมทำแบบนี้อยู่ประมาณ 5 เดือน เหนื่อยมาก และเยื่อไม้ชุด2 กำลังออกพอดี ผมเลยตัดสินใจลาออกจากราชการเมื่อปีพ.ศ. 2531 มาเป็นนักร้องเต็มตัวเลย วงเยื่อไม้ออกผลงานมา 3 ปี 11 ชุด ก็ต้องยุบวงไป เพราะกระแสเพลงเริ่มไม่ได้รับความนิยม จากนั้น บ.คีตาฯ ก็ตั้งวง มะลิลบราซิลเลี่ยน ปีพ.ศ.2534 โดยมีผมเป็นนักร้องนำพร้อมสมาชิกในวงอีก 4 คน คือ แอน อังคณา ทิมดี, เปิ้ล ปาริกา เทพสุขดี หนึ่ง นึกคิด บุญทอง, เอล อิสราคม เอื้อพงษ์พันธ์ (เสียชีวิต) เพลงดังๆ ก็ 1. ไม่อ้วนเอาเท่าไหร่ 2. ฟองสบู่ 3. กล้าได้กล้าเสีย 4. เธอก็แค่โซดา 5. ปลายฟ้า
ปี พ.ศ. 2535 ผมกลับเข้ารับราชการตำรวจโดยการชักนำของ ยอดรัก สลักใจ ได้ยศ พลฯสำรองพิเศษ สังกัดกองสวัสดิการ เป็นนักร้องด้วย ตำรวจด้วย เพราะผมมองว่านักร้องเป็นอาชีพไม่แน่นอน ควรหาอาชีพที่แน่นอนไว้ดีกว่า และก็เป็นดังที่ผมคาดไว้ ต่อมาปี พ.ศ. 2536 วงมะลิลาฯ ก็ยุบวง บริษัท คีตา ก็ได้ปิดตัวลง ผมจึงกลายเป็นนักร้องไร้สังกัด อิสระเสรีก็รับงานเอง จนถึงปัจจุบันนี้
รับงานร้องเพลงที่สหรัฐอเมริกาปีละครั้ง ออสเตรีเลีย, อังกฤษ, สวิส, เยอรมันนี, ญี่ปุ่น ถือว่าไปเที่ยวพักผ่อน เป็นชีวิตที่มีความสุขมาก เพราะแต่ละครั้งก็จะพา พ่อ แม่ น้องๆ ญาติๆ สลับกันติดตามไปเที่ยว จนทุกคนในครอบครัวผมได้ไปเที่ยวต่างประเทศกันหมดแล้ว พ่อผมได้ไป ออสเตรีเลีย, สวิส, เยอรมันนี, เนเธอร์แลนด์ ส่วนแม่ได้ไป ออสเตรเลีย, เยอรมันนี, เนเธอร์แลนด์ น้องๆได้ไป สวิสฯ, เยอรันนี, เนเธอแลนด์ มีแผนจะพาพ่อแม่ไปสหรัฐอเมริกา แต่ทั้ง 2 ท่านก็เสียชีวิตเสียก่อน พ่อเสียชีวิต พ.ศ. 2537 แม่เสียชีวิต พ.ศ. 2540 พ.ศ. 2544 เรียนจบปริญญาตรี ครุศาสตร์บัณฑิต เอกดนตรี(สากล) ม.ราชภัฎจันทรเกษม พ.ศ. 2546 สอบเป็นนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร พ.ศ. 2550 เรียนจบปริญญาโท ศิลปศาสตร์มหาบัณฑิต (รัฐศาสตร์) สาขาการเมืองการปกครอง ม.รามคำแหง พ.ศ. 2557 เรียนจบปริญญาเอก ปรัชาดุษฎีบัณฑิต สาขาการบริหารการดนตรี ม.มหาสารคาม พ.ศ. 2557 เลื่อนยศเป็น พันตำรวจโท ฝ่ายสื่อวิทยุกระจายเสียง กองสารนิเทศ ปลายปี พ.ศ. 2557 จะมีผลงานเพลงออกมา 4 ชุด เป็นกำลังใจให้ด้วยนะครับ.
เว็บไซต์ Bankaonews.com
November 21, 2024
November 20, 2024
November 19, 2024
ชื่อ-สกุล*
อีเมล์*
เว็ปไซต์
แสดงความคิดเห็น
Notify me of follow-up comments by email.
Notify me of new posts by email.
Δ
พ.ต.ท. ดร.วิระ บำรุงศรี
พ.ต.ท. ดร.วิระ บำรุงศรี
เกิด 22 กันยายน 2505 ต.พยุหะ อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์
คุณพ่อ รับราชการครู คุณแม่ ทำนา ปัจจุบันเสียชีวิตแล้วทั้ง 2 ท่าน
เป็นลูกชายคนโต มีน้องชาย 2 คน
1. นายฤทธิพรรณ บำรุงศรี ทำธุรกิจสวนเกษตร “บ้านไร่บำรุงศรี” อ.แม่วงก์ จ.นครสวรรค์ จำหน่ายกิ่งพันธุ์ไม้ และรับจัดสวน
2. นายนิพนธ์ บำรุงศรี ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 5 ต.พยุหะ อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ ทำธุรกิจสวนเกษตรบ้านไร่ “บ้านไร่ บำรุงศรี คีรีเทพ” อ.ลาดยาว จ.นครสวรรค์
ชีวิตวัยเด็ก
– ช่วยครอบครัวทำนา, ทำไร่, หล่อเสาปูนคอนกรีต, เก็บของเก่าตามกองขยะและข้างถนนขาย, พืชผัก ผลไม้ ทุกชนิด แถวบ้านที่ขายได้ก็จะเก็บไปขาย เพื่อนำรายได้มาช่วยพ่อแม่
– ชอบการร้องเพลงมาแต่เด็กเล็ก เนื่องจากพ่อเป็นครูสอนดนตรีไทย จึงได้รับการถ่ายทอดฝึกฝนตั้งแต่เด็ก
การศึกษา
ประถม1-2 โรงเรียนประศาสตร์วิทย์ อ.พยุหะคีรี
ประถม3-7 โรงเรียนพยุหะศึกษาคาร อ.พยุหะคีรี
มัธยม 1-3 โรงเรียนนครสวรรค์ โรงเรียนประจำจังหวัด
มัธยม 4-5 โรงเรียนอุทัยวิทยาคม จ.อุทัยธานี
พ.ศ. 2524 สอบชิงทุนสาธารณสุข จ.นครสวรรค์ ไปเรียนหลักสูตรเจ้าหน้าที่สาธารณสุข (พนักงานอนามัย) ที่วิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธร จ.พิษณุโลก 2 ปี จบแล้วบรรจุเป็นข้าราชการเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ระดับ 1 ปฏิบัติงานที่สถานีอนามัย ต.เนินศาล อ.โกรกพระ จ.นครสวรรค์
เมื่อพ.ศ. 2526 ทำหน้าที่หมอจำเป็น เพราะไม่มีนายแพทย์ อยู่ประจำสถานีอนามัย ต้องตรวจโรครักษาคนไข้ วินิจฉัยโรค, ฉีดยา, จ่ายยา, เย็บแผล, ผ่าตัดเล็กๆ ทำคลอด คนไข้เลยเรียกหมอโดยปริยาย เคสไหนที่หนักเกิดขีดความสามารถจะส่งต่อไปยังโรงพยาบาลอำเภอ หรือจังหวัด
เมื่อ พ.ศ. 2527 ถูกย้ายไปอยู่สถานอนามัย บ้านตะเข้ค่าย ต.วังใหญ่ อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์ ลำบากมาก เพราะอยู่ไกลตัวอำเภอราว 40 กม. มีรถมอเตอร์ไซต์ประจำตำแหน่ง SUZUKI F70 เก่าๆ 1 คัน น้ำประปาไม่มี ไฟฟ้าไม่มี ถนนเป็นดินเหนียว หมู่บ้านนี้เป็นที่ลุ่ม น้ำท่วมบ่อยๆ อยู่ไม่ไกลจากบึงบอระเพ็ด หน้าฝนเข้าออกลำบาก ยิ่งรถมอเตอร์ไซต์จะลำบากมาก เพราะเป็นรถแบบผู้หญิง ดินเหนียวจะมายัดที่บังโคลนล้อเวลาวิ่ง ต้องใช้เหล็กแหลมๆ คอยแทงดินออกจึงจะไปต่อได้ ที่สำคัญถูกส่งไปอยู่คนเดียวตามลำพัง รับผิดชอบทั้งสถานี เป็นตั้งแต่ภารโรง ยันหัวหน้าสถานี ใหญ่สุดๆเลย แถมยังอยู่ติดกับวัดอีกต่างหาก ตอนเช้าเลยต้องเป็นลูกศิษย์วัด เดินบิณฑบาตไปกับพระ เลยได้อาศัยข้าววัดมื้อเช้ากับเพล อยู่ได้เกือบปี ถูกงัดสถานีอนามัย ขโมยยา, เครื่องมือแพทย์ ไปเกือบหมด…………………………………. เป็นหมื่นๆ ลำบากสุดๆ จากสภาพชีวิตที่ผ่านมา……………… ให้ผมมีความแข็งแกร่ง อดทน และทนอด ต่อสู้กับความลำบากได้ทุกรูปแบบ มีความกล้าในการตัดสินใจและแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ทันที หลังเคลียร์ปัญหาเสร็จได้ขอย้ายไปอยู่สถานีอนามัย ต.หนองพิกุล อ.ตากฟ้า จ.นครสวรรค์ ในปีพ.ศ. 2529 ช่วงนั้นรายการคอนเสิร์ตคอนเทส ทาง ททบ.5 ของบริษัท JSL กำลังดัง เป็นรายการประกวดร้องเพลงเพื่อคัดผู้ชนะไปอัดแผ่นเป็นศิลปินค่ายคีตาแผ่นเสียงและเทป ก็เหมือนกับการประกวด AF ในปัจจุบันนี้ คนชนะได้รางวัลเยอะ แถมได้เป็นนักร้องอัดแผ่นอีก การคัดเลือกผู้แข่งขันต้องอัดเสียงร้องของตัวเองส่งไปที่รายการแล้วเขาก็จะคัดเลือกจากทั่วประเทศ เหลือสัปดาห์ละ 10 คน มาแข่งกัน หาผู้ชนะ สัปดาห์ละ 1 คน ที่แหละคือจุดเปลี่ยนของชีวิตผมละ ผมเห็นช่องทางหาเงินแล้ว ผมส่งเทปเสียงไปเพื่อให้กรรมการคัดเลือกสัปดาห์นั้นเขาประกวดแนวเพลงคาราบาว ไม่ค่อยถนัดเท่าไหร่แต่เพื่ออยากได้เงินไม่ได้อยากเป็นนักร้องหรอก ปรากฏว่าถูกเรียกตัว เข้าไปแข่งขันตื่นเต้นน่าดู เพราะจะได้ออก T.V. ทำเต็มที่ได้แค่ที่ 2 ยังไม่ยอมแพ้ เดือนต่อไปผมส่งเพลงไปแข่งอีกคราวนี้เป็นแนวเพลงจรัล มโนเพชร ก็ได้ไปแข่งสมใจ และก็สมใจจริงๆ เพราะผมได้แชมป์ประจำสัปดาห์ ดีใจมาก ดังทั้งจังหวัดนครสวรรค์เลยละ เพราะอย่างที่บอกคนดูรายการนี้มากจริงๆ พอๆกับดูแข่ง AF นั่นแหละ เดือนต่อมาไปแข่งต่อเพื่อชิงแชมป์ประจำเดือน ปรากฏว่าแพ้ แต่ก็สมใจเพราะอยากได้แค่เงินเท่านั้น ไม่อยากเป็นนักร้องอาชีพ เพราะมองดูแล้วว่ายากมากๆ
เรื่องไม่จบง่ายๆ ซะแล้ว หลังจากแข่งขันจบประมาณ 3 เดือน จู่ๆ ก็มีโทรเลขจาก บ.คีตาแผ่นเสียงและเทป (พ.ศ.2530 โทรศัพท์มือถือยังไม่มี โทรศัพท์ก็มีบางบ้าน) ดังนั้นโทรเลขจึงมีความรวดเร็วที่สุด คีตาฯ เรียกตัวให้ผมไปเทสเสียงเพื่อทำเทปชุดใหม่ เอาเพลงสุนทราภรณ์มาทำใหม่ในนามวง เยื่อไม้ จากความคิดของคุณจิก ประภาส ชลศรานนท์ และคุณสมพงษ์ วิสิฏวานิช เจ้าของคีตา ไม่คิดว่าจะได้แต่ก็ได้อีก อายุขณะนั้นปี 2530 อายุ 25 ปี พอดี เอาไงหละทีนี้ เป็นข้าราชการด้วย จะเป็นนักร้องด้วย แล้วจะทำงานกันแบบไหนล่ะ ระหว่างกรุงเทพฯ กับนครสวรรค์ ชุดแรกที่ออกมา ชุดเยื่อไม้ 1 ดังระเบิดเถิดเทิง แต่คนจำหน้าไม่ได้ เพราหน้าปกเป็นภาพวาด งานแสดงที่ทางคีตารับไว้ เพิ่มมากขึ้น ต้องเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ทุกสัปดาห์ วันศุกร์บ่ายๆ ก็ขึ้นรถทัวร์ที่ บขส. ตาคลี มากรุงเทพฯ เพื่อมางาน ศุกร์เย็น – เสาร์-อาทิตย์ มาอาศัยอพาทเมนต์………. รามคำแหงเป็นที่นอน วันอาทิตย์งานเสร็จ 4-5 ทุ่ม ก็นั่งรถเข้าไปหมอชิตเลย เพื่อรอขึ้นรถทัวร์ตอนตี 5 กลับมาทำงานที่ อ.ตากฟ้า จ.นครสวรรค์ ผอมต้องนั่งรอเวลารถออกตอนตี 5 ผมก็หาที่นอนแถวนั้นเลย ก็เก้าอี้สีส้มที่เป็นแถวๆ ยาวๆ ไว้ให้ผู้โดยสารนั่งรอรถนั่นแหละ ผมนอนเหยียดยาวเลย ไม่มีใคร……….เลย ผมทำแบบนี้อยู่ประมาณ 5 เดือน เหนื่อยมาก และเยื่อไม้ชุด2 กำลังออกพอดี ผมเลยตัดสินใจลาออกจากราชการเมื่อปีพ.ศ. 2531 มาเป็นนักร้องเต็มตัวเลย วงเยื่อไม้ออกผลงานมา 3 ปี 11 ชุด ก็ต้องยุบวงไป เพราะกระแสเพลงเริ่มไม่ได้รับความนิยม จากนั้น บ.คีตาฯ ก็ตั้งวง มะลิลบราซิลเลี่ยน
ปีพ.ศ.2534 โดยมีผมเป็นนักร้องนำพร้อมสมาชิกในวงอีก 4 คน คือ แอน อังคณา ทิมดี, เปิ้ล ปาริกา เทพสุขดี หนึ่ง นึกคิด บุญทอง, เอล อิสราคม เอื้อพงษ์พันธ์ (เสียชีวิต) เพลงดังๆ ก็ 1. ไม่อ้วนเอาเท่าไหร่ 2. ฟองสบู่ 3. กล้าได้กล้าเสีย 4. เธอก็แค่โซดา 5. ปลายฟ้า
ปี พ.ศ. 2535 ผมกลับเข้ารับราชการตำรวจโดยการชักนำของ ยอดรัก สลักใจ ได้ยศ พลฯสำรองพิเศษ สังกัดกองสวัสดิการ เป็นนักร้องด้วย ตำรวจด้วย เพราะผมมองว่านักร้องเป็นอาชีพไม่แน่นอน ควรหาอาชีพที่แน่นอนไว้ดีกว่า และก็เป็นดังที่ผมคาดไว้ ต่อมาปี พ.ศ. 2536 วงมะลิลาฯ ก็ยุบวง บริษัท คีตา ก็ได้ปิดตัวลง ผมจึงกลายเป็นนักร้องไร้สังกัด อิสระเสรีก็รับงานเอง จนถึงปัจจุบันนี้
รับงานร้องเพลงที่สหรัฐอเมริกาปีละครั้ง ออสเตรีเลีย, อังกฤษ, สวิส, เยอรมันนี, ญี่ปุ่น ถือว่าไปเที่ยวพักผ่อน เป็นชีวิตที่มีความสุขมาก เพราะแต่ละครั้งก็จะพา พ่อ แม่ น้องๆ ญาติๆ สลับกันติดตามไปเที่ยว จนทุกคนในครอบครัวผมได้ไปเที่ยวต่างประเทศกันหมดแล้ว พ่อผมได้ไป ออสเตรีเลีย, สวิส, เยอรมันนี, เนเธอร์แลนด์ ส่วนแม่ได้ไป ออสเตรเลีย, เยอรมันนี, เนเธอร์แลนด์ น้องๆได้ไป สวิสฯ, เยอรันนี, เนเธอแลนด์ มีแผนจะพาพ่อแม่ไปสหรัฐอเมริกา แต่ทั้ง 2 ท่านก็เสียชีวิตเสียก่อน พ่อเสียชีวิต พ.ศ. 2537 แม่เสียชีวิต พ.ศ. 2540
พ.ศ. 2544 เรียนจบปริญญาตรี ครุศาสตร์บัณฑิต เอกดนตรี(สากล) ม.ราชภัฎจันทรเกษม
พ.ศ. 2546 สอบเป็นนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร
พ.ศ. 2550 เรียนจบปริญญาโท ศิลปศาสตร์มหาบัณฑิต (รัฐศาสตร์) สาขาการเมืองการปกครอง ม.รามคำแหง
พ.ศ. 2557 เรียนจบปริญญาเอก ปรัชาดุษฎีบัณฑิต สาขาการบริหารการดนตรี ม.มหาสารคาม
พ.ศ. 2557 เลื่อนยศเป็น พันตำรวจโท ฝ่ายสื่อวิทยุกระจายเสียง กองสารนิเทศ
ปลายปี พ.ศ. 2557 จะมีผลงานเพลงออกมา 4 ชุด
เป็นกำลังใจให้ด้วยนะครับ.
เว็บไซต์ Bankaonews.com
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
โรงไฟฟ้าขนอม ร่วมสืบสานประเพณีลอยกระทง สร้างความสุขทั่วอำเภอขนอม
November 21, 2024
โรงไฟฟ้าขนอม ร่วมส่งเสริมสุขภาพชุมชน สนับสนุนอบรม อสม.ใหม่/ทดแทน
November 21, 2024
อบจ.สงขลา ร่วมรับรางวัลประกาศเกียรติคุณ “ค่าของแผ่นดิน” ประจำปี 2566 ด้านการพัฒนาสังคมและส่งเสริมคุณภาพชีวิต จากโครงการ ...
November 20, 2024
อโกด้าเผย หาดใหญ่คว้าแชมป์เมืองท่องเที่ยวที่คุ้มค่าที่สุดในไทย ช่วงเทศกาลส่งท้ายปี
November 19, 2024