คุณอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เดินทางไปติดตามสถานการณ์การค้าชายแดนไทย-มาเลเซีย อำเภอสะเดา และอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ระหว่างวันที่ 11-12 กุมภาพันธ์ 2558 เร่งผลักดันการขยายตัวการค้าไทย-มาเลเซียและร่วมมือกับผู้ประกอบการไทยในพื้นที่ภาคใต้ พร้อมขยายตลาดสู่ประเทศเพื่อนบ้าน รวมทั้งส่งเสริมการใช้โอกาสจากการรวมตัวเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนให้เกิดประโยชน์สูงสุด
รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า การเดินทางลงพื้นที่ในอำเภอหาดใหญ่และอำเภอสะเดา จังหวัดสงขลาในครั้งนี้ เพื่อติดตามสถานการณ์การค้าชายแดนไทย-มาเลเซีย ประชุมหารือร่วมกับผู้ว่าราชการ 5 จังหวัดชายแดนใต้ ศอ.บต. หน่วยงานภาครัฐและเอกชนในพื้นที่ในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2558 โดยเป็นการนำเสนอยุทธศาสตร์การพัฒนาการค้าชายแดนและแผนปฏิบัติการผลักดันการค้าชายแดนด้านมาเลเซีย และรับทราบข้อมูลข้อเสนอแนะของภาครัฐและภาคเอกชนในพื้นที่ เพื่อร่วมมือกันขยายการค้าชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยเน้นสินค้าเป้าหมายที่มีศักยภาพในการส่งออกไปมาเลเซีย อาทิ ยางพารา สินค้าอาหารทะเล ไม้แปรรูป รวมทั้งธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง และธุรกิจโรงแรม เป็นต้น สำหรับในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2558 จะมีงานสัมมนาเชิงปฏิบัติการเรื่อง “เขตเศรษฐกิจพิเศษและโอกาสการขยายการค้า การลงทุนด้านชายแดนภาคใต้” และในขณะเดียวกันจะมีการประชุมหารืออย่างใกล้ชิดร่วมกับหน่วยงานสังกัดกระทรวงพาณิชย์จังหวัดสงขลาและภาคธุรกิจที่สำคัญในจังหวัดสงขลา เพื่อติดตามสถานการณ์ค่าครองชีพและราคาสินค้าในพื้นที่ นอกจากนี้ รมช.พาณิชย์จะเดินทางไปติดตามสถานการณ์การค้าชายแดนที่ด่านสะเดา โดยเฉพาะความคืบหน้าในการจัดตั้งการดำเนินการพิธีการศุลกากรตรวจปล่อยสินค้า ณ จุดเดียวกัน (Single Stop Inspection : SSI) การแก้ไขความแออัดของด่านสะเดา การขนส่งสินค้าเน่าเสียง่ายผ่านแดนไปยังมาเลเซีย และข้อกำหนดรถขนสินค้าและรถโดยสารผ่านแดนไปมาเลเซีย เพื่อนำมาเป็นข้อมูลในการผลักดันอำนวยความสะดวกการค้าชายแดนต่อไป
รมช.พาณิชย์ เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ตามที่คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษได้มีประกาศเมื่อวันที่ 19 มกราคม 2558 กำหนดพื้นที่อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลาเป็น 1 ใน 5 เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษในปี 2558 ถือเป็นเรื่องสำคัญที่จะสร้างความมั่นใจให้นักลงทุนขยายการลงทุนเพิ่มในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ โดยเฉพาะสะเดาและปาดังเบซาร์ เป็นด่านส่งออกอันดับ 1 และอันดับ 2 ของไทยด้านชายแดนไทย-มาเลเซีย เป็นเมืองหน้าด่านที่มีมูลค่าการค้าชายแดนสูงที่สุดประมาณปีละ 3.5 แสนล้านบาท และ 1.5 แสนล้านบาท ตามลำดับ ดังนั้นการลงพื้นที่ในครั้งนี้จึงเป็นการดำเนินการที่สอดคล้องกับการพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษสะเดาที่จะเป็นสิ่งที่กระตุ้นให้การค้าชายแดนมีมูลค่าเพิ่มมากขึ้นและเป็นไปตามเป้าหมาย 1.5 ล้านล้านบาทในปี 2558
การค้าชายแดนของไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน 4 ประเทศ (มาเลเซีย-เมียนมา-สปป.ลาว –กัมพูชา) ปี 2557 มีมูลค่าการค้ารวม 987,572 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 7 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา สำหรับการค้าชายแดนไทย-มาเลเซียในปี 2557 มีมูลค่าทั้งสิ้น 507,655 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 51 ของการค้าชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน และคิดเป็นร้อยละ 62 ของการค้ารวมไทย-มาเลเซีย แยกเป็นการส่งออก 274,992 ล้านบาท การนำเข้า 232,663 ล้านบาท สินค้าส่งออกที่สำคัญได้แก่ ยางพารา เครื่องคอมพิวเตอร์ ผลิตภัณฑ์ยาง และไม้แปรรูป เป็นต้น โดยในปี 2557 มูลค่าการส่งออกยางพาราลดลงร้อยละ 26 เนื่องจากราคายางตกต่ำ ในส่วนสินค้านำเข้าที่สำคัญได้แก่ สื่อบันทึกข้อมูล ภาพ เสียง เทปแม่เหล็ก จานแม่เหล็กสำหรับคอมพิวเตอร์ เครื่องคอมพิวเตอร์ และส่วนประกอบคอมพิวเตอร์ เป็นต้น ทั้งนี้หากพิจารณามูลค่าการค้าชายแดนไทย-มาเลเซีย รายด่านการค้าปี 2557 จะพบว่าด่านการค้าที่มีมูลค่าการค้ามากที่สุดได้แก่ ด่านสะดา 348,777 ล้านบาท ด่านปาดังเบซาร์ 141,933 ล้านบาท และด่านเบตง 3,534 ล้านบาท ตามลำดับ.
ภาพ/ข่าว สุจินต์ ชูแสง
ผู้สื่อข่าวพิเศษ หนังสือพิมพ์บ้านข่าว
July 26, 2024
July 24, 2023
July 6, 2023
June 16, 2023
ชื่อ-สกุล*
อีเมล์*
เว็ปไซต์
แสดงความคิดเห็น
Notify me of follow-up comments by email.
Notify me of new posts by email.
Δ
รมช.พาณิชย์ลงพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนใต้ ผนึกกำลังรัฐ-เอกชน เร่งขยายการค้าชายแดนไทย-มาเลเซีย
คุณอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เดินทางไปติดตามสถานการณ์การค้าชายแดนไทย-มาเลเซีย อำเภอสะเดา และอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ระหว่างวันที่ 11-12 กุมภาพันธ์ 2558 เร่งผลักดันการขยายตัวการค้าไทย-มาเลเซียและร่วมมือกับผู้ประกอบการไทยในพื้นที่ภาคใต้ พร้อมขยายตลาดสู่ประเทศเพื่อนบ้าน รวมทั้งส่งเสริมการใช้โอกาสจากการรวมตัวเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนให้เกิดประโยชน์สูงสุด
รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า การเดินทางลงพื้นที่ในอำเภอหาดใหญ่และอำเภอสะเดา จังหวัดสงขลาในครั้งนี้ เพื่อติดตามสถานการณ์การค้าชายแดนไทย-มาเลเซีย ประชุมหารือร่วมกับผู้ว่าราชการ 5 จังหวัดชายแดนใต้ ศอ.บต. หน่วยงานภาครัฐและเอกชนในพื้นที่ในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2558 โดยเป็นการนำเสนอยุทธศาสตร์การพัฒนาการค้าชายแดนและแผนปฏิบัติการผลักดันการค้าชายแดนด้านมาเลเซีย และรับทราบข้อมูลข้อเสนอแนะของภาครัฐและภาคเอกชนในพื้นที่ เพื่อร่วมมือกันขยายการค้าชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยเน้นสินค้าเป้าหมายที่มีศักยภาพในการส่งออกไปมาเลเซีย อาทิ ยางพารา สินค้าอาหารทะเล ไม้แปรรูป รวมทั้งธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง และธุรกิจโรงแรม เป็นต้น สำหรับในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2558 จะมีงานสัมมนาเชิงปฏิบัติการเรื่อง “เขตเศรษฐกิจพิเศษและโอกาสการขยายการค้า การลงทุนด้านชายแดนภาคใต้” และในขณะเดียวกันจะมีการประชุมหารืออย่างใกล้ชิดร่วมกับหน่วยงานสังกัดกระทรวงพาณิชย์จังหวัดสงขลาและภาคธุรกิจที่สำคัญในจังหวัดสงขลา เพื่อติดตามสถานการณ์ค่าครองชีพและราคาสินค้าในพื้นที่ นอกจากนี้ รมช.พาณิชย์จะเดินทางไปติดตามสถานการณ์การค้าชายแดนที่ด่านสะเดา โดยเฉพาะความคืบหน้าในการจัดตั้งการดำเนินการพิธีการศุลกากรตรวจปล่อยสินค้า ณ จุดเดียวกัน (Single Stop Inspection : SSI) การแก้ไขความแออัดของด่านสะเดา การขนส่งสินค้าเน่าเสียง่ายผ่านแดนไปยังมาเลเซีย และข้อกำหนดรถขนสินค้าและรถโดยสารผ่านแดนไปมาเลเซีย เพื่อนำมาเป็นข้อมูลในการผลักดันอำนวยความสะดวกการค้าชายแดนต่อไป
รมช.พาณิชย์ เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ตามที่คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษได้มีประกาศเมื่อวันที่ 19 มกราคม 2558 กำหนดพื้นที่อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลาเป็น 1 ใน 5 เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษในปี 2558 ถือเป็นเรื่องสำคัญที่จะสร้างความมั่นใจให้นักลงทุนขยายการลงทุนเพิ่มในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ โดยเฉพาะสะเดาและปาดังเบซาร์ เป็นด่านส่งออกอันดับ 1 และอันดับ 2 ของไทยด้านชายแดนไทย-มาเลเซีย เป็นเมืองหน้าด่านที่มีมูลค่าการค้าชายแดนสูงที่สุดประมาณปีละ 3.5 แสนล้านบาท และ 1.5 แสนล้านบาท ตามลำดับ ดังนั้นการลงพื้นที่ในครั้งนี้จึงเป็นการดำเนินการที่สอดคล้องกับการพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษสะเดาที่จะเป็นสิ่งที่กระตุ้นให้การค้าชายแดนมีมูลค่าเพิ่มมากขึ้นและเป็นไปตามเป้าหมาย 1.5 ล้านล้านบาทในปี 2558
การค้าชายแดนของไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน 4 ประเทศ (มาเลเซีย-เมียนมา-สปป.ลาว –กัมพูชา) ปี 2557 มีมูลค่าการค้ารวม 987,572 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 7 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา สำหรับการค้าชายแดนไทย-มาเลเซียในปี 2557 มีมูลค่าทั้งสิ้น 507,655 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 51 ของการค้าชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน และคิดเป็นร้อยละ 62 ของการค้ารวมไทย-มาเลเซีย แยกเป็นการส่งออก 274,992 ล้านบาท การนำเข้า 232,663 ล้านบาท สินค้าส่งออกที่สำคัญได้แก่ ยางพารา เครื่องคอมพิวเตอร์ ผลิตภัณฑ์ยาง และไม้แปรรูป เป็นต้น โดยในปี 2557 มูลค่าการส่งออกยางพาราลดลงร้อยละ 26 เนื่องจากราคายางตกต่ำ ในส่วนสินค้านำเข้าที่สำคัญได้แก่ สื่อบันทึกข้อมูล ภาพ เสียง เทปแม่เหล็ก จานแม่เหล็กสำหรับคอมพิวเตอร์ เครื่องคอมพิวเตอร์ และส่วนประกอบคอมพิวเตอร์ เป็นต้น ทั้งนี้หากพิจารณามูลค่าการค้าชายแดนไทย-มาเลเซีย รายด่านการค้าปี 2557 จะพบว่าด่านการค้าที่มีมูลค่าการค้ามากที่สุดได้แก่ ด่านสะดา 348,777 ล้านบาท ด่านปาดังเบซาร์ 141,933 ล้านบาท และด่านเบตง 3,534 ล้านบาท ตามลำดับ.
ภาพ/ข่าว สุจินต์ ชูแสง
ผู้สื่อข่าวพิเศษ หนังสือพิมพ์บ้านข่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เทพไทย คว้า 2 รางวัล อย. ควอลิตี้ อวอร์ด ...
July 26, 2024
มันนี่เอ็กซ์โปหาดใหญ่ 2023 เงินสะพัดทะลุ 8 พันล้านบาท
July 24, 2023
ไทยเวียตออกโปรฯ “Fly Green Sale” บินต่างประเทศเริ่ม 1,777 บาท
July 6, 2023
วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย พบปะสื่อมวลชนจังหวัดสงขลา ตอกย้ำแผนการจำหน่ายเฉพาะรถไฟฟ้าเต็มรูปแบบในปี 2025 รถวอลโว่ฉลองครบรอบ ...
June 16, 2023