9 พฤศจิกายน 2555 ณ ศาลาประชาคม อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตรวจเยี่ยมด่านศุลกากรบ้านประกอบ ด่านสะเดา และมอบเงินค่าชดเชยผลอาสินและสิ่งก่อสร้างโครงการด่านสะเดา จำนวน 33 ราย โดยมีนายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เจ้าหน้าที่จากกรมศุลกากร และประชาชนให้การต้อนรับเป็นจำนวนมาก
นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามนโยบายรัฐบาลยุทธศาสตร์การพัฒนาด่านชายแดนไทย-มาเลเซีย ตามกรอบความร่วมมือ IMT-GT, JDS และประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ซึ่งด่านศุลกากรสะเดาเป็นด่านศุลกากรทางบกที่ใหญ่ที่สุดในภาคใต้ ในแต่ละปีมีมูลค่าการนำเข้า-ส่งออกผ่านเขตแดนทางบกมากที่สุดในประเทศไทย ประมาณ 300,000 ล้านบาทต่อปี มีนักท่องเที่ยวผ่านเข้า-ออกเป็นจำนวนมาก ประมาณ 4,000,000 คน ต่อปี มีแนวโน้มการค้าการลงทุนขนส่ง และการท่องเที่ยวขยายตัวเพิ่มขึ้นทุกปีอย่างต่อเนื่องประมาณปีละ 20% เส้นทางเชื่อมโยงระหว่างด่านศุลกากรสะเดากับด่าน BUKIT KAYU HITUM ประเทศมาเลเซียเป็นเส้นทางที่สำคัญที่สุดในการขนส่ง การท่องเที่ยว ซึ่งประเทศมาเลเซียและสิงคโปร์เป็นเพื่อนบ้านที่มีพลังเศรษฐกิจสูงที่สุดในการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว
ดังนั้นโครงการปรับปรุงด่านศุลกากรสะเดา (ด่านพรมแดน) เป็นแผนการพัฒนาด่านศุลกากรไทย-มาเลเซีย สำรหับบริการอำนวยความสะดวก การขนส่ง การท่องเที่ยว และรองรับ AEC ปี 2558 ซึ่งในการดำเนินการจัดเตรียมที่ดินมีชาวบ้านผู้ครอบครอง 33 ราย 36 แปลง ได้ตกลงยินยอมพร้อมที่จะเข้ารับเงินค่าชดเชยผลอาสินและสิ่งปลูกสร้างจำนวนเงิน 39,895,069 บาท ซึ่งต้องขอขอบคุณประชาชนผู้ครอบครองจำนวน 33 ราย ที่ได้เสียสละประโยชน์ส่วนตนเพื่อการพัฒนาประเทศไทยให้มีความมั่นคงด้านเศรษฐกิจ สังคม และความร่วมมือระหว่างประเทศ รวมทั้งขอให้ดำเนินการก่อสร้างโครงการปรับปรุงด่านศุลกากรสะเดาให้แล้วเสร็จตามแผนงานที่กำหนดไว้เพื่อรองรับการขยายตัวของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน AEC ในปี 2558.
ชื่อ-สกุล*
อีเมล์*
เว็ปไซต์
แสดงความคิดเห็น
Notify me of follow-up comments by email.
Notify me of new posts by email.
Δ
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีตรวจเยี่ยมด่านศุลกากรบ้านประกอบ ด่านสะเดา
9 พฤศจิกายน 2555 ณ ศาลาประชาคม อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตรวจเยี่ยมด่านศุลกากรบ้านประกอบ ด่านสะเดา และมอบเงินค่าชดเชยผลอาสินและสิ่งก่อสร้างโครงการด่านสะเดา จำนวน 33 ราย โดยมีนายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เจ้าหน้าที่จากกรมศุลกากร และประชาชนให้การต้อนรับเป็นจำนวนมาก
นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามนโยบายรัฐบาลยุทธศาสตร์การพัฒนาด่านชายแดนไทย-มาเลเซีย ตามกรอบความร่วมมือ IMT-GT, JDS และประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ซึ่งด่านศุลกากรสะเดาเป็นด่านศุลกากรทางบกที่ใหญ่ที่สุดในภาคใต้ ในแต่ละปีมีมูลค่าการนำเข้า-ส่งออกผ่านเขตแดนทางบกมากที่สุดในประเทศไทย ประมาณ 300,000 ล้านบาทต่อปี มีนักท่องเที่ยวผ่านเข้า-ออกเป็นจำนวนมาก ประมาณ 4,000,000 คน ต่อปี มีแนวโน้มการค้าการลงทุนขนส่ง และการท่องเที่ยวขยายตัวเพิ่มขึ้นทุกปีอย่างต่อเนื่องประมาณปีละ 20% เส้นทางเชื่อมโยงระหว่างด่านศุลกากรสะเดากับด่าน BUKIT KAYU HITUM ประเทศมาเลเซียเป็นเส้นทางที่สำคัญที่สุดในการขนส่ง การท่องเที่ยว ซึ่งประเทศมาเลเซียและสิงคโปร์เป็นเพื่อนบ้านที่มีพลังเศรษฐกิจสูงที่สุดในการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว
ดังนั้นโครงการปรับปรุงด่านศุลกากรสะเดา (ด่านพรมแดน) เป็นแผนการพัฒนาด่านศุลกากรไทย-มาเลเซีย สำรหับบริการอำนวยความสะดวก การขนส่ง การท่องเที่ยว และรองรับ AEC ปี 2558 ซึ่งในการดำเนินการจัดเตรียมที่ดินมีชาวบ้านผู้ครอบครอง 33 ราย 36 แปลง ได้ตกลงยินยอมพร้อมที่จะเข้ารับเงินค่าชดเชยผลอาสินและสิ่งปลูกสร้างจำนวนเงิน 39,895,069 บาท ซึ่งต้องขอขอบคุณประชาชนผู้ครอบครองจำนวน 33 ราย ที่ได้เสียสละประโยชน์ส่วนตนเพื่อการพัฒนาประเทศไทยให้มีความมั่นคงด้านเศรษฐกิจ สังคม และความร่วมมือระหว่างประเทศ รวมทั้งขอให้ดำเนินการก่อสร้างโครงการปรับปรุงด่านศุลกากรสะเดาให้แล้วเสร็จตามแผนงานที่กำหนดไว้เพื่อรองรับการขยายตัวของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน AEC ในปี 2558.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
There is no related posts.