21 พฤศจิกายน 2555 การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) จะนะ ร่วมกับสมาคมเรือประมงชายฝั่งคลองนาทับ จัดพิธีเปิด “ธนาคารปูม้า คลองนาทับ” และปลูกป่าชายเลนในพี้นที่ ต.นาทับ หวังเพิ่มพันธุ์ปูม้าในคลองนาทับ และกระตุ้นจิตสำนึกในการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ

นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานในพิธีเปิด “ธนาคารปูม้า คลองนาทับ” และปลูกป่าชายเลน โดยมีผู้บริหาร กฟผ. นายณรงค์พร ณ พัทลุง นายอำเภอจะนะ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำชุมชน ประชาชนชาวนาทับ และสื่อมวลชน ร่วมงาน ณ บริเวณบ้านปากบางนาทับ หมู่ 2 ต.นาทับ อ.จะนะ จ.สงขลา

นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวว่า รู้สึกยินดีที่ กฟผ. และสมาคมเรือประมงชายฝั่งคลองนาทับ ได้ร่วมแรงร่วมใจกันจนสามารถจัดตั้ง “ธนาคารปูม้า คลองนาทับ” ซึ่งเป็นธนาคารปูแห่งแรกในอำเภอจะนะได้สำเร็จ แสดงให้เห็นถึงความร่วมมืออันดีระหว่างชุมชนกับหน่วยงานภาครัฐ รวมทั้งมีความประทับใจที่ทุกภาคส่วนได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของคลองนาทับ ซึ่งเป็นสายน้ำหลักในการประกอบอาชีพประมงของพี่น้องประชาชนตำบลนาทับ และพื้นที่ใกล้เคียง

ด้านนายไกรโชค ผลชีวิน ผู้ช่วยผู้ว่าการชุมชนสัมพันธ์และสิ่งแวดล้อม กฟผ. เปิดเผยว่า นอกจาก กฟผ. จะมีภารกิจหลักในการผลิตไฟฟ้าแล้ว กฟผ. ยังมุ่งดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อม เพื่อให้อยู่คู่กับชุมชนได้เสมือนเป็นญาติมิตร มีความอบอุ่น และมีส่วนร่วมที่จะทำให้ชุมชนมีความเป็นอยู่ที่ดี มีการพัฒนาอาชีพที่เข้มแข็ง โดยยึดปรัชญาว่า “การพัฒนาของชุมชนต่าง ๆ ต้องอยู่บนรากฐานที่ทำให้ชุมชนมีความแข็งแกร่งสามารถยืนได้ด้วยตนเอง และได้รับผลประโยชน์ร่วมกัน” กฟผ. จึงเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดตั้งธนาคารปูม้า ร่วมกันฟื้นฟูแหล่งเพาะพันธุ์สัตว์น้ำ และปลูกป่าชายเลนตามแนวตลิ่ง ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อชาวประมงพื้นบ้านในระยะยาว

ความร่วมมือระหว่าง กฟผ. กับองค์กรภาคประชาชนในตำบลนาทับ จะดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่อง โดยในเบื้องต้น กฟผ.จะนะ สมาคมเรือประมงชายฝั่งคลองนาทับ และองค์กรภาคประชาชนอื่น ๆ จะร่วมกันคืนความสมดุลให้แก่ระบบนิเวศน์ โดยการปลูกป่าชายเลนเพิ่มเติมตามแนวฝั่งคลองนาทับ เพื่อเป็นแหล่งเพาะพันธุ์สัตว์น้ำ อันจะนำมาซึ่งการเพิ่มขึ้นของจำนวนสัตว์น้ำในอนาคต นายไกรโชค กล่าวในตอนท้าย

โครงการจัดตั้ง “ธนาคารปูม้า คลองนาทับ” ถือเป็นหนึ่งในต้นแบบของความร่วมมืออันดีระหว่าง กฟผ. และองค์กรภาคประชาชน ที่มีความมุ่งมั่นและตั้งใจจริงของคนในชุมชนในการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ อีกทั้งยังจะช่วยฟื้นฟูอนุรักษ์พันธุ์ปูม้าให้กลับมามีอยู่อย่างอุดมสมบูรณ์และยั่งยืนต่อไป.