เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2558 เวลา 0930 พันเอกปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า ภายหลังได้เกิดเหตุการณ์ปะทะในพื้นที่อำเภอมายอ เป็นเหตุให้ผู้ก่อเหตุรุนแรงเสียชีวิต 3 ราย ได้มีบุคคลบางกลุ่มพยายามบิดเบือนข้อเท็จจริง ผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ กล่าวหาเจ้าหน้าที่สังหารนักเรียนมลายูภายในโรงเรียนปอเนาะยุวอิสลามมูลนิธิ บ้านน้ำใส พร้อมทั้งมีการจัดฉากยัดอาวุธปืนให้กับผู้เสียชีวิต ทำให้สังคมเกิดการเข้าใจผิด และสงสัยการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่
จากกรณีดังกล่าว กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ขอชี้แจงเพื่อสร้างความเข้าใจดังนี้ 1. จากการตรวจสอบพบว่า ผู้เสียชีวิตทั้ง 3 คน เป็นผู้ก่อเหตุรุนแรงระดับสั่งการและระดับปฏิบัติการ เคยก่อเหตุความรุนแรงมาหลายครั้ง และมีหมายจับ ป.วิฯอาญา รวมกันหลายหมาย จึงเห็นได้ว่าผู้เสียชีวิตทั้ง 3 คน ไม่ได้เป็นนักเรียนโรงเรียนปอเนาะ และสถานที่เกิดเหตุเป็นบ้านพักเจ้าของโรงเรียนมิใช่อาคารเรียนตามที่กล่าวอ้าง ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ชุดติดตามจับกุมได้ปฏิบัติ ตามขั้นตอนของกฎหมายโดยใช้มาตรการจากเบาไปหาหนัก โดยเชิญผู้ใหญ่บ้าน, ผู้นำศาสนา และเจ้าของโรงเรียน ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านที่เกิดเหตุพร้อมด้วยพี่ชายของ นาย มาหะมะซาบรี ดอเล๊าะ ช่วยเจรจาเกลี้ยกล่อมให้มอบตัวติดต่อกันกว่า 8 ชั่วโมง ตั้งแต่เวลา 0300 โดยมีผู้ออกมามอบตัว 3 คน และได้รับการดูแลจากเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี แต่ผู้ก่อเหตุรุนแรง ซึ่งหลบซ่อนอยู่ภายในบ้าน ไม่ยอมมอบตัวจนนำไปสู่ความสูญเสียดังกล่าว และสามารถหลบหนีไปได้ จำนวน 2 คน 2. สำหรับกรณีอาวุธปืน บนร่างของผู้ที่เสียชีวิต จากผลการซักถาม 1 ใน 3 ผู้ถูกควบคุมตัวให้การยอมรับว่าเป็นผู้นำผู้ก่อเหตุรุนแรงเข้ามาหลบซ่อนในบ้านดังกล่าว ก่อนเกิดเหตุ 2 วัน มีจำนวน 5 คน พร้อมอาวุธหลายกระบอก และยืนยันว่า นาย มาหะมะซาบรี ดอเล๊าะ 1 ใน 3 ผู้เสียชีวิต มีอาวุธปืนสงครามในระหว่างปะทะกับเจ้าหน้าที่ และจากการตรวจสอบพบว่าเป็นอาวุธปืนเล็กยาว M4 CABINE ที่คนร้ายได้แย่งชิงไปจากตำรวจชุดปราบปรามน้ำมันเถื่อน ซึ่งถูกโจมตีเสียชีวิต 5 นาย เมื่อ 11 กันยายน 2556 จึงชี้ให้เห็นว่าเจ้าหน้าที่ไม่ได้จัดฉากยัดอาวุธปืนให้กับผู้เสียชีวิตแต่อย่างใด 3. กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า จึงขอเรียกร้องให้ภาคส่วนต่างๆ ช่วยกันตรวจสอบพฤติกรรม ของกลุ่มบุคคลที่มีเจตนาบิดเบือนข้อเท็จจริง เพื่อสร้างความหวาดระแวงและความเกลียดชังในสังคม เพราะเป็นการกระทำที่เข้าข่ายผิดกฎหมาย สำหรับผู้ที่ถูกควบคุมตัวทั้ง 3 คน จะทำการสอบสวนเพื่อขยายผลไปยังกลุ่มบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องต่อไป.
June 12, 2025
June 10, 2025
June 8, 2025
ชื่อ-สกุล*
อีเมล์*
เว็ปไซต์
แสดงความคิดเห็น
Notify me of follow-up comments by email.
Notify me of new posts by email.
Δ
กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีเหตุปะทะ เสียชีวิต 3 ศพ อำเภอมอยอ จังหวัดปัตตานี
เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2558 เวลา 0930 พันเอกปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า ภายหลังได้เกิดเหตุการณ์ปะทะในพื้นที่อำเภอมายอ เป็นเหตุให้ผู้ก่อเหตุรุนแรงเสียชีวิต 3 ราย ได้มีบุคคลบางกลุ่มพยายามบิดเบือนข้อเท็จจริง ผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ กล่าวหาเจ้าหน้าที่สังหารนักเรียนมลายูภายในโรงเรียนปอเนาะยุวอิสลามมูลนิธิ บ้านน้ำใส พร้อมทั้งมีการจัดฉากยัดอาวุธปืนให้กับผู้เสียชีวิต ทำให้สังคมเกิดการเข้าใจผิด และสงสัยการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่
จากกรณีดังกล่าว กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ขอชี้แจงเพื่อสร้างความเข้าใจดังนี้
1. จากการตรวจสอบพบว่า ผู้เสียชีวิตทั้ง 3 คน เป็นผู้ก่อเหตุรุนแรงระดับสั่งการและระดับปฏิบัติการ เคยก่อเหตุความรุนแรงมาหลายครั้ง และมีหมายจับ ป.วิฯอาญา รวมกันหลายหมาย จึงเห็นได้ว่าผู้เสียชีวิตทั้ง 3 คน ไม่ได้เป็นนักเรียนโรงเรียนปอเนาะ และสถานที่เกิดเหตุเป็นบ้านพักเจ้าของโรงเรียนมิใช่อาคารเรียนตามที่กล่าวอ้าง ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ชุดติดตามจับกุมได้ปฏิบัติ ตามขั้นตอนของกฎหมายโดยใช้มาตรการจากเบาไปหาหนัก โดยเชิญผู้ใหญ่บ้าน, ผู้นำศาสนา และเจ้าของโรงเรียน ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านที่เกิดเหตุพร้อมด้วยพี่ชายของ นาย มาหะมะซาบรี ดอเล๊าะ ช่วยเจรจาเกลี้ยกล่อมให้มอบตัวติดต่อกันกว่า 8 ชั่วโมง ตั้งแต่เวลา 0300 โดยมีผู้ออกมามอบตัว 3 คน และได้รับการดูแลจากเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี แต่ผู้ก่อเหตุรุนแรง ซึ่งหลบซ่อนอยู่ภายในบ้าน ไม่ยอมมอบตัวจนนำไปสู่ความสูญเสียดังกล่าว และสามารถหลบหนีไปได้ จำนวน 2 คน
2. สำหรับกรณีอาวุธปืน บนร่างของผู้ที่เสียชีวิต จากผลการซักถาม 1 ใน 3 ผู้ถูกควบคุมตัวให้การยอมรับว่าเป็นผู้นำผู้ก่อเหตุรุนแรงเข้ามาหลบซ่อนในบ้านดังกล่าว ก่อนเกิดเหตุ 2 วัน มีจำนวน 5 คน พร้อมอาวุธหลายกระบอก และยืนยันว่า นาย มาหะมะซาบรี ดอเล๊าะ 1 ใน 3 ผู้เสียชีวิต มีอาวุธปืนสงครามในระหว่างปะทะกับเจ้าหน้าที่ และจากการตรวจสอบพบว่าเป็นอาวุธปืนเล็กยาว M4 CABINE ที่คนร้ายได้แย่งชิงไปจากตำรวจชุดปราบปรามน้ำมันเถื่อน ซึ่งถูกโจมตีเสียชีวิต 5 นาย เมื่อ 11 กันยายน 2556 จึงชี้ให้เห็นว่าเจ้าหน้าที่ไม่ได้จัดฉากยัดอาวุธปืนให้กับผู้เสียชีวิตแต่อย่างใด
3. กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า จึงขอเรียกร้องให้ภาคส่วนต่างๆ ช่วยกันตรวจสอบพฤติกรรม ของกลุ่มบุคคลที่มีเจตนาบิดเบือนข้อเท็จจริง เพื่อสร้างความหวาดระแวงและความเกลียดชังในสังคม เพราะเป็นการกระทำที่เข้าข่ายผิดกฎหมาย สำหรับผู้ที่ถูกควบคุมตัวทั้ง 3 คน จะทำการสอบสวนเพื่อขยายผลไปยังกลุ่มบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องต่อไป.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
โรงไฟฟ้าขนอม ร่วมสร้างชุมชนสุขภาวะดี สนับสนุน”เจดีย์หลวงคัพ ครั้งที่ 13″ ส่งเสริมสุขภาพแข็งแรง
June 12, 2025
นายอำเภอขนอมร่วมพิธีเปิดแพรคลุมป้ายและตัดริบบิ้นอาคารสำนักงานมูลนิธิสว่างขนอมธรรมสถาน
June 10, 2025
จังหวัดปัตตานี โดยสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดปัตตานี ขอเชิญร่วมงาน “กิจกรรมแสดงสิน ค้า วัฒนธรรม และของดีเมืองตานี ...
June 8, 2025
#หาดทิพย์ สานต่อความสำเร็จ ‘Show Proud ปี 2’. ปลุกพลังเยาวชนใต้โชว์ของ! ...
June 8, 2025