24 ตุลาคม 2555 ณ ห้องประชุมหน่วยเฉพาะกิจอโณทัย ค่ายอิงคยุทธบริหาร ตำบลบ่อทอง อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี พลเอกยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง พร้อมด้วย พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก/รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร และคณะ ได้เดินทางลงมาติดตามผลการปฏิบัติงานที่สำคัญ งานตามนโยบาย และมอบนโยบายการปฏิบัติงานในห้วงต่อไป โดยมี พลโทอุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ ๔/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค ๔, พลตำรวจโท ไพฑูรย์ ชูชัยยะ ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้, พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้, ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัด และผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่ เข้าร่วมการประชุม
โดยภายหลังการประชุม พลเอกยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวถึง การประชุมในครั้งนี้ว่า การเดินทางลงพื้นที่ในครั้งนี้ เป็นสั่งการจากนายกรัฐมนตรีในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๕ ตุลาคม ๒๕๕๕ โดยได้มอบหมายให้ลงพื้นที่เพื่อดูแลทุกข์สุขและพบปะประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้งได้ฝากความห่วงใยมายังเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ในระยะเวลาที่ผ่านมา และจะให้การสนับสนุนเครื่องมือที่ทันสมัย เพื่อให้การปฏิบัติงานเกิดประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมทั้งเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายปฏิบัติงานด้วยความอดทน และเพิ่มความระมัดระวังในการทำงานให้มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในห้วงวันครบรอบ ๘ ปี ตากใบ ส่วนการให้ความช่วยเหลือด้านการเยียวยานั้น ทางศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้มีการดำเนินการไปแล้วอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังได้กล่าวถึงความคืบหน้าการเปิดพื้นที่พูดคุยสันติภาพกับผู้ที่คิดต่างจากรัฐว่า เป็นนโยบายของรัฐบาลที่ในขณะนี้ยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่องโดยแม่ทัพภาคที่ ๔ ส่วนเรื่องปัญหาภัยแทรกซ้อน ถือเป็นภารกิจที่ต้องเร่งแก้ไข ขณะนี้ได้สั่งการให้ฝ่ายตำรวจและฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการในเรื่องนี้อย่างเคร่งครัด และยืนยันจะตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยคณะกรรมการพิเศษ หากพบเจ้าหน้าที่ทำผิด ต้องมีการลงโทษและดำเนินคดีตามกฎหมาย
ด้านพันตำรวจเอกทวี สอดส่อง เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวถึงการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ชุมนุมที่อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส เมื่อวันที่ ๒๕ ตุลาคม ๒๕๔๗ ว่า เป้าหมายของการเยียวยาคือการให้ความดูแลเรื่องคุณภาพชีวิต ให้ผู้ได้รับผลกระทบสามารถดำเนินชีวิตในสังคมได้อย่างไม่เป็นภาระ ที่สำคัญคือการดูแลด้านจิตใจ ซึ่งส่วนนี้ทางศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ก็ได้ให้การเยียวยาครบทุกมิติ เชื่อว่าบุคคลกลุ่มนี้น่าจะมีพลังในการพัฒนาพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ร่วมกับคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดนราธิวาส จัดกิจกรรมช่วยเหลือเด็กกำพร้า และทำบุญระลึกถึงผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ชุมนุม โดยมีผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ในครั้งนั้นร่วมกิจกรรมและให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี สิ่งนี้เป็นสัญญาณที่แสดงให้เห็นว่าทุกคนมีความต้องการที่จะออกจากวังวนของความรุนแรง ซึ่งหากได้พลังของมวลชนมาร่วมกันแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ก็จะสามารถช่วยให้การขับเคลื่อนการทำงานเป็นไปอย่างราบรื่นมากยิ่งขึ้น
จากนั้นเวลา ๑๔.๓๐ น. รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง และคณะ เดินทางต่อไปยังโรงแรมซี.เอส. ปัตตานี อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี เพื่อร่วมการประชุมหารือสมาชิกสมาคมปัญญาชนมุสลิมจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อรับฟังข้อเสนอแนะตามนโยบายการมีส่วนร่วมทุกภาคส่วนในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ โดยมีอาจารย์ อับดุลเลาะ หะยียามา นายกสมาคมปัญญาชนมุสลิมจังหวัดชายแดนภาคใต้ สรุปผลการพบปะหารือและกำหนดแนวทางการปฏิบัติงานของคณะกรรมการและสมาชิกปัญญาชนมุสลิมจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในการนี้ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคงและ ผู้บัญชาการทหารบก ได้ตอบข้อซักถามและแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเรื่องแนวทางการแก้ไขสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่กับสมาชิกสมาคมฯ อีกด้วย
อาจารย์อับดุลเลาะ หะยียามา นายกสมาคมปัญญาชนมุสลิมจังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวว่า รู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่ง ที่รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคงและผู้บัญชาการทหารบก ร่วมพบปะหารือกับกลุ่มสมาชิกในวันนี้ และมองว่าการทำงานที่ผ่านมาของภาครัฐดำเนินมาถูกทางแล้ว พี่น้องประชาชนในพื้นที่มีความไว้ใจเจ้าหน้าที่รัฐมากขึ้น และรู้สึกว่าการที่ทางสมาคมฯ ได้เข้ามามีส่วนร่วมกับภาครัฐก่อให้เกิดประโยชน์ในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ เพราะจากการร่วมประชุมหารือแนวทางการทำงานกับแม่ทัพภาคที่ ๔ ในห้วงที่ผ่านมา ได้มีการนำข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากสมาคมฯ ไปใช้ในการกำหนดยุทธศาสตร์การปฏิบัติงานในหลายๆด้าน พร้อมย้ำว่าจะเร่งทำความเข้าใจกับนักเรียนนักศึกษา รวมถึงพี่น้องประชาชนให้มีความเข้าใจที่ถูกต้องถึงกรอบการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐ ในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบจังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างต่อเนื่อง.
ขอขอบคุณข้อมูล/ภาพ : ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค ๔ ส่วนหน้า
ชื่อ-สกุล*
อีเมล์*
เว็ปไซต์
แสดงความคิดเห็น
Notify me of follow-up comments by email.
Notify me of new posts by email.
Δ
รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง พร้อม ผู้บัญชาการทหารบก/รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
24 ตุลาคม 2555 ณ ห้องประชุมหน่วยเฉพาะกิจอโณทัย ค่ายอิงคยุทธบริหาร ตำบลบ่อทอง อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี พลเอกยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง พร้อมด้วย พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก/รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร และคณะ ได้เดินทางลงมาติดตามผลการปฏิบัติงานที่สำคัญ งานตามนโยบาย และมอบนโยบายการปฏิบัติงานในห้วงต่อไป โดยมี พลโทอุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ ๔/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค ๔, พลตำรวจโท ไพฑูรย์ ชูชัยยะ ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้, พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้, ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัด และผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่ เข้าร่วมการประชุม
โดยภายหลังการประชุม พลเอกยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวถึง การประชุมในครั้งนี้ว่า การเดินทางลงพื้นที่ในครั้งนี้ เป็นสั่งการจากนายกรัฐมนตรีในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๕ ตุลาคม ๒๕๕๕ โดยได้มอบหมายให้ลงพื้นที่เพื่อดูแลทุกข์สุขและพบปะประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้งได้ฝากความห่วงใยมายังเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ในระยะเวลาที่ผ่านมา และจะให้การสนับสนุนเครื่องมือที่ทันสมัย เพื่อให้การปฏิบัติงานเกิดประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมทั้งเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายปฏิบัติงานด้วยความอดทน และเพิ่มความระมัดระวังในการทำงานให้มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในห้วงวันครบรอบ ๘ ปี ตากใบ ส่วนการให้ความช่วยเหลือด้านการเยียวยานั้น ทางศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้มีการดำเนินการไปแล้วอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังได้กล่าวถึงความคืบหน้าการเปิดพื้นที่พูดคุยสันติภาพกับผู้ที่คิดต่างจากรัฐว่า เป็นนโยบายของรัฐบาลที่ในขณะนี้ยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่องโดยแม่ทัพภาคที่ ๔ ส่วนเรื่องปัญหาภัยแทรกซ้อน ถือเป็นภารกิจที่ต้องเร่งแก้ไข ขณะนี้ได้สั่งการให้ฝ่ายตำรวจและฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการในเรื่องนี้อย่างเคร่งครัด และยืนยันจะตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยคณะกรรมการพิเศษ หากพบเจ้าหน้าที่ทำผิด ต้องมีการลงโทษและดำเนินคดีตามกฎหมาย
ด้านพันตำรวจเอกทวี สอดส่อง เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวถึงการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ชุมนุมที่อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส เมื่อวันที่ ๒๕ ตุลาคม ๒๕๔๗ ว่า เป้าหมายของการเยียวยาคือการให้ความดูแลเรื่องคุณภาพชีวิต ให้ผู้ได้รับผลกระทบสามารถดำเนินชีวิตในสังคมได้อย่างไม่เป็นภาระ ที่สำคัญคือการดูแลด้านจิตใจ ซึ่งส่วนนี้ทางศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ก็ได้ให้การเยียวยาครบทุกมิติ เชื่อว่าบุคคลกลุ่มนี้น่าจะมีพลังในการพัฒนาพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ร่วมกับคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดนราธิวาส จัดกิจกรรมช่วยเหลือเด็กกำพร้า และทำบุญระลึกถึงผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ชุมนุม โดยมีผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ในครั้งนั้นร่วมกิจกรรมและให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี สิ่งนี้เป็นสัญญาณที่แสดงให้เห็นว่าทุกคนมีความต้องการที่จะออกจากวังวนของความรุนแรง ซึ่งหากได้พลังของมวลชนมาร่วมกันแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ก็จะสามารถช่วยให้การขับเคลื่อนการทำงานเป็นไปอย่างราบรื่นมากยิ่งขึ้น
จากนั้นเวลา ๑๔.๓๐ น. รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง และคณะ เดินทางต่อไปยังโรงแรมซี.เอส. ปัตตานี อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี เพื่อร่วมการประชุมหารือสมาชิกสมาคมปัญญาชนมุสลิมจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อรับฟังข้อเสนอแนะตามนโยบายการมีส่วนร่วมทุกภาคส่วนในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ โดยมีอาจารย์ อับดุลเลาะ หะยียามา นายกสมาคมปัญญาชนมุสลิมจังหวัดชายแดนภาคใต้ สรุปผลการพบปะหารือและกำหนดแนวทางการปฏิบัติงานของคณะกรรมการและสมาชิกปัญญาชนมุสลิมจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในการนี้ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคงและ ผู้บัญชาการทหารบก ได้ตอบข้อซักถามและแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเรื่องแนวทางการแก้ไขสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่กับสมาชิกสมาคมฯ อีกด้วย
อาจารย์อับดุลเลาะ หะยียามา นายกสมาคมปัญญาชนมุสลิมจังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวว่า รู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่ง ที่รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคงและผู้บัญชาการทหารบก ร่วมพบปะหารือกับกลุ่มสมาชิกในวันนี้ และมองว่าการทำงานที่ผ่านมาของภาครัฐดำเนินมาถูกทางแล้ว พี่น้องประชาชนในพื้นที่มีความไว้ใจเจ้าหน้าที่รัฐมากขึ้น และรู้สึกว่าการที่ทางสมาคมฯ ได้เข้ามามีส่วนร่วมกับภาครัฐก่อให้เกิดประโยชน์ในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ เพราะจากการร่วมประชุมหารือแนวทางการทำงานกับแม่ทัพภาคที่ ๔ ในห้วงที่ผ่านมา ได้มีการนำข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากสมาคมฯ ไปใช้ในการกำหนดยุทธศาสตร์การปฏิบัติงานในหลายๆด้าน พร้อมย้ำว่าจะเร่งทำความเข้าใจกับนักเรียนนักศึกษา รวมถึงพี่น้องประชาชนให้มีความเข้าใจที่ถูกต้องถึงกรอบการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐ ในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบจังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างต่อเนื่อง.
ขอขอบคุณข้อมูล/ภาพ : ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค ๔ ส่วนหน้า
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
There is no related posts.