เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2558 กมธ. การศึกษาและการกีฬา สนช. นำโดย พล.ต.จารึก อารีราชการัณย์ รองประธาน กมธ. คนที่สี่ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมาธิการการกีฬา พล.อ.อดุลยเดช อินทะพงษ์ กรรมาธิการ ในฐานะรองประธานคณะอนุกรรมาธิการการกีฬา พร้อมด้วยอนุกรรมาธิการการกีฬา เข้าร่วมหารือกับนางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รมว. กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และคณะผู้บริหารของกระทรวง ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 2 สำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มีประเด็นสำคัญในการหารือ ดังนี้

1.การสนับสนุนงบประมาณให้แก่สมาคมกีฬาที่ขอรับพระราชทานถ้วยรางวัล
เนื่องจากปัจจุบันสมาคมกีฬาต่าง ๆ ได้ขอรับพระราชทานถ้วยรางวัลจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้า พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ แต่ปรากฎว่าบางสมาคมกีฬาไม่สามารถจัดการแข่งขันชิงถ้วยพระราชทานได้ จึงขอให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ได้ให้การสนับสนุนด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะงบประมาณให้แต่ละสมาคมกีฬาเพื่อให้สามารถจัดการแข่งขันได้

2.แนวทางในการกำกับดูแลสมาคมกีฬาตาม พ.ร.บ.การกีฬาแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2558
พ.ร.บ. การกีฬาแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2558 ได้กำหนดให้สมาคมกีฬาต้องปฏิบัติตามข้อบังคับที่คณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทยกำหนด ซึ่งคณะอนุกรรมาธิการการกีฬาได้มีการประชุมและเชิญการกีฬาแห่งประเทศไทยเข้าร่วมหารือเพื่อเร่งรัดการออกข้อบังคับเพื่อกำกับดูแลสมาคมกีฬา รวมทั้งการตรากฎหมายลูกตามที่ พ.ร.บ. การกีฬาแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2558 กำหนด จำนวนหลายครั้ง แต่ขณะนี้ กกท.ยังมิได้ออกข้อบังคับดังกล่าวให้แล้วเสร็จ ซึ่งเกิดระยะเวลา 180 วัน ตามที่กฎหมายกำหนดแล้ว จึงทำให้การกำกับดูแลสมาคมกีฬาต่าง ๆ โดยเฉพาะการเลือกนายกสมาคมกีฬาไม่สามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ

3.แนวทางในการบริหารจัดการกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ
ในการบริหารจัดการกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติพบว่ายังไม่สามารถดำเนินการตั้งคณะกรรมการบริหารกองทุนได้ภายในระยะเวลา 180 วัน ตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งในระหว่างที่ยังไม่มีคณะกรรมการบริหารกองทุน พ.ร.บ. การกีฬาแห่งประเทศไทยกำหนดให้คณะกรรมการ กกท. ทำหน้าที่บริหารกองทุนไปพลางก่อน ซึ่งอยู่ระหว่างการตั้งคณะกรรมการ กกท. ชุดใหม่ และคณะกรรมการบริหารกองทุน และให้คณะกรรมการบริหารกองทุนเป็นผู้กำหนดระเบียบการใช้เงิน และในการใช้จ่ายเงินต้องเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของกองทุนตามมาตรา 42 และควรมีแผนการใช้จ่ายเงินที่ชัดเจน

4.แนวทางในการบริหารจัดการสมาคมแห่งจังหวัด
เนื่องจากตามมาตรา 30 ได้กำหนดให้หลักเกณฑ์วิธีการได้มา วาระการดำรงตำแหน่ง และการพ้นจากตำแหน่งของกรรมการกีฬาจังหวัดตามมาตรา 30 (4) (5) (6) และ (7) ให้เป็นไปตามระเบียบที่คณะกรรมการกำหนด แต่ปัจจุบันคณะกรรมการ กกท. ยังมิได้ออกระเบียบกำหนดหลักเกณฑ์ และวิธีการได้มาซึ่งคณะกรรมการกีฬาจังหวัด ส่งผลให้การเลือกคณะกรรมการกีฬาจังหวัดยังไม่สามารถดำเนินการได้

ทั้งนี้ การกีฬาแห่งประเทศไทยได้ให้ข้อมูลว่า ในการตรากฎหมายลูกตาม พ.ร.บ. การกีฬาแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2558 ที่มีความล่าช้านั้น เนื่องจากต้องผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการกลั่นกรองกฎหมาย ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในสัปดาห์นี้ และในส่วนของการตั้งคณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทยชุดใหม่ จะสามารถดำเนินการแต่งตั้งแล้วเสร็จภายในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2558 และจะสามารถตั้งคณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติได้เสร็จภายในวันที่ 15 ธันวาคม 2558

กองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ ขณะนี้ได้มีการร่างระเบียบการใช้เงินเรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างการตรวจพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองกฎหมาย นอกจากนี้ กรมบัญชีกลางได้รวมเอากองทุนมวยและกองทุนกีฬาอาชีพเข้ากับกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ จึงอาจทำให้กองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติไม่สามารถใช้เงินได้ตามวัตถุประสงค์ ซึ่งคณะอนุกรรมาธิการ และ กกท. เห็นว่าไม่สามารถทำได้ เนื่องจากกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติเป็นกองทุนที่จัดตั้งและมีวัตถุประสงค์ตามที่กฎหมายกำหนดเป็นการเฉพาะ ทั้งนี้ คณะอนุกรรมาธิการการกีฬา และการกีฬาแห่งประเทศไทยอาจเข้าหารือกับกรมบัญชีกลางเพื่อร่วมกันหาทางออกต่อไป.